In News

นายกฯสั่งเร่งแก้ปัญหาไฟไหม้รง.ระยอง จี้ให้ฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็ว



กรุงเทพฯ-นายกฯ กำชับเร่งแก้ไขปัญหา เหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม ย้ำห่วงใยผลกระทบต่อ ปชช. สั่งการฟื้นฟูเยียวยาโดยเร็ว

วันนี้ (27 เมษายน 2567) เวลา 14.40 น. ณ บริษัท วินโพรเสส จำกัด ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมคณะ ตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี อุตสาหกรรม โดยมี น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดไฟไหม้ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานว่าสาเหตุดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ เพราะต้องรอให้เปลวไฟสงบจึงจะสามารถนำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง โดยนายกฯ ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ซีเรียส ส่งผลกระทบต่อประชาชน ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา พร้อมกับสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้

1. ขอให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลควบคุมสถานการณ์การปะทุ และเหตุเพลิงไหม้จนเข้าสู่สภาวะปกติ​ และจัดทำแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์

2. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านค่าย องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว องค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร เพื่อเป็นข้อมูลในการฟื้นฟูเยียวยาตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

3. ให้กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชน และรายงานผลให้ทราบ เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน

4. เร่งจัดการนำกากอันตรายในพื้นที่ไปกำจัดให้ถูกต้อง และเตรียมความพร้อมในการรับมือ​ และแก้ไขปัญหาในช่วงฤดูฝนซึ่งอำจทำให้วัตถุอันตรายรั่วไหลออกนอกพื้นที่ โดยให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน

5. รวมทั้งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด บูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ และจัดทำแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในพื้นที่อื่น ๆ อีก

“สำหรับสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม จากการติดตามสถานการณ์พบว่าเพลิงได้ถูกควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดแล้ว มีการเผาไหม้เฉพาะบางจุดเท่านั้น ไม่เกินร้อยละ 3 ของพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ โดยมีหน่วยงานภาค​รัฐที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเข้าทำการควบคุมสถานการณ์ และให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงจัดศูนย์พักพิงชั่วคราว ในด้านคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยังไม่ก่อให้เกิด​ผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจังหวัดได้จัดเวรเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับประเด็นที่ประชาชนกังวลว่า หากฝนตกลงมาจะเป็นอย่างไร ทางจังหวัดได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยการขุดสระน้ำพื้นที่บริเวณรอบโรงงาน จำนวน 2 ไร่ เพื่อกักเก็บและบำบัดน้ำสร้างความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน และนำดินจากการขุดสระน้ำมาสร้างแนวคันกันน้ำป้องกันน้ำไหลไปยังพื้นที่อื่นๆ ” รองโฆษกฯ​ รัดเกล้า​ กล่าว