In News

ภารกิจนายกฯลงพื้นที่'สารคาม-ร้อยเอ็ด' พัฒนาพันธุ์ข้าวหอมมะลิ-ดูปัญหาทุกมิติ



ร้อยเอ็ด-​นายกฯ เผย ภาพรวมลงพื้นที่ ‘มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด’ ดูปัญหาทุกมิติ หนุนพัฒนาสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เพิ่มผลผลิตต่อไร่ทำราคาเพิ่มสูงขึ้น ก่อนหน้านี้นายกฯ ติดตามการใช้บริการและความพร้อมของเครื่องมือแพทย์ โรงพยาบาลโพนทอง จ.ร้อยเอ็ดและ​นายกฯยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ยืนยันทุกคนในรัฐบาลทำงานเพื่อ ปชช. ขอให้ ปชช.เป็นกำลังใจให้กับรัฐบาล และ สส.ทุกคนในการทำงานเพื่อประชาชน ภารกิจแรกวันนี้นายกฯ ติดตามประเด็นการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและพนังกั้นน้ำ บ้านท่าสะแบง จ.ร้อยเอ็ด พร้อมรับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไปแก้ไขต่อ

วันนี้ (6 พฤษภาคม 2567) เวลา 13.09 น. ณ โรงพยาบาลโพนทอง ตำบลสระนกแก้ว อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 5 - 6 พ.ค. นี้ ว่า  2 วันที่ลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ดไปดูปัญหาในทุกมิติ ทั้งเรื่องปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วม ทั้งหนองน้ำและอ่างเก็บน้ำ พยายามแก้ปัญหาในพื้นที่ รวมถึงปัญหาถนนที่ต้องมีการขยาย ให้การจราจรและการคมนาคมเป็นไปได้ด้วยดี และที่สำคัญที่เรามาในวันนี้คือปัญหาเรื่องยาเสพติด วันนี้เราเน้นปัญหาเรื่องยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาในพื้นที่ภาคอีสานมีเยอะมาก ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้ว ซึ่งเรามาหลายครั้งแล้วแต่ปัญหาก็ยังเป็นแบบเดิมตลอด แล้ววันนี้มีเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาด้วย ก็มาดูว่าจากนี้ต่อไปอีก 90 วัน ต้องมีอะไรที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเรื่องการยึดทรัพย์ การกำหนดมาตรฐานที่จะต้องมียาบ้ากี่เม็ดจะเข้าข่ายเป็นผู้ขาย  รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในเรื่องของหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและตนเองได้กำชับกับฝ่ายปกครอง แล้วฝ่ายความมั่นคง ว่าจะต้องมีการจัดการให้หมดสิ้นไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด นายกฯ ให้พัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้จะส่งเสริมข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ให้ติดอันดับโลกมากขึ้นกว่านี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านก็นำข้าวนี้มาให้  พร้อมกับยกถุงข้าวโชว์ให้สื่อมวลชนดู และกล่าวต่อว่า ตรงนี้เราจะมีการขยายเพื่อส่งเสริมมูลค่าเพิ่ม ให้กับผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตร 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ยังขาดการส่งเสริมด้านใด นายกฯ กล่าวว่า ต้องพัฒนาสายพันธุ์และปริมาณการเพาะปลูกต่อไร่ เราอยากให้มีปริมาณที่สมดุลขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการเรื่องน้ำต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่าจะดีขึ้น 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความต้องการข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ในต่างประเทศเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า สูงมาก ข้าวหอมมะลิเราทราบกันดีว่าผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าข้าวพันธุ์ข้าวธรรมดา จึงต้องมีความพยายามยกระดับให้สูงขึ้น โดยในแง่ของต้นทุนการผลิต ถ้าเราสามารถทำให้ผลผลิตต่อไร่ออกมาเป็น 650 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาข้าวก็จะสูงขึ้น ซึ่งเรื่องการบริหารจัดการน้ำก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่มันต้องใช้เวลา ถึงต้องมาดูด้วยตาตนเอง และเชิญรัฐมนตรีหลายท่านมาด้วย

นายกฯ ติดตามการใช้บริการและความพร้อมของเครื่องมือแพทย์ โรงพยาบาลโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด

เวลา 13.00 น. ณ โรงพยาบาลโพนทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามประเด็นการใช้บริการและความพร้อมอมของเครื่องมือแพทย์ โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมตรวจความพร้อมด้วย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้รับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับการใช้บริการและความพร้อมของเครื่องมือแพทย์โรงพยาบาลโพนทอง รวมถึงความจำเป็นเกี่ยวกับการขยายโรงพยบาลโพนทอง เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและรองรับผู้ป่วย ตลอดจนการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ (บ้านพักเจ้าหน้าที่) โดยนายกัมปนาท โกทางกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพนทอง นำเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งนี้ โรงพยาบาลโพนทองได้จัดทำแผนคำขอรายการครุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการดูแลสุขภาพพี่น้องคนไทย ตอบสนองต่อความต้องการ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จำนวน 11 รายการ เช่น เครื่องตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ระดับความคมชัดสูง 3 หัวตรวจ โคมไฟผ่าตัดใหญ่โคมคู่ขนาดไม่น้อยกว่า 130,000 ลักซ์ หลอดแอลอีดี เตียงผ่าตัดทั่วไประบบไฟฟ้า พร้อมรีโมทคอนโทรล ฯลฯ 

จากนั้น นายกฯ ได้เดินไปตรวจเยี่ยมที่ห้องฉุกเฉินก่อนพบปะทักทายกับพี่น้องประชาชนชาวโพนทอง ที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเองด้วย

​นายกฯยืนยันทุกคนในรัฐบาลทำงานเพื่อปชช.ขอให้ ปชช.เป็นกำลังใจให้กับรัฐบาล

 

เวลา 10.50 น. ณ โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย ต.รอบเมือง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามประเด็นปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมติดตามประเด็นปัญหาของพี่น้องประชาชน 

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามประเด็นปัญหาดังนี้ 1. โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยทรายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำป้องกันบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในเขตเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลรอบเมือง อ. หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด 2. โครงการปรับปรุงกายภาพของถนนและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติซ้ำซากและขยายช่องจราจรทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2116 หน่วยงาน: แขวงทางหลวงยโสธร โดยขอรับจัดสรรงบประมาณเพื่อทำการปรับปรุงกายภาพของถนน พร้อมทั้งวางระบบระบายน้ำสองข้างทางและใต้ผิวทาง ตามมาตรฐานของกรมทางหลวง และขอรับจัดสรรงบประมาณเพื่อทำการขยายช่องจราจร จากเดิม 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร แบบมีเกาะกลางถนนพร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตามมาตรฐานของกรมทางหลวง 3. การขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างหอประชุมอำเภอหนองพอกหลังใหม่ ขนาด 500 คน 4. การปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำประปา โดยขอรับการสนับสนุนจำนวน 2 โครงการ คือ 1) โครงการปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำประปา หมู่ที่ 1 ต.หนองพอก หมู่ 1, 2, 5, 9, 10, 15 ต.รอบเมือง อ.หนองพอก และ 2) โครงการปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำประปา หมู่ที่ 1 ต.หนองพอก หมู่ 1, 8, 11 ต.หนองพอก อ.หนองพอก 

จากนั้น นายกฯ ได้พบปะประชาชนชาวหนองพอก พร้อมกล่าวกับประชาชนชาวหนองพอกว่า การเดินทางมาวันนี้เพื่อมารับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญทั้งเรื่องเส้นทางคมนาคม ถนน อ่างกักเก็บน้ำและน้ำประปา รวมถึงการดูแลราคาพืชผลทางการเกษตรให้มีราคาสูงขึ้น เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราภาคภูมิใจ ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ส่วนปัญหาที่พี่น้องประชาชนชาวหนองพอกเสนอมา ทั้งเรื่องถนน ก็จะให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว อ่างกักเก็บน้ำ จะถูกบรรจุในแผนงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำที่ต้องให้ทำโดยเร็วเช่นกัน รวมถึงเรื่องน้ำประปาด้วย

ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯ ย้ำว่าไตรมาสสี่ปีนี้ได้รับแน่นอน นายกฯ กล่าวถึงการดูแลแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและปัญหายาเสพติดว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยจะต้องกำจัดเรื่องหนี้นอกระบบให้หมดไป นำสภาพคล่องเข้าสู่พี่น้องประชาชน  ขณะที่ปัญหายาเสพติดก็จะต้องไม่ถูกพอกพูนและถูกกำจัดออกไปเช่นกัน นายกฯ ยืนยันรัฐบาลนี้ทุกคนทำงานเพื่อประชาชน ขอให้ประชาชนเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาล และ สส.ทุกคนในการทำงานเพื่อประชาชนต่อไปด้วย

​นายกฯ ติดตามประเด็นการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและพนังกั้นน้ำ บ้านท่าสะแบง จ.ร้อยเอ็ด

เวลา 09.45 น. ณ วัดท่าสะแบง อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามประเด็นการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและพนังกั้นน้ำ เพื่อป้องกันการกัดเซาะของกระแสน้ำและรักษาขอบเขตแนวตลิ่ง รวมทั้งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ที่มาใช้งานอาคารสถานที่ภายในบริเวณวัดสำหรับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทางพุทธศาสนา

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด ขอให้รัฐบาลพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี บ้านท่าสะแบงหมู่ที่ 4 ต.มะบ้า อ.ทุ่งเขาหลวง (ต่อเนื่องเขื่อนเดิมด้านเหนือน้ำ) ความยาว 650 เมตร งบประมาณ 78 ล้านบาท ซึ่งได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รวมทั้ง นายกฯ ได้รับทราบการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและโลจิสติกส์ภายในจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางด้านการเกษตรและด้านการท่องเที่ยว โดยแขวงทางหลวงชนบทร้อยเอ็ด ขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ด้วยการดำเนินโครงการปรับปรุงผิวจราจรและขยายไหล่ถนนสาย รอ.4065 แยก ทล.2044 - บ้านชูชาติ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ระยะทาง 8.550 กิโลเมตร งบประมาณ 85 ล้านบาท

จากนั้น นายกฯ ได้พบปะพูดคุยกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับ โดยนายกฯ กล่าวว่าดีใจที่ได้มาพบกับชาว จ.ร้อยเอ็ดอีกเป็นครั้งที่ 4 มาพร้อม สส. ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนชาว จ.ร้อยเอ็ด ที่เข้ามาช่วยกันในฝ่ายบริหาร ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชาวร้อยเอ็ดทุกคน โดยเมื่อเช้านี้ได้กราบนมัสการพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง) และได้พูดคุยถึงปัญหาน้ำท่วมซึ่งเป็นปัญหาใหญ่แล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะในฤดูฝนน้ำท่วมครั้งละ 2 - 3 เดือน ทำให้ประขาชนเดือดร้อนมาก ทั้งนี้ เรื่องน้ำถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างมาก และเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ จึงขอสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำและดูแลเรื่องการกักเก็บน้ำ โดยช่วงเวลาที่ผ่านมาจังหวัดใกล้เคียงอย่าง จ.อุบลราชธานี ก็เคยประสบปัญหาน้ำท่วม แต่เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามาก็ได้ไปเยี่ยมเยียนโดยนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มาช่วยดูแล จึงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ จ.อุบลฯ น้ำไม่ท่วม ซึ่งนายกฯ มีความปรารถนาอยากจะเห็นอำเภอและเขตนี้น้ำไม่ท่วมในปีนี้ 

ส่วนเรื่องทางหลวงชนบทที่ได้ถูกบรรจุแผนงานดำเนินการในปี 2569 แล้วนั้น เมื่อนายกฯ มาดูหน้างานจริงพบว่าปัญหาที่ประชาชนประสบมีมาก หากสามารถสร้างโครงการดังกล่าวให้เร็วขึ้นการคมนาคมก็จะสะดวก และการเดินทางสามารถไปเชื่อมต่อในหลาย ๆ เขตหมู่บ้าน อำเภอ หรือสนามบินได้ด้วย ดังนั้น จึงสมควรที่จะให้มีการพิจารณาและเร่งดำเนินการเร็วกว่านี้ ย้ำว่าดีใจที่ได้เดินทางมาวันนี้ และจะรับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไปแก้ไขต่อ 

ทั้งนี้ ในโอกาสที่ นายกฯ ติดตามประเด็นการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและพนังกั้นน้ำ ณ วัดท่าสะแบง อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด นายกฯ และคณะ ได้กราบนมัสการพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง) เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย