Authority & Harm
เอาไม่อยู่!ทำนบปากคลองประเวศพังอีก เหตุน้ำทะเลหนุนสูงขณะน้ำเค็มทะลักล้น
ฉะเชิงเทรา-ภารกิจล้มเหลว หลังผู้รับเหมาพยายามใช้เครื่องจักกลงานหนักลุยเสริมตั้งทำนบดินขึ้นมาใหม่ตลอดทั้งคืน ในพื้นที่โครงการก่อสร้างสถานีสูบระบายน้ำท่าถั่วปากคลองประเวศ แต่กลับถูกน้ำทะเลหนุนสูงเพิ่มระดับขึ้นมามากกว่าเก่าในช่วงเช้ามืด จนถูกกัดเซาะพังทลายลงซ้ำสอง ขณะผู้รับเหมายอมรับต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการเสริมถุงบิ๊กแบ็คนับพันใบในการกู้คืน ขณะน้ำเค็มยังคงไหลบ่าทะลักเข้าสู่ลำคลองประเวศบุรีรมย์ต่อเนื่อง
วันที่ 10 เม.ย.67 เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายภราดร แพงไธสง ผู้จัดการโครงการก่อสร้างขยายสถานีสูบน้ำท่าถั่ว และเป็นวิศวกรควบคุมงานจาก หจก.สามประสิทธิ์ ผู้รับจ้างเหมาก่อสร้างโครงการสถานีสูบน้ำท่าถั่ว ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า หลังจากที่ได้พยายามใช้เครื่องจักรกลงานหนัก (รถแบคโฮ) เข้าดำเนินการตั้งคันทำนบและเสริมดินขึ้นมาใหม่ แทนทำนบดินเดิมที่บริเวณทำนบดินชั้นใน ด้านหลังไซด์งานที่พังถล่มลงตามคันดินกั้นน้ำเค็มฝั่งด้านหน้าปากคลองประเวศ
จากน้ำทะเลหนุนสูงเข้ามากัดเซาะรอยแยกของแนวดินที่ถูกเปิดกว้างเพื่อทำหลุมก่อสร้างมากเกินไป เมื่อช่วงหัวค่ำ (19.30 น.) ของวันที่ 9 เม.ย.67 ที่ผ่านมานั้น ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาได้ทำการตั้งทำนบจนแล้วเสร็จด้วยการเสริมดินเข้าไปจนเต็มแนวและสามารถเดินผ่านข้ามฝั่งได้แล้ว เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 06.00 น. ได้เกิดน้ำทะเลหนุนสูงไหลบ่าเข้ามาแรงกว่าเก่ามากโดยมีระดับน้ำสูงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมถึง 10 ซม.
จนทำให้ระดับน้ำสูงกว่าคันทำนบดินที่ตั้งใหม่อีกครั้ง จึงทำให้น้ำเค็มไหลบ่าข้ามคันดินไปได้อีก และเกิดการกัดเซาะพังทลายลงเป็นครั้งที่ 2 ในที่สุด ขณะนี้จึงไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงน้ำทะเลหนุน และน้ำจะลงตามระดับน้ำทะเลอีกครั้งในช่วงเวลา 13.30 น.ของวันนี้ จึงได้เตรียมการที่จะตั้งทำนบด้วยถุงบิ๊กแบคขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ที่ด้านหน้าแนวของทำนบกั้นน้ำเค็ม โดยขยับห่างออกไปอีกประมาณ 80 เมตร ทางฝั่งปากคลองใกล้กับแม่น้ำบางปะกงมากขึ้น
เนื่องจากบริเวณสถานีสูบน้ำเดิมนั้น ที่ด้านล่างเป็นคอนกรีตไม่สามารถเสียบแผ่นชีทไพล์ได้ และได้เตรียมสั่งซื้อทรายบรรจุถุงบิ๊กแบ็คมาจาก จ.ชลบุรี เพื่อนำมากั้นเป็นแนวทำนบที่ด้านหน้าแนวเขื่อนทำนบเดิมดังกล่าว โดยต้องใช้ทรายบรรจุถุงบิ๊กแบ็คมากถึงเกือบ 1 พันใบจึงจะเพียงพอ โดยต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการขนส่งด้วยรถบรรทุก 10 ล้อ ขนย้ายเข้ามาครั้งละ 5 คันรถอีกนับร้อยเที่ยว เนื่องจากการขนส่งนั้นสามารถบรรทุกมาได้เพียงคันละ 10 ถุงเท่านั้นเพื่อไม่ให้น้ำหนักบรรทุกเกินกว่ากฎหมายกำหนด นายภราดร กล่าว
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา