In News

นายกฯนัดพบชาวแฟลตดินแดงลุยแก้หนี้ กทม.เพิ่มจัดการขยะ-น้ำท่วม-การศึกษา



กรุงเทพฯ-นายกฯ นัดพบชาวแฟลตดินแดง ลุยแก้หนี้ ยาเสพติด  กทม. เสริมจัดการขยะ น้ำท่วม การศึกษา สร้างต้นแบบแนวทางแก้ปัญหาคนกรุงฯ 

(1 เม.ย.67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่เขตดินแดง พบปะประชาชนในพื้นที่บริเวณลานกีฬาแฟลต 51-53 ตลาดกลางดินแดง, ซอยประชาสงเคราะห์ 11, ซอยประชาสงเคราะห์ 9 เขตดินแดง โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายกัณตภณ ดวงอัมพร ส.ส.เขต 6 กรุงเทพมหานคร นางอนงค์ เพชรทัต ส.ก.เขตดินแดง นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมคณะลงพื้นที่

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เรื่องที่กทม. รับผิดชอบในวันนี้ คือ เรื่องของการจะบริหารจัดการขยะ การแก้ปัญหาน้ำท่วม การบริการ สาธารณสุขปฐมภูมิ การศึกษา การแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งเรื่องของขยะแต่เดิมจะมีปัญหาเรื่องหนู เนื่องจากเดิมประชาชนแฟลตดินแดงจะทิ้งขยะลงมาที่ปล่องจากข้างบนลงสู่ข้างล่าง และทำให้เกิดปัญหาไปค้างกล่อง จนทำให้มีหนูจำนวนมาก และการเก็บขยะนั้นทำได้ยาก เพราะเจ้าหน้าที่ต้องไปคุ้ยขยะในกล่อง กทม. จึงได้มีการประสานงานกับชุมชนแฟลตดินแดงเปลี่ยนวิธีการทิ้งขยะในการเอาถังขยะขนาดใหญ่ไปตั้งให้ประชาชนนำมาทิ้ง ซึ่งประชาชนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ว่าจะทำให้ปัญหาหนูและขยะลดลง ซึ่งโมเดลนี้จะนำไป เป็นตัวอย่างขยายในพื้นที่แฟลตต่างๆ ส่วนปัญหาเรื่องน้ำท่วมนั้นทางกทม. ก็ดูแลเรื่องการลอกท่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่ 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า  นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำเรื่องการแก้ปัญหาในส่วนของเส้นเลือดฝอยเป็นหลัก โดยนายกรัฐมนตรีมาดูเรื่องปัญหาที่พื้นที่ดินแดง ที่มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ซึ่งการลงพื้นที่แฟลตดินแดนทำให้เห็นปัญหาหลายส่วนเพราะว่าเขตดินแดงนี้เป็นภาพย่อของกรุงเทพฯ มีปัญหามากมาย เช่น น้ำท่วม ขยะ การศึกษา ผู้ป่วยติดเตียง ยาเสพติด เพียงแค่เดินไม่ถึง 500 เมตร ก็ได้รับรู้ปัญหาในภาพย่อและภาพรวมของกรุงเทพฯ ได้เนื่องจากมีผู้อยู่อาศัยกว่า 1 ล้านคน โดยส่วนตัวจึงเชื่อว่าการแก้ปัญหาเหล่านี้จะเป็นต้นแบบให้ประชาชนอีกหลายแห่งต่อไป

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในตอนท้ายว่า เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีการร้องเรียนว่ามีการจำหน่ายในรอบพื้นที่สถานศึกษา ซึ่งการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่หากจะเข้าไปตรวจค้นภายในโรงเรียนไม่สามารถทำได้ ทางกทม.จะหามาตรการสร้างการตื่นตัวภายในโรงเรียน ให้ตระหนักถึงโทษและภัยของบุหรี่ไฟฟ้า โดยจะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงมาดูแล ส่วนการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบๆสถานศึกษา ที่พบนับพันแห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น เบื้องต้นได้ประสานงานกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลโดยตรง ส่วนกทม. จะไม่มีการประกาศห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เพราะจะไปซ้ำซ้อนในหน้าที่ของหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเป็นหลัก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่เขตดินแดง ณ บริเวณลานกีฬาแฟลต 51-53 ซอยประชาสงเคราะห์ 11 ตลาดกลางดินแดง ซอยประชาสงเคราะห์ 9 ผ่านสํานักงานเคหะนครหลวง สาขาดินแดง 2 ซอยประชาสงเคราะห์ 17 และบริเวณซอยประชาสงเคราะห์ 5 ถึงซอยประชาสงเคราะห์ 1  ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจึงลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับประชาชนและผู้เกี่ยวข้องถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และปัญหาหนี้นอกระบบ รวมถึงเรื่องปัญหายาเสพติด เพื่อมอบแนวทางผู้เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งสงครามยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการใช้กลไกชุมชน เป็นฐานสร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีภายในจังหวัด จัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดแบบเบ็ดเสร็จ หลังรัฐบาลได้กำหนดแผนปฏิบัติการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายของแผนปฏิบัติ ไว้ใน 4 ลด คือ 1. ลดความรุนแรงจากภาวะทางจิตเวชในสังคม 2. ลดผู้เสพ/ผู้ติด 3. ลดการค้ายาเสพติดที่แพร่ระบาดในหมู่บ้าน/ชุมชน และ 4. ลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการแพร่ระบาดยาเสพติด ในการนี้ นายกรัฐมนตรีมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ประชาชนในชุมชน 20 ราย พร้อมอุปกรณ์กีฬาให้เยาวชน โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมมอบลูกฟุตบอลให้เยาวชนในชุมชน

* เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ กรุงเทพฯ ไม่มีชื่อเจ้าหนี้

นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ พบว่ามีประชาชนลงทะเบียนทั้งสิ้น 153,400 ราย ข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2567 จำนวน 42,575 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 25,816 ราย มูลหนี้ลดลงรวม 1,018.862 ล้านบาท มีจังหวัดที่สามารถเชิญเจ้าหนี้-ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ได้มากที่สุด คือ 1. จังหวัดสงขลา ขณะที่มี 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ นราธิวาส และระนอง ดำเนินการกระบวนการไกล่เกลี่ยกับผู้ที่มาลงทะเบียนครบ 100% แล้ว และพบว่าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในกรุงเทพมหานคร ปัญหาหลักที่พบเจ้าหนี้ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีการระบุชื่อจึงทำให้ยังสืบค้นไปไม่ถึง ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ให้ความช่วยเหลือ อาทิ เปิดตลาดนัดแก้หนี้ การดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ย รวมถึงการลดดอกเบี้ยสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร (โรงรับจำ กทม.) ให้ต่ำที่สุดเพื่อเป็นการช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน ทั้ง 21 แห่ง ทำให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ