Authority & Harm
หนุ่มใหญ่วัย76หึ่งเมียเด็กวัย49นอกใจ งัด.38จ่อยิงหัวเมียก่อนยิงตัวเองตายตาม
กาญจนบุรี-อนาถ ! สามีผู้วัย 76 ตัดสินใจใช้ปืนจุด 38 จ่อยิงศีรษะภรรยาสาว วัย 49 เสียชีวิต เหตุเพราะจับได้ว่าภรรยาเริ่มเอาใจออกห่าง แล้วยิงตัวตายตาม ตำรวจคาดประเด็นหลัก คือเรื่องชู้สาว ประเด็นรองคือเรื่อง หึงหวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.30 น.ของวันที่ 3 เม.ย.67 ร.ต.อ.อภิชัย พุ่มชัย รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลสิงห์ อ.ไทรโยคฯ ว่าเกิดเหตุยิงกันตายรวม 2 ศพ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 299 หมู่ 2 สามียิงภรรยา หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.ไทรโยค ทราบเรื่อง
จากนั้น พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์ จึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ไทรโยค และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ และตรวจเก็บหาหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
พบว่าภายในห้องนอนมีร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายสูงอายุและหญิง สาว รวม 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน รายแรกเป็นสามีชื่อนายจ้อย(นามสมมุติ)อายุ 76 ปี หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกติดปากว่า "เสี่ยจ้อย" ซึ่งผู้ตายอยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เนื่องจากเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา นายจ้อยได้ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เงินมา 6 ล้านบาท จนทำให้ผู้ตายเป็นเศรษฐีในพริบตา
ส่วนฝ่ายหญิงชื่อ น.ส.จันทร์ขจร(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 2 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์เบื้องต้นพบนายจ้อย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.38 เข้าที่บริเวณขมับขวา 1 นัด คมกระสุนแฉลบทะลุบริเวณท้ายทอยด้านหลัง ส่วนฝ่ายหญิงมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะรวม 2 นัด กระสุนฝังใน
ตรวจสอบภายในห้องนอนที่บริเวณปลายเตียงพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก ปลอกกระสุนที่อยู่ในรังเพลิงที่ยิงออกไปแล้ว จำนวน 3 ปลอก ส่วนกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 3 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงทำพาราฟีนเทสเพื่อหาคราบเขม่าดินปืนที่มือฝ่ามือทั้ง 2 ข้างของนายจ้อยผู้ตายเพื่อเก็บรวบรวมประกอบสำนวนการสอบสวน
ส่วนศพ 2 สามีภรรยาคู่นี้ได้มอบให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาวิถีกระสุนก่อนจะมอบศพให้ญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาอีกครั้ง
เบื่องต้นจากการสอบสวนปากคำแม่ของฝ่ายหญิงและญาติๆ ของฝ่ายหญิงผู้ตายทราบว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.นายจ้อยผู้ตายได้ขับรถไปทำไร่มันสำปะหลังที่บ้านพุไม้แดง แต่ น.ส.จันทร์ขจร ภรรยาไม่ได้ไปด้วย นายจ้อย จึงสอบถามไปทางบ้านแม่ยาย ก็ได้รับคำตอบว่า น.ส.จันทร์ขจร ไม่อยู่บ้าน ออกไปทำงานที่ไร่มันสำปะหลังนายจ้อย สามีจึงโกธร และขับรถออกตามหา จนกระทั่งเย็น พบภรรยากลับมาบ้าน ตอนหัวคว่ำจึงนั่งกินข้าวกันและดื่มสุรากัน จนกระทั่งตอนดึกเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าก็ได้ยินนายจ้อยและ น.ส.จันทร์ขจร ภรรยามีปากเสียงทะเลาะกันด้วยเรื่องภรรยาแอบมีพฤติกรรมไปในทางชู้สาว สักครู่นายจ้อย ก็ขับรถออกจากบ้านไป กลับมาอีกที่ช่วงประมาณ ตี 1 กว่า สักครู่ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด จึงวิ่งไปดูก็พบว่า คนทั้งสองถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นายจ้อย หลังจากกลับมาบ้าน คงตัดสินใจใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะของภรรยา รวม 2 นัด ก่นจะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงขมับตัวเองจนเสียชีวิต เพื่อหนีอาญาแผ่นดิน ส่วนสาเหตุคาดเป็นเรื่องชู้สาว