Authority & Harm
เครือข่ายปปท.4-ธรรมาภิบาลแฉอีกแห่ง 'รับเหมาขาใหญ่'ทำไม่เสร็จชาวบ้านผวา
กาฬสินธุ์-ปปท.ภาค 4- ธรรมาภิบาลกาฬสินธุ์ ประกาศยังรอความชัดเจนหลังสงกรานต์ “กรมโยธาฯ” ยกเลิกสัญญา “รับเหมาขาใหญ่” จะยกเลิกสัญญาท่อระบายน้ำพัฒนาเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์จริงหรือไม่ ให้เร่งประกาศออกมา ขณะที่ มีดราม่าทวงถาม !! ชาวบ้าน “กอดเสาเข็ม” คก.เขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำพาน ชี้ลักษณะเดียวกัน หมดสัญญาค่าปรับเป็นศูนย์บาท หวั่น งบแผ่นดิน 44 ล้านบาทละลายไปกับน้ำหลาก เรียกร้อง กรมโยธาฯ หาผู้รับเหมาทำงานต่อ ก่อนฤดูฝนจะมาถึงและเกิดน้ำหลากกัดเซาะเสาเข็มโค่นล้มจมหายไปกับสายน้ำ ย้ำต้องรับผิดชอบงบประมาณแผ่นดินภาษีประชาชน ขณะที่มีรายงานว่ากรมโยธาฯ ส่งคนมาลงพื้นที่พบผู้นำชุมชนและผู้รับเหมาช่วง พร้อมให้สัญญาปากเปล่า ต่อเวลาทำงานให้อีก 3 เดือน ยอมให้ปรับวันละ 4 หมื่นบาท หลังสงกรานต์กลับมาทำงานทันที
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ที่บริเวณตลิ่งลำน้ำพาน หลังตลาดสดปากพาน หลังสำนักงานเทศบาลตำบลลำพาน และหลังวัดป่าแดนนาบุญ ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายดวง ฉายอำไพ อายุ 61 ปี และนายชงคุณ ฤทธิ์เรือง อายุ 52 ปี ชาวบ้านวังยูง ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ ชี้จุดริมตลิ่งและที่ดินชาวบ้าน รวมทั้งแปลงผักชะอม ที่ได้รับความเสียหายจากสาเหตุตลิ่งถูกกระแสน้ำลำพานกัดเซาะพังทลายเป็นแนวยาว และดูสภาพพื้นที่โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง แต่การทำงานของผู้รับเหมา ไม่มีทีท่าจะแล้วเสร็จ เห็นแต่ร่องรอยการปรับพื้นที่ มีกองดิน กองหิน และเสาเข็มตั้งเรียงโด่เด่เหมือนอนาคตจะเป็นสุสานเสาเข็มหลังวัด เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีผู้รับเหมาช่วงงานมาทำต่อ 7-8 ราย แต่งานไม่ต่อเนื่อง ทำๆหยุดๆแล้วหนีไป ผู้รับเหมาช่วงระบุว่ารับเหมาขาใหญ่ไม่จ่ายค่าจ้าง มีรายงานว่าผู้รับเหมารายล่าสุดได้ขนย้ายเครื่องจักรหนีไปก่อนสงกรานต์
นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมในการต่อต้านการทุจริต ปปท.เขต 4. ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะกรรมาธิการ จ.กาฬสินธุ์ (กธจ.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สอดส่องโครงการต่างๆ ที่กรมโยธาฯ กระทรวงมหาดไทย จัดสรรมาลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่มีปัญหาการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ และได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน รวมจำนวน 8 โครงการ งบประมาณรวมกว่า 500 ล้านบาท ทุกโครงการมีการเบิกจ่ายไปแล้วบางส่วน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท จากการตรวจสอบร่วมกับ คณะ ปปท.เขต 4 ขอนแก่น และ คณะ ปปช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดได้รับแจ้งจากเครือข่าย กธจ.กาฬสินธุ์ว่า ก่อนสงกรานต์มีเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาฯ ลงพื้นที่ ต.ลำพาน โดยได้แจ้งกับผู้นำชุมชนและผู้รับเหมาว่า จะให้เร่งทำงานต่อให้แล้วเสร็จหลังสงกรานต์
“ตนมีรายงานว่าจากการสอบถามเจ้าหน้าที่กรมโยธาฯ กับผู้รับเหมาและผู้นำชุมชน ระบุว่า กรมโยธาฯ จะเร่งรัดให้ผู้รับเหมาดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยให้เริ่มงานหลังสงกรานต์เป็นต้นไป โดยผู้รับเหมาจะต้องเสียค่าปรับวันละ 40,000 บาท เนื่องจากทำงานล่าช้ากว่ากำหนดในสัญญา โดยโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำพานดังกล่าว ความยาว 526 เมตร งบประมาณ 44,490,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 4 ก.ค.66 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาท ถึงวันที่ 10 เม.ย.67 ผลงาน 15% ช้ากว่าแผน -59% เบิกจ่าย 11,753,000 บาท อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นเพียงการพูดคุยไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ หลังสงกรานต์นี้ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ จึงอยากทราบความชัดเจนในการขยายสัญญาครั้งนี้ ว่ามีการปรับจริงหรือไม่อย่างไร รวมทั้งเนื้อแท้ข้อมูลจริง กรณีที่กรมโยธาฯ เคยแจ้งตามที่เป็นข่าวในโซเชียลว่าจะยกเลิกสัญญาโครงการก่อสร้างระบบท่อประปาป้องกันน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ งบ 148 ล้านหลังสงกรานต์นั้น เท็จจริงอย่างไร เพราะยังไม่เห็นโชว์เอกสารให้เห็นเลยอีกทั้งผู้รับเหมาขาใหญ่ก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาหรือแสดงความพยายามว่าจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จเพื่อเป็นการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์หรือไม่
นายชงคุณ ฤทธิ์เรือง อายุ 52 ปี ชาวบ้านวังยูง ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ทางกรมโยธาฯส่งคนมาพูดคุยกับผู้นำชุมชนและผู้รับเหมา ว่าจะกลับมาก่อสร้างต่อหลังสงกรานต์ ทีแรกตนและชาวบ้านก็ดีใจ แต่ถึงวันนี้สิ้นสุดสงกรานต์แล้ว ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมีผู้รับเหมารายใดเข้ามาทำงานต่อเลย จึงได้ชวนเพื่อนบ้านมา “กอดเสาเข็ม” บอกแดด บอกฟ้า เป็นเชิงสัญลักษณ์ในการปกป้องทรัพย์สินของหลวง และเรียกร้องให้ผู้รับเหมากลับมาทำงานต่อตามสัญญา ถึงแม้แสงแดดจะแผดเผา จนเสาเข็มร้อนปานถ่านไฟที่คุโชน ก็จะขอบอกผ่านเปลวแดดและไอร้อนถึงผู้รับเหมาขาใหญ่ โดยการ “กอดเสาเข็ม” ร้องเรียกหาผู้รับเหมา “มาตามสัญญา” เพื่อทำงานต่อ ก่อนฤดูฝนจะมาถึงและเกิดน้ำหลากกัดเซาะเสาเข็มโค่นล้มจมหายไปกับสายน้ำ เพราะทั้งหมดนี้คือภาษีของประชาชนที่เป็นงบประมาณแผ่นดินในการช่วยเหลือประชาชนไม่ใช่เป็นการซ้ำเติมประชาชนให้เกิดความเสี่ยงต่อฤดูกาลน้ำหลากที่หากมีน้ำมากก็จะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมเช่นเดิม
ด้านนายดวง ฉายอำไพ อายุ 61 ปี กล่าวว่า ถึงแม้ช่วงนี้สภาพอากาศจะแห้งแล้งและร้อนจัด แต่ถ้าจะให้เลือกระหว่างฝนตกกับผู้รับเหมากลับมาทำงานต่อ ตนจะขอเลือกผู้รับเหมาให้กลับมาทำงานต่อให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะให้แล้วเสร็จและปรับพื้นที่ก่อนวันที่ 17 พ.ค.67 ที่จะถึงนี้ เพราะบริเวณที่มีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งลำพานดังกล่าว เดิมเคยเป็นหาดทรายกว้างใหญ่ มีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งริมลำน้ำพาน หรือในภาคอีสานก็ว่าได้ ซึ่งทางเทศบาลตำบลลำพานและชาวบ้าน ได้เคยจัดเป็นสถานที่จัดงานบุญประเพณี และงานประจำปีมาตลอดหลายชั่วอายุ โดยเฉพาะประเพณี “ตบประทาย” หรือก่อเจดีย์ทราย
“ดังนั้น จากการที่ได้ข่าวว่ากรมโยธาฯ จะให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำงานต่อให้เสร็จภายในเวลา 3 เดือน และเริ่มทำงานหลังสงกรานต์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับตนและชาวบ้านเป็นอย่างมาก ที่อยากจะมีเขื่อนป้องกันตลิ่ง และได้ตลิ่งที่มั่นคง แข็งแรง ไม่เกิดเหตุการณ์น้ำลำพานกัดเซาะตลิ่ง และบริเวณหลังบ้านที่ติดกับลำน้ำพานพังทลายลงมาอีก แต่วันนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้รับเหมารายใดเข้ามาเลย จึงได้มาร่วมกอดเสาเข็มเป็นสัญลักษณ์ และเรียกร้องส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดให้ผู้รับเหมามาดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็วด้วย เพราะนี่ก็สิ้นสุดวันสงกรานต์แล้วนะ มาทำงานต่อทีเถอะ” นายดวงกล่าวในที่สุด
สำหรับ 8 โครงการนั้น มีการเปิดเผยงบประมาณรวมกว่า 558,281,000 บาท เป็นงบประมาณที่กรมโยธาธิการฯ กระทรวงมหาดไทย ได้อนุมัติให้จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ ในช่วงปี 2562 เพื่อให้จ.กาฬสินธุ์ เจริญก้าวหน้าตามศักยภาพ โดยผู้รับงานนี้ เป็นผู้รับเหมาเจ้าเดียวกัน ที่ได้รับงานจากกรมโยธาฯ แต่ที่การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยทำงานในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันและมีการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างบางส่วนไปแล้ว ประกอบด้วย
(1) โครงการก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ งบประมาณ 108,800,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 12 ก.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 30 ก.ย. 64 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 67 ผลงาน 79% ช้ากว่าแผน -21% เบิกจ่าย 50,377,600 บาท, (2) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 59,306,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย. 63 สิ้นสุดสัญญา 9 พ.ย.65 ขยายเวลาจาก 10 ส.ค. 65 จำนวน 91 วัน แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาทถึงวันที่ 10 ส.ค.67 ผลงาน 26.22% ช้ากว่าแผน -73.78% เบิกจ่าย 14,978,900 บาท,(3) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะ 2) วัดลำชีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 59,270,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 10 ต.ค. 65 ขยายระยะเวลา 73 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 65 แก้ไขสัญญา ค่าปรับเป็น 0 ถึงวันที่ 10 ส.ค. 67 ผลงาน 45.77% ช้ากว่าแผน -54.23% เบิกจ่าย 21,930,500 บาท
(4.) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์ งบประมาณ 59,350,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย. 64 สิ้นสุดสัญญา 10 ส.ค.66 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาท ถึงวันที่ 14 มิ.ย.67 ผลงาน 1.65% ช้ากว่าแผน -64.37 % เบิกจ่าย 8,902,500 บาท, (5) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี บ.หนองหวาย-บ.หนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 39,525,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.พ.67 ผลงาน 0% ช้ากว่าแผน 0% เบิกจ่าย 5,928,750 บาท และ (6) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำลำพาน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 44,490,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 4 ก.ค.66 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาท ถึงวันที่ 10 เม.ย.67 ผลงาน 15% ช้ากว่าแผน -59% เบิกจ่าย 11,753,000 บาท
(7) โครงการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ งบประมาณ 148,200,000 บาท เริ่มงานวันที่ 19 เม.ย.62 กำหนดแล้วเสร็จ 26 มิ.ย.64 ขยายสัญญาครั้งที่ 1 กำหนดแล้วเสร็จ 21 พ.ย. 64 ขยายสัญญาครั้งที่ 2 กำหนดแล้วเสร็จ 25 ก.พ. 68 จากการรายงานเมื่อวันที่ 19 มี.ค.67 ที่ผ่านมา คืบหน้า 63.21% ทั้งนี้ มีทั้งหมด 79 งวดงาน เบิกจ่าย 31 งวด ประมาณ 80,000,000 บาท เหลือ 68 งวดประมาณ 68,000,000 บาท และ (8) โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแก่งดอนกลาง ความยาว 583 เมตร งบ 39,540,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 28 ก.ย.65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.ค.67 โดยเบิกจ่าย 10 งวด จำนวน 11,000,000 บาท ทั้งนี้ ปปท.-ปปช. ยังให้ข้อสังเกตถึงการทำงานที่ไม่แล้วเสร็จด้วยว่า เหตุใดโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จตามสัญญาจึงไม่ถูกปรับ หรือถูกกรมโยธาฯ ผู้รับผิดชอบโครงการดำเนินการใดๆตามระเบียบพัสดุ แต่ในส่วนผู้รับเหมารายอื่นๆจึงต้องเสียค่าปรับและถูกขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้รับเหมาทิ้งงาน