In News
นายกฯควงรมว.คมนาคมตรวจงานที่ภูเก็ต เร่งสร้างสะพานยกระดับ/แก้ปัญหาจราจร
ภูเก็ต-นายกฯ ติดตามการพัฒนาพื้นที่ก่อสร้างสะพานยกระดับ ทางหลวงหมายเลข 4027 จ.ภูเก็ต เน้นย้ำหน่วยงานดูแลความปลอดภัยด้านการจราจรให้ประชาชน ก่อนหน้านี้นายกฯ ติดตามโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ภูเก็ต พอใจผลงาน 6 เดือน ย้ำให้เดินหน้าต่อเพื่อยกระดับ จ.ภูเก็ตให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกำชับทุกหน่วยงานประสานงานอย่างบูรณาการ นำความเจริญมาสู่พี่น้องประชาชน ล่าสุดนายกฯ กำชับตำรวจภูธรภาค 8 เร่งขับเคลื่อนการทำงาน ปราบปรามผู้มีอิทธิพล กวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าให้ใครอยู่เหนือกฎหมาย
วันนี้ (19 เมษายน 2567) เวลา 11.10 น. น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจติดตามรายงานสรุปโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับ ทางหลวงหมายเลข 4027 (ทางเลี่ยงเมือง) ตอนบ้านเมืองใหม่ - แยกเข้าสนามบิน ระหว่าง กม.18+850 - กม.20+800 อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
น.ส.เกณิกา กล่าวต่ออีกว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจติดตาม และเร่งรัดในการก่อสร้างสะพานยกระดับ โดยเชื่อมั่นว่าทุกคนเป็นมืออาชีพ พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในด้านการจราจร ใส่ใจพี่น้องประชาชนในเรื่องไฟฟ้า น้ำประปา รวมถึงสะพานข้ามถนน และฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ
“สำหรับการก่อสร้างทางแนวใหม่ ตอนบ้านเมืองใหม่ - สามแยกเข้าสนามบินภูเก็ต เป็นการก่อสร้างแนวทางใหม่ 4 ช่องจราจร รวมทางแยกต่างระดับ เพื่อความสมบูรณ์ของโครงข่าย เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยว อำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมของพื้นที่ ระยะทาง 1.95 กม. งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยแผนการดำเนินการปี 2568 - 2570 เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน จ.ภูเก็ต และนักท่องเที่ยว โดยจะเริ่มก่อสร้างโครงการดังกล่าวประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้” น.ส.เกณิกา กล่าว
นายกฯ ติดตามโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ภูเก็ต พอใจผลงาน 6 เดือน
วันนี้ (19 เมษายน 2567) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับฟังบรรยายสรุปโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บรรยายสรุปโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวสรุปความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหาจราจรจากการที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการครั้งที่ผ่านมาว่า การแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน มีการบริหารจัดการการจราจรในพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรในปัจจุบันโดยการปรับปรุงประเมินผลระบบไฟจราจรอัจฉริยะ กำหนดจุดจอดรถบนทางหลวงเพื่อไม่ให้จอดกีดขวางการจราจร และกำหนดจุดกลับรถให้เกิดความคล่องตัวด้านการจราจรมากยิ่งขึ้น ส่วนแผนระยะยาวเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการดำเนินโครงการ มีการคัดเลือกบริษัทรับจ้างดำเนินโครงการที่มีศักยภาพ รวมถึงกำหนดข้อเสนอโดยการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา เช่น กำหนดค่าปรับที่สูง รวมถึงพิจารณาผลกระทบต่อทุก ๆ มิติ เป็นต้น
ด้านนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวบรรยายสรุปโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดจากปริมาณรถที่หนาแน่น จึงได้มีการพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคมขนส่งทั้งทางถนน ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศให้มีประสิทธิภาพ โดยขยายโครงข่ายการคมนาคมในจังหวัดภูเก็ต และพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เพื่อลดปัญหาการจราจร เพิ่มความสะดวกในการเดินทางที่เชื่อมโยงการให้บริการระบบคมนาคมขนส่งในทุกมิติ โดยมีแผนการดำเนินโครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการทางพิเศษเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง โครงการขยาย 4 ช่องจราจร ทล. 4027 โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ 4 ช่องจราจร โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล. 4027 โครงการศึกษาความเหมาะสมฯ ทางหลวงแนวใหม่ ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตมีแนวทางการพัฒนาที่ครอบคลุมและเอื้อประโยชน์ต่อทุกคนทุกกลุ่มทั้งฐานบนและฐานราก ในขณะเดียวกันก็มีมุมมองทั้งมิติของความมั่นคง เศรษฐกิจ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการภาครัฐเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะครอบคลุมการบริหารจัดการเมืองใหม่ในทุกมิติ
นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า เป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้ว จากที่ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทราบถึงศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาตนเองได้ลงพื้นที่เกาะสมุย รับทราบปัญหาเรื่องของสนามบิน ถือเป็นการดีที่ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาในวันนี้ รัฐบาลพยายามที่จะยกระดับของทั้งสองเกาะ ไม่ว่าจะเป็นเกาะสมุย หรือภูเก็ตให้เป็นเกาะระดับโลก ต้องขอขอบคุณผู้สมัครจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการทำงานจริง ๆ มีการทำแผนงานเกิดผลเป็นรูปธรรม ถือเป็นแผนงานที่เหนือความคาดหมาย เป็นการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการทั้งภาครัฐส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ตามความคาดหวังของประชาชนทั้งแผนระยะสั้นและแผนระยะยาว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรให้พี่น้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า จากที่รับฟังรายงานสรุปจากกรมทางหลวงและผู้ว่าฯ ได้เสนอการยกระดับการจราจรทั้งระบบทั้งการขุดอุโมงค์ ซึ่งได้คำนึงถึงวัฒนธรรม ความเคารพศรัทธาต่ออนุสาวรีย์ฯ ถือเป็นเรื่องที่ดี มีการบริหารจัดการรองรับทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว โดยมั่นใจว่านโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาลจะทำให้จังหวัดภูเก็ต รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนจังหวัดภูเก็ตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมกับขอสั่งการให้ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ตไปศึกษาแผนโปรโมตเกาะมัลดีฟว่ามีวิธีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ขอให้ทำแผนที่มีความเชื่อมโยงกับเกาะต่าง ๆ เพื่อทำให้เศรษฐกิจพื้นฐานของภาคใต้ดีขึ้น
นายกฯ กล่าวว่าเรื่องของความเจริญ หลาย ๆ คนมีความกังวลกับผลกระทบที่จะตามมา ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่ามีความมั่งคั่งแล้วจะต้องมีความมั่นคง ซึ่งจะต้องแก้ไขปัญหาความไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะมาเฟีย ปัญหายาเสพติด เป็นต้น ขอให้ สส. และผู้บริหารในพื้นที่ให้ความสบายใจกับประชาชนว่ารัฐบาลจะนำความเจริญเข้ามาในพื้นที่ แต่จะไม่สร้างปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งได้มีการบริหารจัดการทุกอย่างอย่างเป็นระบบ ขอให้คำมั่นว่ารัฐบาลไม่ได้มองถึงเรื่องความเจริญเพียงอย่างเดียว แต่ใส่ใจกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยนายกฯ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานทำงานประสานงานกันอย่างบูรณาการ นำความเจริญมาสู่พี่น้องประชาชน พร้อมย้ำว่า ระยะเวลาหกเดือนทำงานได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ขอให้ทำงานกันต่อไปยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
นายกฯ กำชับตำรวจภูธรภาค 8 เร่งขับเคลื่อนการทำงาน ปราบปรามผู้มีอิทธิพล
วันนี้ (19 เมษายน 2567) เวลา 13.00 น. ณ ห้องบุตรน้ำเพชร หอประชุมชัยจินดา กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานของตำรวจภูธร ภาค 8 ในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ บ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ รวมทั้งมาเฟียต่างชาติ ปัญหาการลักลอบนำเข้ายางพาราตามแนวชายแดน และการแก้ไขปัญหาที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ โดยมี พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พลตำรวจโท ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 8 เข้าร่วมประชุม นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
เมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงได้เยี่ยมชมนิทรรศการ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของตำรวจภูธร ภาค 8 ดังนี้ 1. การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้โทษ ผลการจับกุมคดียาเสพติดทุกข้อกล่าวหาในรอบ 6 เดือน ระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงมีนาคม 2567 รวมทุกข้อหา จำนวน 13,591 ข้อหา ผลการตรวจยึดทรัพย์สินและเครือข่ายยาเสพติดในรอบ 6 เดือน รวมมูลค่า 800 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60.28 ของเป้าหมายที่วางไว้ 2. การป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันร่วมปฏิบัติการทะลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จับกุมต่างชาติจำนวน 54 ราย จับกุมคนไทยจำนวน 23 ราย ตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวน 1,106 รายการ ทำลายบ่อนพนันกลางเมืองภูเก็ตจับกุมผู้กระทำความผิด 32 ราย ตรวจยึดอุปกรณ์การเล่นเก้าเกย์และเงินสด จับกุมลักลอบการเล่นพนันไพ่ป๊อกเด้งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 21 ราย 3. การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบรวมยอดการดำเนินการไกล่เกลี่ย จำนวน 3,532 ราย มูลค่าไกล่เกลี่ยหนี้สำเร็จ จำนวน 154,463,278 บาท 4. การกวดขันจับกุมชาวต่างชาติที่กระทำความผิดกฎหมายในจังหวัดภูเก็ต สถิติการจับกุมชาวต่างชาติตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบันปัจจุบัน จับกุมชาวต่างชาติ จำนวน 748 ราย ชาวต่างชาติถูกดำเนินคดีเพิกถอนการอยู่ต่อตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบันจำนวน 98 ราย 5. การแก้ไขปัญหาที่พักอาศัย ปีงบประมาณ 2567 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจัดหาแฟลตเรือนแถวชั้นประทวนเพิ่มเติมจำนวน 160 ห้อง ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจัดหาบ้านพักเรือนแถว 6 คูหาเพิ่มเติม จำนวน 21 ห้อง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดหาบ้านพักเรือนแถวชั้นประทวนเพิ่มเติมจำนวน 190 ห้อง ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจัดหาเรือนแถวหกคูหาและแปดคูหาเพิ่มเติมจำนวน 14 ห้อง
นายกฯ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตเป็นนโยบายสำคัญระดับต้น ๆ ของรัฐบาล รัฐบาลให้ความสำคัญเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ถ้าประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีมีความมั่งคั่ง ปัญหาทุก ๆ ด้านจะลดน้อยลงไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติดที่เป็นปัญหาที่เรื้อรังมาตลอด และต้องยอมรับว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีการจับกุมยาเสพติดจำนวนมาก ต้องขอขอบคุณการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง ที่สำคัญปัญหายาบ้ายังพบจำนวนมาก ยังไม่ลดลงไป ขอให้ใช้มาตรการต่าง ๆ ในการจับกุมเพื่อแก้ไขปัญหาให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคน จำนวนยาบ้า จำนวนการยึดทรัพย์ ขอให้เร่งจัดการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพนันออนไลน์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ จากสถิติการจับกุมในพื้นที่ ถือว่ายังน้อย ขอให้เร่งดำเนินการจับกุมต่อไป
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาดังกล่าวข้างต้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเรื่องหนี้นอกระบบที่เป็นภัยร้ายต่อสังคมไทย เป็นสารตั้งต้นของความหายนะประชาชนทำงานเท่าไรก็ไม่เพียงพอต่อการใช้ดอกเบี้ยที่โหด ทำให้ประชาชนไม่มีกำลังใจในการทำงาน ขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จับกุมเจ้าหนี้รายใหญ่มาให้ได้ ส่วนเรื่องของการลักลอบยางพาราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะชายแดนในพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่กว้าง มีด่านสำคัญหลาย ๆ ด่าน ขอให้ใช้มาตรการที่เข้มงวดในการจัดการ ถ้ามีการประพฤติผิด ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบตามกฎหมายต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ หากเราช่วยกันสกัดยางพาราเถื่อน จะทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวภาคใต้มีพื้นที่การเพาะปลูก มีรายได้จากยางพาราเป็นจำนวนมาก ในส่วนของการป้องกันการกระทำความผิดของคนต่างชาติ อย่าถือว่าเป็นเรื่องเล็ก จากข้อมูลพบว่ามีเครือข่ายภาคธุรกิจที่มาทำธุรกิจเหนือกฎหมาย ขอให้ดำเนินการจัดการ ซึ่งรัฐบาลลงทุนในภาคใต้จำนวน 100,000,000,000 ล้านบาท อย่าให้มาเฟียต่างชาติเข้ามาทำลายการลงทุน ขอให้ สส. เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแล อย่าให้ต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่ดีทำลายความน่าเชื่อถือ ปัจจุบันสังคมให้ความสำคัญ เพ่งเล็งนักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาประกอบการในพื้นที่ ขอให้เร่งตรวจสอบ โดยอย่าให้กระทบต่อความเชื่อมั่น กระทบต่อการท่องเที่ยว ขอฝากให้จัดการรายใหญ่ที่มีพฤติกรรมมาเฟียให้ได้ อย่าจับแต่รายย่อย ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้องเป็นธรรม และเคร่งครัด
นายกฯ ระบุว่า เรื่องของขวัญกำลังใจของตำรวจถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่อาศัย จะต้องมีการสร้างบ้านพักให้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ข้าราชการระดับล่างมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลข้าราชการตำรวจให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในเรื่องของการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต การประกอบธุรกิจโรงแรมที่ผิดกฎหมาย ขอให้เคร่งครัดเรื่องการออกใบอนุญาตในการประกอบการ ขอให้ตรวจสอบให้เคร่งครัดอย่าให้ใครอยู่เหนือกฎหมาย รวมถึงเรื่องของการท่องเที่ยว การหาประโยชน์เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ไกด์ผี การชาร์จราคาที่ไม่เป็นธรรมรวมถึงการให้บริการต่าง ๆ ขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหา อย่าให้น้ำผึ้งหยดเดียวกลายเป็นปัญหา อย่าให้เรื่องดี ๆ ที่เราทำอยู่สูญเปล่า สำหรับเรื่องของการปล่อยน้ำเสียและขยะขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ต้องช่วยกันทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองน่าอยู่ สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาท่องเที่ยว ในส่วนของการแก้ไขน้ำประปา ได้แก้ไขปัญหาโดยการนำน้ำจากเขื่อนเชี่ยวหลานมาใช้ทดแทนการขาดแคลนน้ำประปาในพื้นที่ภาคใต้แล้ว
นายกฯ เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายต้องเคร่งครัด อย่าให้ผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมาย เข้ามาทำธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ รัฐบาลพยายามยกระดับความมั่งคั่งให้กับจังหวัดภูเก็ต อย่าให้ความมั่นคงทำลาย ขอเป็นกำลังใจและขอบคุณในการทำงานที่เสียสละอย่างต่อเนื่อง