Think In Truth
ย้อนรอยเมียเช่าจีไอสู่ยุคสาวอาบอบนวด (ตอนที่ 2)โดย ... พินิจ จันทร
การอนุญาตให้อเมริกันมีฐานทัพในไทย เพราะรัฐบาลมีความเกรงกลัวลัทธิคอมมิวนิสต์ อีกทั้งยุทธศาสตร์ของชาติในตอนนั้น คือหลีกเลี่ยงการทำสงครามในบ้าน โดยสมัครใจส่งคนของเราไปรบในสมรภูมินอกบ้าน เพราะในประเทศของเราขณะนั้น กองทัพของชาติต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่มุ่งหมายจะเข้ายึดครองประเทศอันเป็นที่รักของเรา
เมื่อสงครามเวียดนามยุติลง ฐานทัพสหรัฐถูกแรงกดดันต้องถอนออกไป ชาติไทยของเราจึงต้องยืนเผชิญหน้ากับกองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์อย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางการปรามาสว่า ประเทศไทยต้องถึงการล่มสลายลงไป เหมือนชาติอื่นๆใน อินโดจีนตามทฤษฎีโดมิโน
แต่ด้วยพระมหาบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นมิ่งขวัญให้ทหารตำรวจและประชาชนคนในชาติ เข้าสู้รบกับกองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์ ปกป้องชาติอย่างองอาจเต็มกำลัง และในที่สุด ฝ่ายผู้ที่จะมุ่งจะยึดครองประเทศของเรา ก็พ่ายแพ้ลงอย่างราบคาบ กองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยวางอาวุธเข้าร่วมพัฒนาชาติไทยตามนโยบาย 66/23 ซึ่งมีผลทำให้พลพรรคคอมฯในไทยเข้ามอบตัวกันจนหมดสิ้น
จากคำสั่งดังกล่าวทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ที่เหมือนหอกคอยทิ่มแทงชาติเรามานานหลายทศวรรษ ก็หมดพลังและอำนาจไปในที่สุด เหลือเพียงตำนานและนามพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสารบบเท่านั้น
____________
คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 หรือคำสั่งที่ 66/(25)23 เป็นคำสั่งรัฐบาลไทยที่กำหนดนโยบายสำคัญในการต่อสู้กับการก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ช่วงปลายสงครามเย็น คำสั่งดังกล่าวออกเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2523 และลงนามโดยนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ คำสั่งนี้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากท่าทีทหารสายแข็งที่ดำเนินมาแต่รัฐบาลฝ่ายขวาธานินทร์กรัยวิเชียร (ครองอำนาจ 2519 ถึง 2520) มาสู่สายกลางมากขึ้นซึ่งให้ความสำคัญมาตรการทางการเมืองเหนือการปฏิบัติทางทหารอย่างเป็นทางการ คำสั่งนี้กำหนดให้มีการจัดการความอยุติธรรมทางสังคม และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองและกระบวนการประชาธิปไตย มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสอดคล้องกับคำสั่งอนุญาตให้ผู้แปรพักตร์ผละขบวนการก่อการกำเริบ ซึ่งเมื่อประกอบกับการเสื่อมลงของการสนับสนุนจากต่างชาติ นำไปสู่การเสื่อมลงของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
____________
ขอย้อนกลับไปในห้วงทหารอเมริกันหรือจีไอยังประจำอยู่ตามฐานทัพต่างๆไม่ว่าจะที่โคราชนครพนม อุบล นครสวรรค์ สัตหีบและโดยเฉพาะที่อุดร จะมีบาร์ ไนต์คลับ ร้านอาหารและเครื่องดื่มเต็มไปหมด (แน่นอนว่าแหล่งบันเทิงเหล่านี้จะมีสาวๆแต่งตัวยั่วยวนคอยให้บริการแทบจะล้นออกมานอกร้าน) ซึ่งแน่นอนว่าเศรษฐกิจของเมืองอุดรและความเป็นอยู่ของชาวบ้านจะสะพัดมากขนาดที่ว่าคนปั่นสามล้อถีบยังใส่เรแบนซึ่งเป็นแว่นตายี่ห้อดังราคาแพงใส่แล้วเท่ทุกคน (ใส่เรแบนดำต้องฟังเพลงฝรั่งซึ่งในสมัยนั้นจะมีตู้เพลงวางอยู่ทั่วทุกจุด เหล่าสามล้อถีบเมื่อว่างเว้นผู้โดยสารก็จะหยอดเหรียญฟังเพลงและที่ฮิตมากก็จะเป็น
Beautiful Sundayหรือ Black Magic Woman ของวงซานตานาเป็นต้น)
ในช่วงนั้นแม้ว่าผู้เขียนจะเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมแต่ด้วยพี่เขยเป็นล่ามฝรั่งจึงมีโอกาสสัมผัสกับพวกจีไอทั้งที่เป็นพวกผิวขาวและผิวสีดำที่คนไทยเรียกว่านิโกตัวสูงใหญ่ และแน่นอนว่าเมื่อมีฝรั่งไม่ว่าจะผิดสีใดอยู่ที่ไหนจะมีพวกเมียเช่ารวมอยู่ด้วยซึ่งบรรดาเมียเช่าทั้งหลายส่วนใหญ่จะมีการศึกษาน้อยและมาจากชนบท (บ้านนอก) เมื่อเข้ามาอยู่ในสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีประกอบกับมีรายได้งามจึงต้องปรับตัวให้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยภาษาอังกฤษที่พูดหรือใช้สื่อสารไม่ต้องไปคิดไรมากคือพูดไทยหรือลาวผสมอังกฤษมั่วไปหมด ไม่สนไม่แคร์ใครจะว่าอย่างไร แต่งตัว แต่งหน้า ทาปากแบบเริดสุดๆ ดื่มเหล้า ดูดบุหรี่นอกใครเห็นก็รู้ว่าทำอาชีพอะไร
สิ่งหนึ่งที่อยากให้รู้ก็คือในบรรดาจีไอเขาจะแบ่งแยกกันเองอย่างชัดเจน ระหว่างทหารผิวขาวกับผิวสี ซึ่งคนไทยก็รับรู้การแบ่งแยกนี้ จึงมีบาร์ทั้งของทหารผิวขาวและผิวสี เป็นอย่างนี้ทุกเมืองที่มีฐานทัพอมริกันตั้งอยู่และผู้หญิงที่ทำงานในแต่ละบาร์ก็แบ่งแยกตัวเองออกจากกันด้วย เช่นผู้หญิงที่ทำงานกับทหารผิวขาว ก็จะสมาคมอยู่กับพวกที่ทำงานกับฝรั่งตาน้ำข้าว ฝ่ายหญิงที่ทำงานกับทหารผิวสีก็จับกลุ่มอยู่กับพวกเดียวกัน ไม่ค่อยเสวนากันนัก
มาว่ากันต่อเรื่องเมียเช่าซึ่งเริ่มมาเป็นหญิงบริการในบาร์ฝรั่ง เมื่อถูกอกถูกใจกันแล้วมาทดลองอยู่ด้วยกันก่อน โดยฝรั่งออกค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน หากถูกอกถูกใจกันมากขึ้น ก็อาจก้าวหน้าไปถึงการแต่งงานอยู่กินกันอย่างจริงจังโดยผู้หญิงบริการในยุคนั้นที่เห็นควงกับฝรั่งนั้น มีการตกลงกันว่าฝรั่งจะอยู่กันเป็นอาทิตย์หรือเดือน ระหว่างนั้นหญิงคนดังกล่าวก็จะไม่ไปยุ่งกับชายอื่นหรือฝรั่งคนอื่น ภาษาหญิงทำงานเขาเรียกว่า “ติดแขก” เช่น หญิงคนนี้ถูกเพื่อนชวนไปเที่ยวกลางคืน ฝ่ายผู้หญิงตอบไปว่า“ไปไม่ได้ตอนนี้ติดแขกหนึ่งเดือน เหลืออีกห้าวัน โทรมาชวนใหม่นะ” อย่างนี้เป็นต้น(ยุคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเมียแต่ง ถ้าใครได้สามีเป็นชาวต่างชาติแล้วจะมีหน้ามีตามาก บางหมู่บ้านลูกหลานออกมาหัวแดงเต็มไปหมด)
เหล่าจีไอในสงครามเวียดนาม เมื่อปี 2515 (ไม่ทราบสถานที่)
เมียเช่าในยุคแรกๆนั้น ดูเหมือนว่าคนไทยมองพวกเธอด้วยความไม่สบายใจ เพราะเรียกได้ว่ารุ่นบุกเบิกนั้น ส่วนใหญ่เป็นสาวอีสานที่ออกจากท้องนามาเลยก็ว่าได้ พวกเธอส่วนมากผิวคล้ำ การแต่งเนื้อแต่งตัวดูหวือหวา ประหลาด ไม่เป็นที่คุ้นตา เรียกว่าแต่งจงใจดูยั่วยวน และเห็นชัดเจนว่าแตกต่างจากหญิงไทยธรรมดาที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเช่นเดียวกับเธอ
ในบรรดาลูกครึ่งทั้งผิวดำผิวขาวจะเรียกว่า “ข้าวนอกนา” เกิดมาเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นนิยายและภาพยนตร์อย่างที่เราได้เห็นกันต่อไปและเมียเช่านี่แหละที่คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติ เขียนเพลงที่ฮิตระเบิดให้ คุณมานี มณีวรรณ ร้องดังระเบิดเถิดเทิงในยุคนั้น ดังขึ้นต้นว่า
“ ...ไอเขียนเตอร์ถึงเธอเดียร์จอห์นเขียนในแฟล็ตที่ยูเคยนอนจังหวัดอุดร ประเทศไทยแลนด์ไอโบรคเกนฮาร์ตยุมัสต์อันเดอร์สแตนด์จอห์นจ๋าจอห์น ดอลล่าร์ขาดแคลนเมีย Second hand ของยูยังคอย…”
เมื่อฝรั่งเริ่มเดินทางกลับหลังการปิดฐานทัพ เมียเช่าเริ่มตกงาน ความยากจนได้กลับเข้ามาเยือนพวกที่เคยทำงานกับฝรั่ง บ้านช่องที่หญิงเหล่านี้เคยอยู่ร่วมกับฝรั่งอย่างมีความสุขพอประมาณ ต้องปิดร้างและทรุดโทรมลง ไม่ว่าจะเป็นที่โคราชอุดร อุบล หรือสัตหีบเหมือนกันหมด
ในยุครัฐบาลอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชและนายบญชู โรจนเสถียร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีความคิดเป็นห่วงหญิงเหล่านี้ที่มีภาระมาก จึงได้โปรโมทพัทยาให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับฝรั่ง เมืองเล็กๆชายทะเลแห่งนี้เริ่มมีชีวิตชีวาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นโยบายของคุณบุญชูในตอนนั้น เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า Sea, Sand & Sex(ทะเล ทราย และเซ็กส์)
พวกเมียเช่ารุ่นเก่าครั้งฝรั่งฐานทัพยังอยู่ ก็ได้กลับมาลงหลักปักถ่อกันอยู่ที่พัทยา และชีวิตในพัทยาตอนกลางคืนก็สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ตำบลนี้เป็นที่ฝรั่งมังค่าจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ชาย ต้องกาเอาไว้ในแผนที่ว่าเป็นเมืองต้องไปให้ได้
กล่าวว่า แม้บทบาทของเมียเช่าจางหายไป แต่กลับมาในรูปของหญิงบริการโดยตรงเสียมากกว่า หญิงที่คนต่างชาติเช่าได้เป็นรายเดือนได้กลายเป็นตำนานและมีความเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เกิดขึ้น
ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น โปรดติตดตามในตอน (จบ) ต่อไป.
ขอบคุณ/ภาพจากเพจ 'อดีตวันวาน อุดรธานี'