In News

ภารกิจนายกฯเยี่ยมชาวมุกดาหาร-ร้อยเอ็ด รับฟังปัญหาน้ำ-ยาเสพติด-เงินดิจิทัล



กรุงเทพฯ-นายกฯ รับฟังปัญหา-พบปะพี่น้องประชาชน อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ยืนยันเงินดิจิทัลวอลเล็ต ถึงมือประชาชนสิ้นปี 2567 นี้/ก่อนหน้านี้นายกฯ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดกลางอุดมเวทย์ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อเป็นความเป็นสิริมงคลในโอกาสตรวจราชการ จ.ร้อยเอ็ดและได้ลงติดตามการบริหารจัดการน้ำ จ.ร้อยเอ็ด ย้ำบูรณาการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค-การเกษตร หนุนพัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้สู่ตลาดโลก ยกระดับรายได้เกษตรกร/ที่มหาสารคามนายกฯได้ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ ปัญหาภัยแล้ง จ.มหาสารคาม กำชับทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานให้เกิดผลจริง เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน

วันนี้ (5 พ.ค. 67) เวลา 16.26 น. ณ โรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับฟังปัญหาและพบปะพี่น้องประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมพบปะกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดด้วย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ กล่าวทักทายประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และทำให้นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ตลอดจน สส. ได้มารับใช้ประชาชน โดยยินดีที่ได้กลับมาจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นครั้งที่ 4 วันนี้มาด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกฯ ได้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ โดยนางสาวจิราพร สินธุไพร เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วย จึงขอแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีหญิงคนแรกของจังหวัดร้อยเอ็ด

พร้อมกันนี้ นายกฯ กล่าวถึงการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยืนยันโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สิ้นปีนี้จะถึงมือประชาชน รวมทั้ง นายกฯ ได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนด้านชลประทาน ที่จะบริหารจัดการน้ำให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างสมบูรณ์เพียงพอ เพราะน้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญด้านการเกษตร ยืนยันว่าเรื่องน้ำไม่มีปัญหา และย้ำถึงการพัฒนาพันธุ์ข้าว โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก นายกฯ จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนับสนุนการพัฒนาข้าวหอมมะลิสายพันธุ์นี้ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นไปด้วย

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ย้ำถึงการขับเคลื่อนงานด้านสาธารณสุข ในการดูแลประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จะนำหมอไปหาประชาชนถึงที่บ้าน ขณะที่ อสม. รัฐบาลก็ดูแลจนขณะนี้จะได้รับเงินตกเบิก จากการที่ได้รับอัตราค่าป่วยการที่เพิ่มจากเดิมเดือนละ 1,000 บาท เป็น เดือนละ 2,000 บาท ดังนั้นจึงขอเป็นกำลังใจให้ อสม. ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนด้วย

“นายกฯ ยังได้กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ทั้งเรื่องปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ ที่ผู้ให้กู้ชาร์จดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม โดยรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังและให้หมดสิ้นไป ขณะที่ปัญหายาเสพติดก็เป็นปัญหาใหญ่ โดยขณะนี้รัฐบาลก็ได้พยายามแยกผู้เสพออกมาจากชุมชน เพื่อนำไปบำบัด ก่อนคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้องต่อไป นายกฯ ย้ำด้วยว่า ผู้ค้ายาต้องถูกจัดการโดยเด็ดขาดจากกฎหมาย ยึดทรัพย์ทันที ไม่ให้มีการเอาเงินไปทำยาเสพติดต่อไป พร้อมกับขอให้ทุกคนช่วยกันขจัดยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทย” นายคารม กล่าว  

นายกฯ สักการะวัดกลางอุดมเวทย์ตรวจราชการร้อยเอ็ด

เวลา 16.05 น. ณ วัดกลางอุดมเวทย์ ตำบลพนมไพร อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สักการะพระบรมธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสตรวจราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และคณะร่วมสักการะด้วย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระบรมธาตุ และเข้ากราบนมัสการพระครู อดุลจันทคุณ (หลวงพ่อประดิษฐ์ จนฺทโร) เจ้าอาวาสวัดกลางอุดมเวทย์ โดยนายกฯ ได้รับกรอบรูปพระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์จากเจ้าอาวาสฯ หลังจากนั้น นายกฯ กล่าวทักทายประชาชนและพบปะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนเดินทางไปยังโรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร เพื่อรับฟังปัญหาและพบปะพี่น้องประชาชน 

“สำหรับวัดกลางอุดมเวทย์เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ มีปูชนียสถาน ปูชนียวัตถุ ตลอดจนโบราณวัตถุอยู่ในวัดมากมาย ที่สำคัญเป็นที่เคารพนับถือกันมาแต่โบราณกาล คือองค์พระมหาธาตุซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีอายุราว 1,500 ปี ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอำเภอพนมไพร และเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นใกล้เคียง ที่คนทั่วไปรู้จักและให้ความเคารพนับถือตามตำนานเล่าต่อกันมาว่า เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” นายคารม กล่าวเพิ่มเติม 

นายกฯ ติดตามการบริหารจัดการน้ำ จ.ร้อยเอ็ด 

เวลา 14.10 น. ณ วัดกู่พระโกนา ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามประเด็นการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ 

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้รับฟังการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอสำหรับประชาชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่และการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำและศักยภาพของพื้นที่ เช่น กรมพัฒนาที่ดิน นำเสนอ 1) การพัฒนาพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งมีพื้นที่ 2.1 ล้านไร่ (เช่น การบริหารจัดการดินและน้ำ ปรับปรุงดิน ส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน) เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อยกระดับการผลิตและเพิ่มคุณภาพข้าวหอมมะลิ 105 ตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยในการพัฒนาพื้นที่ยังต้องเดินหน้าขับเคลื่อนให้ไปสู่ทิศทางแห่งความยั่งยืนต่อไปอีก 1,097,729.35 ไร่  2) การดำเนินงานส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ดินเค็ม จ.ร้อยเอ็ด ดำเนินการแล้วเสร็จ ปีงบประมาณ 2556 - 2566 พื้นที่ที่ดำเนินการก่อสร้างแล้ว 15,255 ไร่ เหลือพื้นที่ที่ยังไม่ดำเนินการ 224,682 ไร่ 3) โครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน จ.ร้อยเอ็ด (เป็นการขุดสระหรือบ่อน้ำในพื้นที่นาของประชาชน 1 รายต่อ 1 บ่อ เพื่อเก็บกักไว้ใช้สำหรับทำการเกษตร หรือเลี้ยงสัตว์น้ำต่าง ๆ สร้างอาชีพและรายได้ โดยกรมพัฒนาที่ดินสนับสนุนงบฯ ให้ส่วนหนึ่ง และเกษตรกรสมทบ 2,500 บาท โดยต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนงบฯ

สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าวด้วย รวมทั้งกรมชลประทานนำเสนอแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำเขตทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นการขุดลอกลำน้ำเสียวใหญ่ ลำน้ำเสียวน้อย ลำพลับพลา ลำเตา ลำห้วยหินลาด เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักในลำน้ำธรรมชาติให้เพียงพอตลอดปี ทั้งก่อสร้างประตูระบายน้ำและฝายในลำน้ำ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักและระบายน้ำ ช่วยป้องกันอุทกภัยและภัยแล้ง รวมถึงสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ เพื่อกระจายน้ำเข้าสู่พื้นที่การเกษตรอย่างทั่วถึง และพัฒนาแก้มลิงสองฝั่งลำน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำในฤดูฝน และใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของทุกกิจกรรมการใช้น้ำในฤดูแล้ง ทั้งนี้ หน่วยงานขอรับการสนับสนุนงบฯ จากรัฐบาล จำนวน 15 โครงการ ได้แก่ โครงการเร่งด่วน จำนวน 4 โครงการ (ขุดลอกลอกลำห้วยเสียวใหญ่ โครงการฝายห้วยหินลาด พร้อมขุดลอก บ้านแคน โครงการฝายห้วยหินลาด พร้อมขุดลอก บ้านดงเมือง ปรับปรุงฝายยางสำเตา บ้านเมืองบัว) 2. โครงการที่ได้การร้องขอจากประชาชน จำนวน 11 โครงการ (เช่น ขุดลอกลอกลำห้วยเสียวน้อย ขุดลอกลอกลำเตา ขุดลอกลอกลำห้วยแล้ง ขุดลอกหนองหลุบกก ฯลฯ)

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้รับฟังความต้องการของโรงพยาบาลสุวรรณภูมิ ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในการสนับสนุนงบฯ ในเรื่องของการบำบัดน้ำเสียของโรงพยาบาล เครื่องมือจักษุ และการขอถ่ายโอนพื้นที่กองกำกับ (เก่า) ของสถานีตำรวจ สำหรับใช้เป็นพื้นที่เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยจิตเวช จากยาเสพติด ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบล และสิ่งก่อสร้างเป็นของกรมธนารักษ์ 

โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวว่าได้เดินทางมาจังหวัดร้อยเอ็ดหลายครั้งแล้ว ล่าสุดมาดูเรื่องโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรคบัตรใบเดียว ดีใจที่ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยวันนี้ที่เดินทางมาจังหวัดร้อยเอ็ด มีเรื่องหลักที่จะมาดูแล คือการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งขณะนี้อยู่หน้าร้อนแล้ว เรื่องของการเพาะปลูกเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับปากท้องของพี่น้องประชาชนทุกคน หากน้ำไม่เพียงพอ พี่น้องประชาชนก็ไม่สามารถที่จะเพาะปลูกได้ วันนี้จะมาดูแลเรื่องของน้ำ โดยโครงการต่าง ๆ ที่เสนอมา นายกฯ สั่งการให้ กรมชลประทานพิจารณาความเหมาะสมของโครงการและความเร่งด่วนต่าง ๆ ในการพัฒนาระบบชลประทานทั้งระบบในจังหวัดร้อยเอ็ด คำนึงผลกระทบโดยรวม และการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย รวมถึงการวางแผนการบริหารจัดการน้ำระยะยาวสำหรับโครงการที่อยู่นอกแผนของกรมชลประทาน ให้ดูถึงความเหมาะสม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ในการอุปโภคบริโภคและใช้ในการทำมาหากิน

นายกฯ กล่าวถึงการพัฒนาที่ดินในทุ่งกุลาร้องไห้ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นจุดที่กว้างใหญ่มีอาณาเขตครอบคลุม 5 จังหวัด มีศักยภาพในการพัฒนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และเป็นข้าวหอมมะลิที่พัฒนาอย่างมีคุณภาพ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก นายกฯ จึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลเกษตรกรพัฒนาการปลูกข้าวหอมมะลิ ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นไปอีกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและเพิ่มผลผลิตยกระดับรายได้ขึ้นไปอีก

นายกฯ กล่าวถึงการจัดการที่ดินและน้ำว่า ขอให้พัฒนาระบบการจัดการที่ดินและน้ำ ให้เหมาะสมกับการปลูกข้าวหอมมะลิ จัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอเพื่อให้เกษตรกรสามารถรักษาคุณภาพผลผลิตได้ตลอดปี รวมทั้งสนับสนุนการจัดหาพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพสูง และใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่ม ผลผลิตและคุณภาพของข้าว และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ขณะที่การตลาดการขายให้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนการตลาดส่งเสริมการขายข้าวหอมมะลิไปตลาดโลก เพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายโอกาสทางการตลาด รวมถึงให้มีการส่งเสริมการแปรรูป การผลิตสินค้าคุณภาพ การเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกรด้วย เพื่อเป็นการสร้างแหล่งรายได้เสริมเพิ่มเติมให้เกษตรกรในด้านต่าง ๆ อีกด้วย

นายกฯ ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ ปัญหาภัยแล้ง จ.มหาสารคาม 

เวลา 11.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นยาเสพติดและหนี้นอกระบบ ซึ่งรัฐบาลนี้ให้สำคัญอย่างมาก และต้องการให้ประชาชนหลุดพ้นจากวงจรหนี้นอกระบบได้อย่างแท้จริง สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมศักดิ์ศรีและมีความสุข รวมถึงการขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจราชการ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. สส. และประชาชนในพื้นที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ให้การต้อนรับนายกฯ และคณะ โดยกลุ่มสตรีแม่บ้านพยัคฆภูมิพิสัยได้ผูกผ้าขาวม้าต้อนรับและให้กำลังใจนายกฯ ในการทำงานด้วย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  นายกฯ รับฟังการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การแก้ไขปัญหายาเสพติดและปัญหาภัยแล้งจังหวัดมหาสารคาม โดยนายกฯ ย้ำว่า การเดินทางมาตรวจราชการ จ.มหาสารคาม โดยนำรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมคณะ เพื่อติดตามการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ด้วย ซึ่งจากที่ได้รับฟังตัวเลขจากผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ตัวเลขรายได้ต่อหัวของประชากรอยู่ในอันดับที่ 57 ของประเทศซึ่งถือว่ายังต่ำอยู่ และพึ่งพาภาคเกษตรค่อนข้างมาก ซึ่งการเกษตรจะดีได้ น้ำถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่ต้องมีการบริหารจัดการให้เพียงพอต่อการทำการเกษตร ดังนั้นจึงขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ดูแลเรื่องน้ำ ทั้งรถผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่ และรถขนน้ำไปให้บริการประชาชน รวมถึงเร่งการขุดลอกแหล่งน้ำ และซ่อมบํารุงระบบประปาแก่ชุมชน และขอให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กรมการทหารช่าง ใช้รถบรรทุกน้ำของทหารที่มีอยู่ทั่วประเทศ เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำกินน้ำใช้ เน้นย้ำให้ดูแลน้ำกินน้ำใช้ให้เพียงพอ

ส่วนปัญหาหนี้นอกระบบ นายกฯ ย้ำว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นายกฯ ให้ความสําคัญ เพราะเป็นปัญหาที่หยั่งลึกในสังคมไทย ทำงานเท่าไรก็ไม่พอใช้หนี้ ตัวเลขยอดมูลหนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามรายงานให้รับทราบประมาณ 300 กว่าล้านบาท ยังถือว่าต่ำอยู่ จำนวนลูกหนี้และเจ้าหนี้ที่เข้ามาลงทะเบียนในระบบมีประมาณไม่ถึงสามพันคน ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งตำรวจ ข้าราชการ นายอำเภอ ได้ทำงานกันอย่างหนัก นำทุกคนเข้าสู่ระบบให้มีการไกล่เกลี่ยหนี้ให้ได้ แต่ตัวเลขที่แสดงออกมาดังกล่าวก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะตัวเลขหนี้นอกระบบที่มีอยู่ทั้งระบบมีเป็นแสนล้าน จึงขอให้กำลังใจทุกหน่วยงาน และขอให้ทำงานหนักขึ้นในการจัดตลาดนัดหนี้ เพื่อสนับสนุนให้ลูกหนี้เข้ามาแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้มากขึ้น ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ก็ต้องดูแลเรื่องของผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ ที่ข่มขู่ และไม่ยอมเข้าสู่ระบบ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งและอาจเป็นส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากพี่น้องเราทำงานมาเท่าไรก็ไม่พอใช้ดอกเบี้ยที่ไม่ให้ความเป็นธรรม และดอกเบี้ยที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นหากเราแก้ที่รากฐานของปัญหาหนี้นอกระบบได้ปัญหาต่าง ๆ ก็จะลดน้อยลงไป

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องยาเสพติดที่รัฐบาลดูแลและให้ความสำคัญ ซึ่งปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาใหญ่ในภาคอีสาน ซึ่งตรงนี้เกิดจากการทำงานมาใช้หนี้ไม่เพียงพอ ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายก็ยังมีความหละหลวมอยู่ โดยวันนี้เลขาธิการ ป.ป.ส. แม่ทัพภาค และผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 4 ก็ได้เดินทางมาด้วย จึงขอให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหายาเสพติด และให้การดูแลพี่น้องประชาชนให้เหมาะสม ทั้งนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำให้ตำรวจ ป.ป.ส. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม จัดทําข้อมูลบัญชีผู้ค้ายาเสพติด แบ่งเป็นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก โดยต้องระบุและกําหนดกรอบระยะเวลาที่จะปราบปราม แต่ต้องไม่เกิน 90 วัน นับจากวันนี้ การปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด ผู้ที่มียาเสพติดไว้ในครอบครองถือว่ามีความผิด ขอให้ดูที่เจตนาว่าเป็นผู้เสพหรือเป็นผู้ขาย หากเป็นผู้ขายต้องจัดการขั้นเด็ดขาด โดยให้รายงานผลมาที่สํานักนายกรัฐมนตรีทุกเดือน และขอเน้นย้ำเรื่องมาตรการการยึดทรัพย์ การเผาทําลายของกลางต้องทําโดยเร็ว และอย่ามีการเคลื่อนย้ายบ่อยครั้งเพราะสังคมจะเกิดข้อสงสัยเกิดขึ้น ตรงนี้ขอให้จัดการเด็ดขาด ส่วนกรณีที่เป็นผู้เสพขอให้ถือว่าเขาเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาบําบัด ดังนั้น ขอให้ อปท. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ตํารวจ ทหาร ทํางานอย่างบูรณาการ เปิดศูนย์บําบัดผู้ป่วยยาเสพติด ในพื้นที่ของส่วนราชการที่ควบคุมได้ เช่น ค่ายทหาร โดยให้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาจัดการเรื่องการบําบัดดูแล ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ปกครอง เข้ามาดูแลเรื่องระเบียบ การจัดการ และความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ยืนยันขอให้เราเคร่งครัดปฏิบัติ และคำนึงถึงพี่น้องประชาชนเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่

พร้อมกันนี้ นายกฯ ย้ำถึงกระบวนการยึดทรัพย์ต้องดำเนินการโดยเร็ว สกัดตามชายแดนไม่ให้มียาเสพติดรั่วเข้ามา จัดการจับกุมผู้ค้ายาอย่างเด็ดขาด เรื่องของการที่เอาชุมชนเข้ามาเป็นส่วนแก้ไขในการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นโครงการหัวโทนโมเดล ดึงหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมกันบูรณาการ ทุก ๆ คนต้องช่วยกัน โดยขอย้ำอีกครั้งว่าถนนนี้ยังอีกไกล เชื่อว่าเรามีแผนงานที่ชัดเจน แม้ว่าปัญหายังอยู่ ราคายาบ้าก็ยังไม่ขึ้น ถึงแม้จับได้มากขึ้นเป็น 3-4 เท่าก็ตาม เราต้องทำงานกันหนักขึ้น และต้องทำงานร่วมมือกันให้มากขึ้น ในส่วนการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ อยากให้จังหวัดช่วยกันรณรงค์ให้ลูกหนี้เข้ามาพูดคุยกันมากกว่านี้ เพราะเรื่องนี้คือเรื่องสำคัญ

ในตอนท้าย นายกฯ ได้ขอบคุณ สส. ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ที่นำขับเคลื่อนโครงการสะท้อนความต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่งนายกฯ มั่นใจว่าโครงการเหล่านี้ได้ถูกบรรจุในโครงการแล้ว ซึ่งจะช่วยผลักดันอย่างจริงจังให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป