EDU Research & ESG

EDFชวนผู้ใหญ่ใจดีมอบทุนการศึกษาให้ นักเรียนยากไร้ในปีการศึกษา2567



กรุงเทพฯ-นายสรรเพชร นิลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) เปิดเผยว่า “ในปีการศึกษา 2567 ที่โรงเรียนทั่วประเทศจะเปิดภาคการศึกษากลางเดือนพฤษภาคมนี้ และทางมูลนิธิ EDF จะปิดรับการสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับปีการศึกษา 2567 ในวันที่ 30 มิถุนายน ศกนี้ จากการสรุปตัวเลขนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกและขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษา ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังมีนักเรียนที่ยากไร้ยังคงรอรับทุนการศึกษาอีก 2,896 คน แยกเป็นทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2,131 คน ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย / อาชีวศึกษา 383 คน ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนพิการเรียนร่วมในโรงเรียนปรกติ 237 คน และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนกำพร้าใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 145 คน”

“สำหรับนักเรียนที่ยากไร้และได้รับการจัดสรรทุนการศึกษาเรียบร้อยแล้วมีจำนวนรวม 6,762 คน คิดเป็นร้อยละ 70 ของนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อรับทุนการศึกษาจากทั้งหมด 9,658 คน แบ่งเป็นทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 5,865 ทุน ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย / อาชีวศึกษา 587 ทุน ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนพิการเรียนร่วมในโรงเรียนปรกติ 183 ทน และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนกำพร้าใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 127 ทุน” นายสรรเพชรกล่าว

นายสรรเพชรกล่าวต่อไปว่า “มูลนิธิ EDF ยังต้องการรับการสนับสนุนทุนในโครงการทุนการศึกษาสำหรับปีการศึกษานี้อีก 2,896 ทุน ด้วยความหวังว่าเราจะสามารถส่งมอบโอกาส มอบอนาคตและมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการศึกษาโดยไม่ต้องกังวลถึงความขัดสนของครอบครัวให้กับนักเรียนที่ยากไร้ให้ได้มากที่สุดภายใน 30 มิถุนายน 2567 นี้ โดยทุกท่านสามารถร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาได้โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านระบบ E-Donation โอนเงินบริจาคผ่านบัญชีธนาคาร หรือร่วมบริจาคออนไลน์ผ่านบัตรเคดิต หรือ Mobile Banking ได้ที่เว็บไซต์มูลนิธิ www.edfthai.org รวมถึงร่วมเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ทรงคุณค่าในการร่วมสื่อสารเพื่อเป็น “สะพานแห่งโอกาส” ด้วยการแนะนำโครงการทุนการศึกษาของมูลนิธิให้เพื่อน ๆ สมาชิกในครอบครัว หรือคนรู้จัก เพื่อร่วมสร้างจุดเปลี่ยนสู่อนาคตที่ดีขึ้นจากการศึกษาให้นักเรียนที่ยากไร้เหล่านี้ได้เติบโตสามารถพึ่งพาตนเองและเปลี่ยนแปลงอนาคตของตนเองได้อย่างแท้จริง”

นายพงศ์ธาริน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เล่าว่า “ผมอาศัยอยู่กับพ่อที่ทำขนมไข่หงส์ขาย ทำให้ผมได้ฝึกทำขนมและขายขนมไปด้วย ทำให้เห็นคุณค่าของเงิน ผมชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และได้เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น การแข่งขันตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ การแข่งขันคณิตศาสตร์ เป็นต้น ผมตั้งใจอยากเรียนให้จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ เพราะผมเห็นคนในครอบครัวของผมหลายคนที่เจ็บป่วยหนักจนถึงขั้นเสียชีวิต รวมถึงพ่อของผมด้วย ผมต้องการเป็นหมอเพื่อรักษาคนเจ็บป่วยและผู้ที่เผชิญสภาพและสถานการณ์เดียวกันกับผม ผมอยากขอโอกาสเพื่อต่อยอดความฝันในการเป็นหมอของผมให้เป็นจริงด้วยครับ”

เด็กหญิงฐิติพร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านหนองกระดาน จังหวัดสุรินทร์ ที่รอรับทุนการศึกษาต่อเนื่อง 3 ปี  เล่าว่า “หนูต้องอยู่บ้านคนเดียวเพราะพ่อแม่ไปทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด แต่โชคดีที่มีตากับยายที่อยู่บ้านใกล้กันมาคอยช่วยดูแล ตั้งแต่เด็กหนูเห็นพ่อแม่ทำงานหนักเพื่อส่งหนูให้ได้เรียนหนังสือ ทุกวันนี้หนูขายของทางออนไลน์ เพื่อช่วยตากับยายหาเงิน และทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน หนูจะช่วยตาเอาวัวไปผูกที่นาและหลังจากโรงเรียนเลิก หนูจะช่วยนำวัวเข้าคอก รวมถึงช่วยยายทำงานบ้าน  หากมีโอกาสได้เรียนสูง ๆ หนูอยากเรียนต่อด้านการตลาดออนไลน์ เพราะเป็นสิ่งที่หนูสนใจและทำได้ดี หนูสมัครขอรับทุนการศึกษาในปีการศึกษา 2567 เพื่อทำความฝันของหนูให้เข้าใกล้ความจริงค่ะ”

เด็กหญิงกัญญาภัค  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านนาฝาย จังหวัดมหาสารคาม ที่ร่างกายพิการและความสามารถในการได้ยินน้อยลงเป็นลำดับจากอุบัติเหตุล้มศีรษะกระแทกพื้นเมื่อครั้งที่มีอายุได้ 3 ขวบ และต้องใส่เครื่องช่วยฟังเพื่อให้ได้ยินสิ่งที่ครูสอนในห้องเรียน และมีปัญหาเรื่องการพูดและการอ่านออกเสียง ทำให้ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลเป็นประจำ และมีความหวังว่าสักวันหนึ่งจะหาย เล่าว่า “หนูอยากได้ทุนการศึกษาเพื่อจะได้เอาเงินไปซ่อมเครื่องช่วยฟังที่ชำรุดเพื่อจะได้เรียนหนังสือให้ทันเพื่อน ๆ และเป็นค่าใช้จ่ายไปโรงพยาบาลค่ะ” 

เด็กชายมูฮัมหมัดฟาอีฟ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านปาลอบาต๊ะ จังหวัดนราธิวาส ที่ต้องการทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนกำพร้าใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่กับปู่ย่าเล่าว่า “พ่อของผมถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นอาสาสมัครในพื้นที่ ส่วนแม่ก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่บ้านผมครอบครัวปู่ย่ายากจน มีอาชีพรับจ้างและต้องเลี้ยงดูลูกหลานหลายคน วันไหนที่ปู่ย่าไม่ได้ทำงานครอบครัวเราก็ไม่มีเงิน บางวันผมก็ไม่ได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนและต้องอาศัยติดรถเพื่อนบ้านไปโรงเรียน ผมอยากได้ทุนการศึกษาเพื่อช่วยผ่อนแรงปู่กับย่า ผมสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ และโตขึ้นผมอยากอาสาสมัครปกป้องประเทศชาติครับ”

สำหรับมูลนิธิ EDF เป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255 ของประเทศไทย ดำเนินงานช่วยเหลือนักเรียนที่ยากไร้ให้ได้รับการศึกษา รวมทั้งร่วมกับพันธมิตรองค์กรต่าง ๆ ดำเนินโครงการด้านซีเอสอาร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 จนเป็นที่ยอมรับจากสาธารณชนและได้รับรางวัล อาทิ รางวัลยอดเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศไทย ประเภทองค์กรขนาดใหญ่จากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์  สถาบันคีนันแห่งเอเชีย  และ เดอะ รีซอร์ส อัลลิอันซ์ รางวัลประกาศนียบัตรองค์กรสาธารณกุศลระดับ  5 ดาว จากการดำเนินงานและบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพทางการเงิน และมีความโปร่งใส จากสมาคมกิฟวิ่ง แบค และประกาศนียบัตรรับรอง CAF International Vetted Organization จาก CAF International ที่มอบให้องค์กรสาธารณกุศลทั่วโลกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินงานครอบคลุมหลักธรรมาภิบาล จดทะเบียนถูกต้อง รายงานการเงินประจำปีมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งเงินบริจาคและเงินสนับสนุนที่ส่งมอบให้มูลนิธิได้รับการนำไปใช้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณกุศลอย่างแท้จริง เป็นต้น

ทั้งนี้ผู้ที่ร่วมสนับสนุนมอบโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนยากไร้สามารถติดต่อขอใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย หรือหากต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการทุนการศึกษา หรือร่วมทำโครงการซีเอสอาร์สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิ โทรศัพท์ 02 579 9209-11 (วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น.) อีเมล public@edfthai.org หรือ LINE @edfthai