Authority & Harm
ชายแดนสังขละระอุ!!แรงงานเถื่อนทะลัก คืนเดียวรวบผู้ต้องหาได้เกือบ100ราย
นครปฐม-ผบช.ภ.7รายงานตำรวจสังขละบุรีวันเดียวแรงงานเถื่อนทะลักชายแดนทั้งวันทั้งคืน วันเดียวจับได้ 4 คดีรวบ ผู้ต้องหาเกือบ 100 ราย สารภาพต้องการไปทำงานในพื้นที่ชั้นในของประเทศ
ตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีศิลป์ นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.)มอบหมายให้ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ให้เร่งแก้ไขปราบปรามอาชญากรรมทุกมิติ ได้แก่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด,ปัญหาหนี้นอกระบบการปล่อยเงินกู้เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด,ปัญหาผู้มีอิทธิพล,ปราบปรามสินค้าเถื่อนหนีภาษีที่ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน,ปราบปรามบ่อนการพนัน อบายมุข สถานบริการผิดกฎหมาย,ปราบปรามเว็บพนันออนไลน์,ปราบปรามอาวุธเถื่อน อาวุธสงคราม อาวุธปืน,ปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย,ปัญหาการเผาป่า PM 2.5 ,ปัญหาที่เกิดกับการท่องเที่ยวการทำผิดกฎหมายของคนต่างชาติเพื่อเป็นการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้กับประชาชน ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่าได้สั่งการกำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังชละบุรี และสภ.ทองผาภูมิ เข้มงวด ออกลาดตระเวน หาข่าว พร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดกันอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวน 4 คดีรวบผู้ต้องหาเกือบ 100 ราย
คดี 1. วันนี้ 25 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 07.30 น.ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.)หัวหน้าชุดควบคุมด่านความมั่นคง พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี สายตรวจสะพานรันตีสนธิกำลัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้า ร่วมกันจับกุมตัวนายเด่น ดังตราชู อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จว.กาญจนบุรี พร้อมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 6 คน พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บล -2006 ชุมพร โทรศัพท์ มือถือจำนวน 1 เครื่อง สามารถจับกุมได้ที่บริเวณริมถนน 323 (ห่างจากจุดตรวจรันตีประมาณ 1 ก.ม.) ม.4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ว่า”ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม และผู้ต้องหา 2 -7 เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”
คดี 2. วันนี้ 25 มีนาคม.2567 เวลาประมาณ 08.30 น.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.)หัวหน้าชุดควบคุมด่านความมั่นคง พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.ประหยัด ราศี สวป.สภ.สังขละบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี สายตรวจสะพานรันตี สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้า ร่วมกันจับกุมตัวแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญเมียนมาจำนวน 42 คนพร้อมผู้ติด จำนวน 2 คนพร้อมด้วยของกลาง -รถยนต์กระบะบรรทุกอีซูซุ ดีแมค สีบอร์น หมายเลขทะเบียน1ฒฌ8159 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน สามารถจับกุมได้ที่บริเวณชายป่าสวนยางหลังหมู่บ้านทิโคร่ง(ห่างจากจุดตรวจรันตีประมาณ 4 ก.ม.) ม.4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี
โดยกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1-42 เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย
คดี 3.วันนี้ 25 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 10.00 น.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิทผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน รอง ผบก.ภ.จว. กาญจนบุรี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรีพ.ต.ท.ประหยัด ราศี สวป.สภ.สังขละบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ชุดปะฉะดะสายตรวจรถยนต์ ร่วมกันจับกุมนาย ธนากร วงศฺรุจรวี อายุ26ปีอยู่บ้านเลขที่ 290 หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี พร้อมแรงงานต่างด้าวสัญชาติ เมียนมา จำนวน 11 รายพร้อมของกลาง รถยนต์ กระบะ Mitsubishi สีเทา หมายเลขทะเบียน บท 6223 ยโสธร โทรศัพท์ มือถือจำนวน 1 เครื่อง สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้ารีสอร์ทพรไพลิน ม.1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี
จากการสอบสวน นายธนากร ให้การรับสารภาพว่าตนขับรถไปรับกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา มาจากท้องที่หมู่ 8 ต.หนองลู โดยตนจะได้รับค่าจ้างคนละ 1,000 บาท ขณะกำลังนำแรงงานไปส่งเพื่อลงเรือที่บริเวณท่าน้ำ หมู่ 1 ต.หนองลู ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนกลุ่มแรงงานทั้ง 11 คน ต้องการเดินทางมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ว่า”ช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆให้ บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย,และผู้ต้องหาที่ 2-12 เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจสังขละบุรีดำเนินคดีต่อไป
คดี 4.วันนี้ 25 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 13.30 น.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.)หัวหน้าชุดควบคุมด่านความมั่นคง พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.ประหยัด ราศี สวป.สภ.สังขละบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี ร่วมกันจับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 30 คนพร้อมผู้ติดตาม จำนวน 2 คน สามารถจับกุมได้ที่บริเวณริมสวนยางบนเกาะดอกท้อ หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1-30 ว่า ” เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน กลุ่มแรงงานให้การยอมรับสารภาพว่าพวกตนเป็นชาว ย่างกุ้ง,เนปิดอ และ เมาะละแหม่ง ประเทศเมียนมา โดยพวกตนต้องจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าผู้นำพาคนละ 15,000 - 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง เพื่อต้องการไปทำงานในพื้นที่ จว.ฉะเชิงเทรา จว.สมุทรสาคร จว.นครปฐม และ กรุงเทพมหานคร โดย ส่วนสาเหตุที่ต้องหลบหนีมาหางานทำในประเทศไทย เพราะภายในประเทศเกิดความไม่สงบและที่สำคัญต้องการหลบหนีการถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเพื่อสู้รบกับฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี สอบสวนขยายผลกลุ่มขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนที่จะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป