In News

จี้ฝ่ายค้านเงินทอนงบไฟป่ามีใบเสร็จไหม หากมีหลักฐานโชว์เลยพร้อมฟันไม่เลี้ยง



กรุงเทพฯ-“เกณิกา” จี้ คลิปอ้างงบลุยไฟป่าเป็นงบทอนที่มีการจองไว้ หากมีหลักฐานควรเปิดมา พร้อมลงดาบคนผิด จะใช้เสรีภาพต้องรับผิดชอบคำพูดด้วย

วันนี้ 17 มี.ค. 67 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์บทสนทนาผ่านโซเชียลมีเดีย ในกลุ่มบุคคลที่มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระหว่างการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับอาสาของมูลนิธิกระจกเงา โดยมีการระบุว่า งบลุยไฟป่า เป็นงบทอนที่จองไว้แล้วตั้งแต่ไม่มีภัยพิบัตินั้น ตนคิดว่า ไม่ทราบถึงเจตนาของผู้พูดว่า การระบุเช่นนี้มีหลักฐานยืนยันสิ่งที่กล่าวออกมาหรือไม่ เพราะการพูดลักษณะนี้ก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ขอให้ส่งหลักฐานมาให้รัฐบาลได้ทันที แต่ขออย่าให้มีการพูดลอยๆแบบนี้ รัฐบาลเข้าใจในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่ก็ต้องควบคู่กับความรับผิดชอบในคำพูดของตัวเองด้วย

“รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการเปิดเผยที่เกิดขึ้น และหากมีหลักฐานยืนยันตัวของผู้กระทำผิดก็ขอให้ส่งมาที่ดิฉันได้เลย หรือจะให้เดินทางไปพบที่ใดก็สามารถทำได้ ซึ่งดิฉันจะนำรายงานต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อดำเนินการตรวจสอบทันทีการกระทำผิดดังกล่าวทันที”น.ส.เกณิกา กล่าว

น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นให้กับพี่น้องประชาชนแบบเร่งด่วน เพราะงบกลางที่อนุมัติไปถือเป็นครั้งแรกที่ถูกจัดสรรไปสู่ประชาชนโดยตรง เพื่อจัดสรรในการดับไฟป่า และท่านนายก ได้เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสตรวจสอบได้ รวมถึง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2566  งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงินทั้งสิ้น 272,655,350 บาท ซึ่งเมื่อวันที่  3 มี.ค.ที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติงบดังกล่าวทันที โดยแบ่งเป็นการดำเนินการโดยกรมป่าไม้ เป็นเงิน 109,946,650 บาท และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเงิน 162,708,700 บาท และถือว่าเป็นครั้งแรกที่ใช้งบกลาง เพราะรัฐบาลเพิ่งจะมีงบประมาณปี 67 ที่สามารถใช้ได้

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เน้นย้ำให้ กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ให้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ขอเน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดจ้าง การจ้างแรงงานในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากมีการกระทำผิดที่ส่อว่ามีการใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนอย่างไม่โปร่งใส รัฐบาลจะไม่ปล่อยผ่านและจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน