Authority & Harm
ภัยสังคม!แค่คิดว่า'มองหน้า'ไล่ฆ่ากันแล้ว หนุ่มเชียงใหม่ขับกระบะไล่ยิงดับ1เจ็บ1
เชียงใหม่-รวบแล้วผู้ต้องหาอดีตนักกีฬายิงปืนขับรถกระบะไล่ยิง 2 หนุ่มบนถนนป่าไผ่ จว.เชียงใหม่ เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สารภาพลงมือก่อเหตุจริง อ้างคิดว่าผู้ตายมองหน้าขณะติดไฟแดง
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 16 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 มี.ค.) เวลา 23.40 น. ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ปัญญาดี รองสว.(สอบสวน) สภ.สันกำแพง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงรถยนต์มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บริเวณถนนป่าไผ่-ซุปเปอร์ หน้าร้านกาแฟ More&Fresh หมู่ 8 ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ จึงรายงานผู้บัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ณัฐพล จันมะโน ผกก.สภ.สันกำแพง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตร.
ทั้งนี้ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีเทา ทะเบียน ยค 6222 เชียงใหม่ สภาพตกลงไปในคูน้ำข้างทาง ที่ฝั่งคนขับพบร่างนายเอก ผู้รักสิทธิ์ อายุ 28 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณดวงตาขวา 1 นัด และหัวไหล่ขวา 2 นัด อาการสาหัส ภายหลังนำตัวส่ง รพ.ก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหล และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนฝั่งคนนั่งข้างมี นายนภสินธิ์ ไตรปิฎก อายุ 41 ปี ถูกยิงที่หัวไหล่ด้านซ้าย ถูกนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ลานนา จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะผู้บากเจ็บ พบมีร่องรอยรูกระสุน เข้าที่บริเวณประตู และแคปฝั่งขวา จำนวนหลาย พบปลอกกระสุนตกอยู่ บริเวณสะพานข้ามคูน้ำไปร้านกาแฟ จำนวน 6 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้
ต่อมาฝ่ายสืบสวนจึงร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายขับรถยนต์หลบหนี จนทราบตัวผู้ก่อเหตุคือ นายรุ่งโรจน์ พรหมศิริ อายุ 42 ปี อดีตนักกีฬายิงปิน โดยรถที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะมิตซูมิชิ สีขาว ทะเบียน งจ 7629 เชียงใหม่ จึงได้ขออนุมัติหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อออกหมายจับ ก่อนนำกำลังเข้าไปจับกุมตัวนายรุ่งโรจน์ พรหมศิริ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาไว้ได้ที่หอพักคำม่อนเรสซิเด้นท์ ตำบลไชยสถาน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจค้นในห้องพักยังพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุขนาด .45 และปืนลูกโม่ รวม 2 กระบอก และแม็กกาซีน จำนวนหนึ่ง ก่อนควบคุมตัวส่งให้ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่อสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายรุ่งโรจน์ ผู้ต้องหาให้การว่า วันเกิดเหตุได้ไปดื่มเบียร์มาก่อนแล้ว และจะขับรถเล่นขณะที่ขับรถเล่นจอดติดไฟแดงบริเวณแยกสันต้นดู่ มองไปเห็นตู้สัญญาณไฟจราจร ซึ่งมีผู้วาดรูปคนไว้ คิดว่าเข้ามองหน้า จึงจอดรถยนต์ไว้ก่อนจะลงไปยิงตู้สัญญาณไฟไป 2 นัด จากนั้นได้กลับมาขึ้นรถ และเห็นรถของนายเอก ผู้ตาย ที่นั่งมากับนายนภสินธิ์ ขับผ่านมา อ้างว่าทั้งสองคนมองหน้าตนเอง จึงขับรถไล่ตามประกบยิง จนรถเสียหลักก่อนจะลงจากรถไปยิงซ้ำ 10 กว่านัด ก่อนจะขับรถยนต์กระบะกลับมายังหอพักในอำเภอสารภี กระทั่งมาถูกจับกุมได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่าและยิงปืนในที่สาธารณะและทำให้เสียของทรัพย์"
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับคดีอาวุธปืนเมื่อเดือน พ.ย.66 เนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่าชอบยิงปืนขึ้นฟ้า ทำให้รู้สึกหวาดกลัวซึ่งตำรวจก็ได้ยึดอาวุธปืนซีแซดและทำการขอเพิกถอนใบอนุญาต