Health & Beauty

'วัตสัน'ชูหัวใจสำคัญเรื่องความเท่าเทียม หนุนพลังหญิงเนื่องในวันสตรีสากล



กรุงเทพฯ-วันสตรีสากล นับเป็นวันสำคัญสำหรับผู้หญิงทั่วโลก ซึ่ง วัตสัน ประเทศไทย รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองความสำเร็จ ส่งเสริมความแข็งแกร่ง และความเท่าเทียมของผู้หญิง ในฐานะร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย วัตสันเข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างโลกที่ทุกคนมีโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จ ตามแบบฉบับของตัวเองได้อย่างเท่าเทียมกัน

เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้วที่วัตสันเดินหน้าในการเป็นกระบอกเสียงด้านความเท่าเทียมเพื่อผู้หญิง และด้วยความเข้าใจถึงความท้าทายที่ผู้หญิงต้องพบเจอในสังคมในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็น ความท้าทายและโอกาสเติบโตในที่ทำงาน มาตรฐานความงาม ภัยคุกคามทางเพศ รวมถึงความรุนแรงในผู้หญิง  โดยสถิติในปี 2565 จากองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) เผยว่า ทั่วโลกมีเด็กผู้หญิงและผู้หญิงจำนวนถึง 48,800 คนที่ถูกคนใกล้ชิด อย่างคนรัก คู่สมรส หรือสมาชิกในครอบครัวและญาติ ทำร้ายจนเสียชีวิต เฉลี่ยแล้วในทุกหนึ่งชั่วโมงจะมีเด็กผู้หญิงหรือผู้หญิงมากกว่า 5 คนที่เสียชีวิตจากคนใกล้ตัว

ด้วยความท้าทายต่างๆ เหล่านี้ทำให้วัตสัน มุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียม และเป็นมิตรต่อผู้หญิงมากขึ้น ซึ่งความตั้งใจนี้ยังฝังลึกอยู่ใน 3 หัวใจสำคัญในการทำธุรกิจที่ส่งเสริมด้านความยั่งยืนของวัตสัน อันได้แก่ People หรือการให้ความสำคัญในด้านผู้คน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรภายในหรือภายนอกองค์กร ซึ่งวัตสันให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อด้านสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียม กับคนทุกกลุ่ม อันรวมถึงผู้หญิง ควบคู่ไปกับอีก 2 แกนสำคัญอย่าง ด้าน Planet หรือการให้ความสำคัญกับโลกและสิ่งแวดล้อม และด้าน Product หรือการใส่ใจในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ  ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งวัตสันเชื่อว่าทุกคนควรได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม และได้คำนึงถึงประเด็นนี้ในทุกๆ การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของวัตสัน

ในปีนี้ วัตสันได้เปิดตัว แคมเปญ ‘Our Time is Now’ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนผู้หญิงก้าวข้ามขีดจำกัดและกล้าที่จะเป็นตัวเองอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญกับเป้าหมายของตัวเอง และทำให้มันเกิดขึ้นจริง ซึ่งตลอดทั้งเดือน วัตสัน จะมีกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนต่างๆ มากมายทั้งในไทย และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก โดยหนึ่งในกิจกรรมที่วัตสัน ประเทศไทย ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานเป็นประจำทุกปีเพื่อส่งเสริมพลังหญิง อย่าง ‘Green Ribbon’ กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนเงินสมทบทุนให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี ฯ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “บ้านพักฉุกเฉิน” ซึ่งเป็นที่พักพิงชั่วคราวทั้งร่างกายและจิตใจให้แก่ผู้หญิง และเด็กที่ประสบปัญหาวิกฤตในชีวิต โดยให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย อาหาร ดูแล สุขภาพอนามัย รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำ การให้ทักษะชีวิตและกำลังใจ โดยใช้หลักการสังคมสงเคราะห์และกระบวนการจัดกลุ่มบำบัดทางจิต การส่งเสริมความรู้และฝึกอาชีพ เพื่อนำไปสู่ความเชื่อมั่นในตนเอง สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป

กิจกรรม Green Ribbon ในปีนี้ จัดขึ้นที่อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ นำโดยคุณ บดินทร์ เปรมประเสริฐ Customer Controller วัตสัน ประเทศไทยและสองหนุ่มคู่จิ้น ‘บุ๋น-เปรม ที่มาร่วมเป็นกระบอกเสียง เชิญชวนผู้ที่ผ่านไปผ่านมา รวมถึงแฟนคลับ มามีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ เพียงซื้อ Green Ribbon หรือ โบว์สีเขียว ในราคาเพียงชิ้นละ 20 บาท ที่วัตสันทุกสาขา รายได้ทั้งหมดจากการจัดจำหน่ายจะนำไปสมทบทุนเพื่อบริจาคให้กับบ้านพักฉุกเฉินโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่าย  นอกจากนี้ วัตสันยังร่วมมือกับโดฟ ประเทศไทย ทุกๆ การซื้อผลิตภัณฑ์โดฟ 1 ชิ้นในร้านวัตสัน จะร่วมบริจาคให้กับบ้านพักฉุกเฉินเพิ่มอีก 5 บาท เพื่อมีส่วนช่วยในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เราอยากเห็น ให้เกิดขึ้นจริงกับทั้งผู้หญิงและสังคมของเรา

คุณ บดินทร์ เปรมประเสริฐ Customer Controller วัตสัน ประเทศไทย กล่าวถึงมุมมองของวัตสันต่อประเด็นด้านความเท่าเทียม โดยเฉพาะความเท่าเทียมของผู้หญิงว่า “วัตสัน เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคมที่เราอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องของผู้คน โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งเราเชื่อว่าผู้หญิงมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างมากในสังคมของเรา และเราอยากใช้โอกาสนี้ เฉลิมฉลองและสนับสนุนให้ผู้หญิงเห็นคุณค่าและความสามารถของตนเอง เพื่อสร้างโลกที่ผู้หญิงสามารถเติบโต เป็นผู้นำและสร้างแรงบันดาลใจต่อไปในอนาคต”

วัตสัน ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสังคม โดยมีแก่นเป็น 3 หัวใจสำคัญในการทำธุรกิจที่ส่งเสริมด้านความยั่งยืนของวัตสัน โดยการสานต่อความตั้งใจในการสร้างสังคมที่เคารพสิทธิของผู้อื่น ใส่ใจสังคมและเพื่อนร่วมสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเท่าเทียมและการเดินหน้าสร้างพลังให้กับผู้หญิงต่อไป