Authority & Harm
สลด!ลูกทรพีเมายาบ้ามีดฟันคอพ่อแม่ดับ
อุดรธานี-สลด!หนุ่มอุดรหลอนยาบ้ากลัวพ่อแม่จะฆ่าควาย ใช้มีดพร้าฟันคอหวิดขาดดับอนาถทั้งคู่ ขุดหลุมเตรียมฝังอำพรางศพ
วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 08.00 น. พ.ต.ต.กิตต์ทัพพ์ อาชีวะนันท์ สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุ มีลูกชายคลั่ง และหลอนยาบ้า ก่อเหตุใช้อาวุธมีดพร้าฟันคอพ่อและแม่ เสียชีวิตทั้งคู่ อยู่ภายในโรงเก็บหน่อไม้หลังบ้านเลขที่ 14 ม.3 บ.เหล่ากล้วย ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี ผู้ก่อเหตุนั่งรอมอบตัวพร้อมกับอาวุธมีดพร้ายาวประมาณ 60 ซ.ม.ที่ใช้ก่อเหตุ อยู่บริเวณหน้าบ้านด้วยอาการเมายาบ้าพูดจาวกวน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ
จากนั้นนายสุชาติ ทอนมณี นภ.กุมภวาปี , พ.ต.อ.พงษ์พันธุ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.วัฒนา มายุรส รอง ผกก.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ต.สุขสันต์ สืบสหการ สว.สส.สภ.กุมภวาปี ร.ต.อ.บัญชา ศรีอินทร์ รอง สวป.สภ.กุมภวาปี นำกำลังตำรวจป้องกันและปราบปราม ตำรวจสืบสวน แพทย์เวร รพ.กุมภวาปี และอาสากู้ภัยมูลนิธิประชาพัฒนาธรรมกุมภวาปี รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเมื่อก่อนเป็นโรงเก็บหน่อไม้ที่ผู้ตายใช้เป็นที่พักอาศัย อยู่บริเวณหลังบ้านชั้นเดียว ในเนื้อที่ราว 2 ไร่ มีชาวบ้านและญาติพี่น้องผู้ก่อเหตุและผู้ตาย มายืนมุงดูกันจำนวนมาก ภายในห้องนอน พบศพนายพิสิฐ บุญโยรัตน์ อายุ 73 ปี และนางละออง บุญโยรัตน์ อายุ 67 ปี สามีภรรยา นอคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ข้างที่นอนใกล้กับประตูทางเข้า สภาพศพลำคอด้านหลังถูกมีดพร้าฟัน จำนวนหลายครั้งจนคอเกือบขาดทั้ง 2 คน เลือดไหลนองเต็มพื้นส่งกลิ่นเหม็นคาวไปทั่วบริเวณ
พบร่องรอยการต่อสู้จนมุ้งหมอนที่นอนและข้าวของกระจัดกระจาย ผู้ตายเสียชีวิตมาประมาณ 12 ชั่วโมง ส่วนคนก่อเหตุไม่ใช่ใครอื่นคือ นายปิยะพงษ์ บุญโยรัตน์ อายุ 41 ปี ลูกชายคนสุดท้องของผู้ตาย และเป็นลูกชายคนเดียวจากพี่น้องร่วมท้องเดียวกันรวม 4 คน ตรวจสอบบริเวณข้างบ้านที่เกิดเหตุพบร่องรอยการขุดหลุมขนาดใหญ่ 2 หลุม ที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นคนขุดหลุมไว้ฝังพ่อกับแม่ จะอำพรางศพ หลังสำนึกผิดในสิ่งที่ตนกระทำด้วยความโมโหขาดสติเนื่องจากหลอนยาบ้า และนั่งรอมอบตัวกับตำรวจ
จากการสอบสวนนางคำบง บรรจงรัตน์ อายุ 48 ปี และนางอนงค์ ใจมั่น อายุ 50 ปี ลูกสาวคนโตและคนที่สองผู้เสียชีวิต และเป็นพี่สาวของคนร้าย ให้การว่า น้องชายติดยาบ้ามานานเกือบ 3 ปี ที่ผ่านมาอาการไม่หนักถึงขั้นนี้ แต่มาระยะหลังน้องชายชอบจูงควายที่แม่ซื้อมาให้เลี้ยง มักจะพูดจาคนเดียว บางวันก็เอะอะโวยวาย ตนและพี่สาวคนโตกลัวจึงย้ายไปอยู่ที่สวน และบอกพ่อกับแม่ย้ายบ้านไปอยู่ด้วยกัน แต่พ่อกับแม่ไม่ยอมพร้อมกับยกบ้านของท่านให้น้องชายอยู่คนเดียว ส่วนพ่อแม่ก็มาใช้โรงเก็บหน่อไม้ที่หลังบ้านเป็นที่อาศัยหลับนอน กระทั่งมาช่วงเช้าวันนี้ไม่เห็นพ่อและแม่ออกมาจากบ้าน จึงได้โทรหาก็ไม่รับสาย จึงให้หลานชายมาดูพบว่าน้องชายฆ่าพ่อแม่เสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในบ้านแล้ว ซึ่งขณะนั้นน้องชายยังอยู่ในอาการคล้ายคนเมายาบ้าขนาดสติ หลังจากฆ่าพ่อและแม่แล้ว ยังมานั่งหัวเราะถือมีดพร้าอยู่หน้าบ้าน และไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบและจับกุมตัวน้องชายเอาไว้
ส่วนเรื่องที่น้องชายอ้างว่าพ่อกับแม่จะใช้ปืนและมีดฆ่าควายให้ตายนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะพ่อกับแม่ซื้อควายเพศเมียมาให้น้องชายเลี้ยง ก็เพื่อจะให้น้องมีทรัพย์สินเก็บไว้ในอนาคตข้างหน้า เพราะควายจะตกลูกทุกปี และถือว่าเป็นอาชีพสุจริตอย่างหนึ่ง หลังจากน้องชายถูกไล่ออกจากงานเพราะติดเสพยาบ้า และทุกวันนี้น้องชายก็อาศัยกินอยู่กับพ่อและแม่ ไม่มีเงินใช้ท่านก็ให้ เพราะท่านรักน้องชายมาก เพราะเป็นลูกชายคนเดียวและเป็นคนสุดท้องด้วย ขณะเกิดเหตุไม่มีใครได้ยินเสียง เนื่องจากบริเวณบ้านมีเนื้อที่กว้าง และพวกตนก็ย้ายไปอยู่บ้านสวนและบ้านญาติ แต่ก็พยายามติดต่อทางโทรศัพท์บอกให้พ่อแม่ย้ายไปอยู่กับพวกตน แต่พ่อแม่ไม่ยอมไปอยู่ด้วย โดยอ้างว่าลูกชายคงไม่กล้าทำอะไรผู้เป็นพ่อและแม่ และแล้วก็มาเกิดเหตุที่พวกตนกลัวจะเกิดขึ้นจนได้ ทั้งนี้เป็นเพราะยาเสพติด
ด้าน นายกิตติ นาทันตอง อายุ 56 ปี ผญบ.เหล่ากล้วย เปิดเผยว่า ปกติผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยดี แต่ระยะหลังมาติดเสพยาบ้า และเมื่อเมายาบ้าก็จะมีอาการหลอน เอะอะโวยวานเป็นประจำ และทุกครั้งตนและตำรวจ ก็มาว่ากล่าวตักเตือน ถึงจะยอมสงบสติอารมณ์ทุกครั้ง กระทั่งช่วงค่ำวานนี้ ผู้ก่อเหตุได้จูงควายไปบอกกับตนให้เป็นพยานว่าควายตัวนี้เป็นของตนเอง ไม่ใช่ของพ่อแม่ เพราะตนเป็นคนเลี้ยงดูแลมัน ก่อนจะจูงควายกลับมาบ้าน กระทั่งตอนเช้าก็ได้รับแจ้ง ผู้ก่อเหตุฆ่าบุพการีตายทั้ง 2 คน
ต่อมา พล.ต.ต.พิษณุ.อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังตำรวจสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี เดินทางมาสอบสวนปากคำคนร้ายและทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ เริ่มจากการใช้เท้าถีบพังประตู 3 ครั้ง เข้าไปใช้มีดพร้าฟันคอแม่และพ่อจนเสียเสียชีวิต ขณะพ่อและแม่ปิดไฟนอนหลับอยู่ภายในห้องนอน เวลาประมาณ 21.00 น. คืนวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และชี้จุดขุดหลุมเพื่อเตรียมตัวฝังพ่อและแม่ ก่อนนำตัวไปกราบขอขมาศพบริเวณประตูหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ด้วยอาการคล้ายกับคนเมายาบ้าขาดสติ ที่แรกเข้าข้างตัวเอง และไม่รู้ถูกรู้ผิดในสิ่งที่กระทำต่อบุพการี แต่ก็ให้การสำนึกและยอมชดใช้กรรมในสิ่งที่กระทำลงไป
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จาการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนใช้มีดพร้าฟันคอแม่และพ่อหลายครั้งจนเสียชีวิตนอนจมกองเลือด ส่วนสาเหตุที่ลงมือฆ่าบุพการี โดยอ้างว่า พ่อและแม่ไม่ให้นำควายที่พ่อและแม่ซื้อให้ เลี้ยงมา 2 ปี และขณะนี้กำลังตั้งท้อง เนื่องจากคนร้ายไม่มีงานทำ และติดยาเสพยาบ้า โดยลูกชายจะนำควายไปติดต่อขาย ซึ่งพ่อกับแม่ไม่ให้ขาย และบอกหากนำไปขายจะฆ่าควายให้ตาย กระทั่งช่วงหัวค่ำวานนี้ คนร้ายจึงจูงควายไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่า พ่อกับแม่จะฆ่าควายของตนเอง จึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน และนำควายไปฝากไว้ที่คอกกับเพื่อนบ้าน ก่อนกลับมาก่อเหตุใช้อาวุธมีดพร้าฟันคอแม่พ่อจนเสียชีวิต ในเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า” ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และฆ่าบุพการี” ส่วนเรื่องยาเสพติดจะต้องรอผลตรวจสอบยืนยันอีกครั้ง
กฤษดา จันทร์ดวง ผุ้สื่อข่าว จ.อุดรธานี