Health & Beauty
'แคริว่า'พาเปิดว้าว'AI'เพื่อนคนใหม่ของ 'คุณหมอ'ช่วยรักษามะเร็งในมิติที่แม่นยำ
กรุงเทพฯ-ทุกคนทราบดีว่า “โรคมะเร็ง” เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก และถือเป็นโรคร้ายแรงที่รักษายาก องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) และองค์กรวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer หรือ IARC) มีการคาดการณ์ว่าในอีก 2 ทศวรรษข้างหน้าจะมีจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 77% หรือมากกว่า 35 ล้านรายภายในปี 2050 (พ.ศ.2593) เมื่อเทียบกับสถิติปี 2022 อีกทั้งยังคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า หรือมากกว่า 18 ล้านราย นับตั้งแต่ปี 2012 โดยจะมีคนอายุระหว่าง 30-69 ปีกว่าครึ่งที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร สะท้อนถึงแนวโน้มการเกิดโรคมากขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงานซึ่งสืบเนื่องมาจากวิถีการดำเนินชีวิตยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต และสะท้อนถึงภาระทางด้านสาธารณสุขที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ทำให้การตรวจประเมินสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรเข้าถึง และได้รับการรักษาด้วยวิธีที่แม่นยำ ซึ่งในวันนี้ประเทศไทยได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำที่พร้อมรองรับกับภาวะดังกล่าว ถือเป็นมิติใหม่ที่จะทำให้ระบบทางการแพทย์ของไทยไปไกลมากยิ่งขึ้น โดยวันนี้ เราจะพาไปพบกับ บริษัท แคริว่า (CARIVA) ประเทศไทย จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์เวนเจอร์ส หรือเออาร์วี (ARV) ผู้นำเทคโนโลยีโครงข่ายข้อมูลสุขภาพด้วย AI ซึ่ง นพ.ปิยะฤทธิ์ อิทธิชัยวงศ์ หรือคุณหมออ๋า Medical AI Specialist at CARIVA จะมาเปิดเผยถึงความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง พร้อมโซลูชัน “CARIVA เพื่อนหมอ รู้ใจ” แอปพลิเคชันที่สามารถคัดกรองกลุ่มเสี่ยง วินิจฉัยโรคมะเร็งตั้งแต่แรกเริ่มและค้นหาผู้ป่วยมะเร็งได้ทันท่วงที ตลอดจนการวางแผนหาแนวทางการป้องกัน สำหรับผู้ป่วยที่สุ่มเสี่ยงที่อาจไม่เสียชีวิตและสามารถรักษาให้หายขาดได้
CARIVA กับการพัฒนา AI เพื่อนหมอที่ รู้ใจหมอด้านมะเร็ง แบบตรงปก
คุณหมออ๋าเล่าว่า ปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้เข้ามามีส่วนร่วมทางการแพทย์มากขึ้น ทำให้คนไข้สามารถพบหมอของโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นผ่านระบบหรือแอปพลิเคชัน หรือมีการพัฒนารูปแบบของการให้คำแนะนำ การติดตามอาการที่ทันสมัยมากขึ้น โดยมีการประยุกต์ใช้ในการตรวจวินิจฉัยโรคในเบื้องต้นของบุคลากรทางการแพทย์ และซักถามระหว่างกันกับผู้ป่วยทำให้การสื่อสารที่ทันสมัยสามารถนำพามิติทางการแพทย์ไปสู่สิ่งความปกติแบบใหม่ได้ ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้แคริว่า (CARIVA) ที่เป็นผู้นำเทคฯ ทางการแพทย์เกิดแนวคิดในการพัฒนาระบบวิเคราะห์และทำนายความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง จึงพัฒนา AI ที่สามารถวิเคราะห์และทำนายโอกาสที่จะเกิดโรคมะเร็งและในรายที่เป็นโรคมะเร็งเรื้อรังอยู่แล้ว เนื่องจากผู้ป่วยโรคมะเร็งจะต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เท่านั้น
“ถึงแม้ว่าทางการแพทย์จะมียาที่ดีขึ้น แต่ว่าคนสมัยนี้เป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นด้วยหลายปัจจัย เช่น PM 2.5 เป็นต้น กลับกันหมอรักษาโรคนี้มีไม่เพียงพอต่อคนไข้ ด้วยระยะเวลาการเรียนเฉพาะด้านมะเร็งอย่างน้อยก็ 10 ปี คำถามคือ เราจะทำอย่างไรเพื่อปิดจุดรั่วตรงนี้ โดยล่าสุดทาง CARIVA มีซอฟต์แวร์ที่สามารถเพิ่มพลังและเพิ่มศักยภาพให้หมอรักษาคนไข้มะเร็ง โดยใช้ระบบเทคโนโลยีช่วยให้หมอทั่วไปสามารถเป็นหมอเฉพาะทางด้านมะเร็งเยอะขึ้น ซึ่ง AI ของ CARIVA สามารถทำได้ ตั้งแต่การประเมิน วินิจฉัย ตลอดจนแนวทางการรักษา พร้อมทั้งสามารถช่วยค้นหางานวิจัยด้านมะเร็งได้ จากปกติที่จะต้องใช้เวลานานในการค้นหางานวิจัยที่เหมาะกับคนไข้แต่ละคน ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยหมออ่านหนังสือ อ่านงานวิจัย หาข้อมูลให้หมอท่านนั้นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งสามารถบอกได้ว่ามะเร็งชนิดนี้ใช้ยาตัวไหนดีที่สุด ซึ่งเป็นผลดีที่ทำให้หมอกับคนไข้มีเวลาในการพูดคุยซักถามกันมากขึ้น ดังนั้น CARIVA จึงเป็นหมออีกคนให้กับคนไข้ แถมยังรู้ใจหมอในเรื่องของมะเร็งมากอีกด้วย”
คุณหมออ๋ายังเล่าเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาการตรวจประเมินสุขภาพจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบบริการทางการแพทย์ ที่มีข้อจำกัดทั้งด้านบุคลากรทางการแพทย์ และกระบวนการให้บริการที่ไม่สะดวก อีกทั้งสัดส่วนจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ยังเป็นอัตราส่วนที่ไม่เพียงพอที่จะให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเราสามารถตรวจประเมินปัจจัยเสี่ยงหรือทำนายการเกิดโรคระยะการเกิดโรคในเบื้องต้นได้ก่อนก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพ และลดความหนาแน่นของระบบบริการทางการแพทย์ ซึ่งแคริว่ามีระบบที่สามารถวินิจฉัยว่าผู้ป่วยจะมีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเร็วขึ้นเท่าไร เพื่อช่วยวิเคราะห์และคาดการณ์ว่าปัจจัยใดที่ทำให้ผู้ป่วยมีค่าอัตราการเสี่ยงโรค โดยการตรวจเช็กและประเมินปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค และการประเมินสุขภาพ เพื่อเป็นการป้องกันก่อนการเกิดโรคมะเร็ง ซึ่งย่อมดีกว่าการรักษา หรือหากพบการเกิดโรคในระยะแรก ๆ ก็จะไม่สูญเสียโอกาสในการรักษา ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทั้งในด้านเครื่องมืออุปกรณ์ของแคริว่าที่มีความสามารถสูง และการจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูลจำนวนมากในระยะเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานให้บุคลากรทางการแพทย์
นอกจากนี้ CARIVA มีระบบเก็บข้อมูลผู้ป่วย ข้อมูลการวินิจฉัย และการตรวจคัดกรอง ซึ่งในการดำเนินงานรูปแบบเดิมข้อมูลผู้ป่วยและข้อมูลการวินิจฉัยจะถูกจัดเก็บในรูปแบบเอกสาร จึงทำยากต่อการค้นหาข้อมูลดังกล่าวและก่อให้เกิดความล่าช้าในการปฏิบัติงาน อีกทั้งผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาต้องสูญเสียเวลาไปกับการค้นหาข้อมูลภาพของเจ้าหน้าที่ แคริว่าจึงมีความพยายามที่จะเพิ่มขีดความสามารถ ของระบบฐานข้อมูลที่จัดเก็บภาพอัลตราซาวนด์ ทำให้แพทย์สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาจัดทำเป็นรูปแบบรายงานเพื่อให้แพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีระบบรายงานผลสถิติในผู้ป่วยโรคมะเร็งเพื่อใช้ประเมินระยะดำเนินโรค โดยมีการวางแผนเพื่อติดตามผลของการวินิจฉัยมะเร็ง การจัดการกับอาการ การดูแลรักษา การบริหารยา พร้อมมีการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ การประเมินความปวดจากโรคมะเร็งในแต่ละวัน รวมถึงการจัดการตนเองเมื่อกระทบต่อกิจกรรมประจำวัน ข้อดีคือทำให้ผู้ป่วยได้ข้อมูลตรงตามระยะเวลาจริง เพิ่มความมั่นใจในการจัดการตนเองได้มากขึ้น และสามารถแบ่งปันข้อมูลในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ป่วยและทีมผู้รักษา พร้อมได้รับข้อมูลที่ถูกต้องในการรักษา
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความแม่นยำ คุณภาพและมาตรฐานที่สูง แคริว่า (CARIVA) ได้รับใบรับรอง ISO 9100 ที่ยืนยันด้านคุณภาพของของระบบบริการทางการแพทย์ทั้งหมด และ ISO 13485:2016 ระบบมาตรฐานการจัดการคุณภาพของเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับ Preceptor AI ซึ่งการได้รับใบรับรองเหล่านี้เป็นการยืนยันและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ป่วย-บุคลากรทางการแพทย์ เห็นถึงคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานระดับโลกสำหรับการให้บริการในด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์จากแคริว่า เพื่อรองรับโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะให้นวัตกรรมทางการแพทย์เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งานอย่างสูงสุด
สอบถามรายละเอียดหรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://arv.co.th/ เพจเฟซบุ๊ก AI and Robotics Ventures (https://www.facebook.com/arv.th) หรือโทร. 02 078 4000