Health & Beauty

THG มองครึ่งปีหลังสดใสชี้ธุรกิจใหม่ใน ไทยและเวียดนามทยอยบุ๊กรายได้Q3



กรุงเทพฯ-THG เปิดผลงานโค้งแรก รายได้ 2,337 ล้านบาท กำไร 22 ล้านบาท เผย รพ.ส่วนภูมิภาคยังบูม ผู้ป่วยข้ามแดนเข้าใช้บริการแน่น มั่นใจครึ่งปีหลังยังสดใส เตรียมทยอยบุ๊กรายได้ธุรกิจใหม่ ทั้งในไทยและเวียดนาม ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป เร่งขยายฐานลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ มั่นใจสิ้นปีโตตามเป้า

นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด “ดูแลคุณในทุกช่วงชีวิต” (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2567 ของ THG มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,337 ล้านบาท กำไรสำหรับงวดอยู่ที่ 22 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิสำหรับบริษัทใหญ่อยู่ที่ 6.4 ล้านบาท

“ผลประกอบการไตรมาสนี้ แม้รายได้และกำไรชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566  ส่วนหนึ่งเกิดจากการลงทุนสนับสนุนธุรกิจในอนาคตหลายโครงการทั้งแบบลงทุนเองและร่วมทุนกับพันธมิตร โดยจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ กำไรตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 และ 3 เป็นต้นไป อาทิ ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและความงาม Jin Wellness by THG สาขาสยามพารากอน ที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ ทั้งอยู่ระหว่างเร่งขยายพื้นที่ให้บริการในโรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา และโรงพยาบาลส่วนภูมิภาคหลายแห่ง ก็คาดว่าช่วงไตรมาส 2 -3 จะทยอยเปิดพื้นที่ให้บริการเพิ่มเติมได้ สำหรับ ศูนย์บริการตรวจสุขภาพเชิงลึก BeWell Health and Wellness Clinic ณ โฮจิมินห์ เวียดนาม ซึ่งก่อสร้างคืบหน้ามากแล้วก็เตรียมเปิดให้บริการต้นไตรมาส 3 ปีนี้เช่นกัน ขณะเดียวกัน บริษัทฯ กำลังทำแผนปรับโครงสร้างเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และเพิ่มประสิทธิการดำเนินงาน ควบคู่กับการเตรียมแผนการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจให้เติบโตและมีผลประกอบการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายแพทย์ธนาธิป กล่าว

สำหรับ ภาพรวมการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 ของ THG ในส่วนธุรกิจโรงพยาบาลยังคงเติบโตคืบหน้าด้วยดี โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากโรงพยาบาลในกลุ่มทุติยภูมิและโรงพยาบาลส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะพื้นที่เชื่อมต่อชายแดนที่มีกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม เข้ามารับบริการมากขึ้น เช่นเดียวกับ บริษัท ธนบุรี เสริมรัฐ จำกัด ได้มีการขยายความร่วมมือดำเนินงานศูนย์หัวใจร่วมกับโรงพยาบาลภาครัฐเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ นครศรีธรรมราช ส่วน โรงพยาบาล Ar Yu International ในเมียนมา ยังคงทำกำไรต่อเนื่องและมีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแม้มีเหตุการณ์ความไม่สงบ หาก THG ก็ได้มีการติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดเพื่อสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้เท่าทัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากรายได้ของคนไข้จากกลุ่มตะวันออกกลางและจีนยังไม่เป็นไปตามเป้า เช่นเดียวกับยอดโอนห้องของโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ นอกจากนี้ยังมีค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในเทคโนโลยีและการขยายพื้นที่ให้บริการในหลายโรงพยาบาล รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยในตลาดจึงส่งผลให้รายได้และกำไรลดลงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

สำหรับแนวโน้มในช่วงปี 2567 THG มุ่งเน้นที่จะพัฒนาการให้บริการสุขภาพแบบใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพด้านบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้ารับบริการที่เปลี่ยนแปลงไป  เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพในระยะยาวอย่างยั่งยืนและตอบสนองความต้องการในการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการบริการสังคมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท