In Bangkok

ดีเดย์1พ.ค.นี้ข้อมูลสุขภาพเชื่อมร่วมศูนย์ ร้านขายยา-คลินิก-สถานพยาบาลกทม.



กรุงเทพฯ-1 พ.ค. 67 ข้อมูลสุขภาพประชาชนเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว ร้านขายยา-คลินิก-สถานพยาบาล กทม. เพื่อคนกรุงฯเข้าถึงบริการสะดวกสบาย  

(18 เม.ย. 67) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการจัดทำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ (Health Information Exchange : Health Link) ระหว่างกรุงเทพมหานคร และสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI  ซึ่งจะเริ่มดำเนินการนำระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพมาใช้ในพื้นที่นำร่องภายใน 1 พ.ค. 67 และขยายผลต่อให้ครบทั้ง 7 โซนสุขภาพ โดยมี รศ.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) นายธนกฤต จินตวร ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) พญ.เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ หน่วยบริการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน ณ ห้องปรินซ์ แกรนด์ บอลรูม โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค 

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวว่า เราพยายามที่จะทำให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของประชาชนอยู่ที่ตัวประชาชนจริง ๆ ไม่ว่าประชาชนจะไปรักษาพยาบาลที่ใด ทั้งโรงพยาบาลหรือระดับปฐมภูมิ เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเอกชน รวมถึงร้านขายยา หน่วยบริการจะสามารถเห็นข้อมูลประวัติการรักษา ประวัติการแพ้ยา ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากประชาชน ดังนั้น ความร่วมมือในวันนี้จะทำให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเป็นทางการมากขึ้น ซึ่งความเป็นทางการของการเชื่อมโยงข้อมูลมีความสำคัญมาก เพราะหมายถึงการรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และทำให้ประชาชนรู้สึกวุ่นวายใจน้อยลงเมื่อต้องไปรักษาพยาบาลตามหน่วยบริการต่าง ๆ 

โดยเราจะเปิดใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลการรักษาพยาบาลนี้ในพื้นที่นำร่องโซนสุขภาพ 3 ของกรุงเทพมหานคร  ซึ่งมีหน่วยบริการประกอบด้วย โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 17 แห่ง คลินิกชุมชนอบอุ่นที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ร้านยาคุณภาพที่ผ่านการรับรองจากสภาเภสัชกรรมและขึ้นทะเบียนกับ สปสช. โดยหวังว่าระบบนี้จะตอบสนองการให้บริการภาคประชาชนได้เป็นอย่างดี 

“สำหรับหน่วยบริการที่จะสามารถเห็นข้อมูลการรักษาพยาบาลของประชาชนได้นั้น ต้องเป็นหน่วยที่เข้าร่วมโครงการนี้ ต้องมีการทำข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้เราทราบว่ามีหน่วยใดกำลังเชื่อมอยู่กับเราบ้าง เพื่อความปลอดภัยและการรักษาข้อมูลของประชาชน โดยข้อมูลไม่ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่ผู้ใดผู้หนึ่ง ข้อมูลจะอยู่ที่หน่วยตรวจเบื้องต้นแล้วจึงมาแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันผ่านช่องทางของ BDI ทั้งนี้ เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลขอให้มั่นใจได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก โดยหลังจากเปิดใช้ในพื้นที่นำร่องแล้ว มุ่งหวังว่าจะขยายให้ครบทั้ง 7 โซนสุขภาพทั้ง กทม. ภายในกลางปีนี้”  รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าว

ด้านนายธนกฤต จินตวร ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร มุ่งเน้นประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นหลัก เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการรักษาที่ครอบคลุมทุกที่ โดยที่หมอสามารถรับรู้ประวัติการรักษาได้ทันที เพื่อการรักษาที่ปลอดภัยและถูกต้อง โดยจะใช้ในโรงพยาบาล คลินิกที่อยู่ในโครงการ 

“ในส่วนการทำการวิเคราะห์ข้อมูล เราได้ร่วมมือกับ สปสช. ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารใช้ในการบริหารจัดการในการเสริมสร้างสุขภาพให้กับประชาชนในกรุงเทพมหานคร โดยหลังจากดำเนินการในโซนสุขภาพ 3 และขยายครอบคลุมทั้ง 7 โซนสุขภาพแล้ว ก็จะเป็นต้นแบบใช้ทั่วประเทศต่อไป  สำหรับความปลอดภัยทางข้อมูล ผู้เข้าใช้บริการต้องมีการอนุญาตและยืนยันตัวตนในการใช้ข้อมูลก่อน ซึ่งบุคคลที่จะเข้าถึงข้อมูลได้มีเพียงแพทย์ หรือเภสัชกร มีการแยกข้อมูลการรักษาและข้อมูลส่วนตัว และเราใช้คลาวด์กลางของรัฐบาลจึงมั่นใจว่าการเก็บรักษาข้อมูลได้ตามมาตรฐานอย่างแน่นอน” นายธนกฤต กล่าว

กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่านระบบดิจิทัล เพื่อช่วยให้หน่วยบริการทุกระดับสามารถเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชนได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาพยาบาล การติดตามอาการ ลดความซ้ำซ้อนในการจ่ายยา การส่งต่อระหว่างหน่วยบริการ และเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการของประชาชน ตามนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ โดยการให้ความสำคัญกับการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลที่กระจัดกระจายอยู่ในฐานข้อมูลของหน่วยบริการต่าง ๆ จึงได้ร่วมกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาระบบเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ (Health Information Exchange : HIE) จากข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Personal Health : PHR) ทำให้เกิดการบูรณาการข้อมูลเพื่อสนับสนุนนโยบายด้านสาธารณสุขของประเทศ ด้วยเครือข่ายบริการที่มีคุณภาพและปลอดภัย สำหรับผู้ป่วย บุคลากร และประชาชน โดยประชาชนผู้ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลเป็นผู้ตัดสินใจในการใช้ข้อมูลนั้น ๆ รวมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาระบบเครือข่ายบริการสุขภาพเขตสุขภาพกรุงเทพมหานคร (Bangkok Health Zoning) ซึ่งแบ่งการให้บริการทั้งหมด 7 เขตสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการบริการอย่างทั่วถึงระดับเส้นเลือดฝอยตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 9 ด้าน 9 ดี เรื่องสุขภาพดี