In News

นายกฯเดินสายต่อลงพื้นที่เมืองกาญจน์ ตรวจน้ำท่วมขัง/ดูอุตฯโคนมบ้านพุประดู่



กรุงเทพฯ-   นายกฯ รับฟังรายงานความก้าวหน้าอุตสาหกรรมโคนม จ.กาญจนบุรี ณ ฟาร์มโคนมบ้านพุประดู่ หนุนพัฒนาฟาร์มโคนมเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดและติดตามประเด็นปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่เทศบาลกาญจนบุรี ย้ำจัดลำดับความสำคัญดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด ใช้จ่ายงบประมาณอย่างเหมาะสม

วันนี้ (11 พ.ค. 67) เวลา 10.00 น. ณ ฟาร์มโคนมบ้านพุประดู่ (mMilk dairy farm) ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดคุยและรับฟังข้อมูลพื้นฐานด้านปศุสัตว์โคนมจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะเข้าร่วมด้วย 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เมื่อเดินทางถึงฟาร์มโคนมบ้านพุประดู่ นายกฯ ได้ป้อนนมลูกวัว ก่อนรับฟังข้อมูลพื้นฐานด้านปศุสัตว์โคนมจังหวัดกาญจนบุรี พบว่าจังหวัดกาญจนบุรีมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม จำนวน 705 ราย โคนม จำนวน 23,393 ตัว โคกำลังรีดนม จำนวน 10,316 ตัว กระจายตัวในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอท่าม่วง อำเภอท่ามะกา อำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยมีฟาร์มที่ได้รับการรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มโคนม (GAP) จำนวน 583 แห่ง มีศูนย์รวบรวมน้ำนมและโรงแปรรูป โดยแบ่งเป็นศูนย์รวบรวมน้ำนม จำนวน 9 ศูนย์ โรงงานแปรรูป จำนวน 2 โรงงานฟาร์ม จำนวน 1 ฟาร์ม

โอกาสนี้ นายกฯ ได้สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในประเด็นปัญหาการเลี้ยงโคนม โดยเฉพาะอุณหภูมิของอากาศที่สูงขึ้น โดยเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์จังหวัดได้อธิบายว่า สภาพอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อความเครียดของโคนม (heat stress) ทำให้โคนมมีปริมาณน้ำนมน้อยกว่าปกติ รวมทั้งปัญหาต้นทุนราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ นายกฯ ได้แนะนำให้มีการปรับเปลี่ยนโรงเลี้ยงโคนมเพื่อช่วยในเรื่องการระบายอากาศร้อน มุ่งเน้นการตลาดให้ดี ทำให้ครบวงจร พร้อมนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดได้ 

ก่อนเดินทางกลับ นายกฯ ได้ลองชิมกาแฟขี้ชะมด ผลิตภัณฑ์ของดีของจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกล่าวว่า อร่อย และเคยได้กินที่ห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมหนุนให้ผู้ประกอบการทำกาแฟขี้ชะมดเชิงพาณิชย์ด้วย

นายกฯติดตามประเด็นปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เทศบาลกาญจนบุรี

เวลา 09.30 น. ณ แก้มลิงตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามประเด็นปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากในพื้นที่เทศบาล โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะ ร่วมติดตาม 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ รับทราบการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนตามผังเมืองรวมกาญจนบุรี อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จากกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยการดำเนินการแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งบประมาณปี พ.ศ. 2567 องค์ประกอบงานเกี่ยวกับระบบระบายน้ำบ้านหัวนาล่าง 2) ระยะที่ 2 งบประมาณปี พ.ศ. 2568 องค์ประกอบงานเกี่ยวกับงานก่อสร้างระบบระบายน้ำบริเวณโค้งทางรถไฟ และ ระยะที่ 3 งบประมาณ ปี พ.ศ. 2569 องค์ประกอบงานเกี่ยวกับระบบระบายน้ำบ้านเขาใหญ่-บ้านพุรางนิมิตร ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณถนนพัฒนากาญจน์และถนนแสงชูโตบริเวณ อบจ. พร้อมทั้งรับทราบถึงความจำเป็นในการดำเนินโครงการระบบสูบน้ำทุ่งท่าล้อ เพื่อผันน้ำบางส่วนจากห้วยน้ำใสไประบายลงแม่น้ำแม่กลองโดยวิธีการสูบน้ำ ทั้งนี้ เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะระบายผ่านห้วยนาคราชและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในทุ่งท่าล้อ รวมถึงรับทราบแผนการพัฒนาพื้นที่บริเวณย่านสถานีกาญจนบุรีจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งการพัฒนาเป็น 3 โซน คือ 1) พื้นที่ตลาดกลางค้าปลีกค้าส่ง 2)พื้นที่ที่อยู่อาศัยระยะยาว 3) พื้นที่สวนสาธารณะ

“นายกฯ ได้สอบถามสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นจนนำมาสู่การดำเนินโครงการนี้ รวมถึงสอบถามการใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินโครงการ พร้อมย้ำขอให้จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด เร่งทำให้แล้วเสร็จ รวมถึงกำชับกรมโยธาธิการและผังเมือง และการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้ใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว