Think In Truth
ดับฝัน...! 'สายเขียว'ปิดฉาก'เสรีกัญชา' พืชมหัศจรรย์ชาวโลก โดย:ฅนข่าว2499
ในที่สุดการใช้กัญชาก็กลายเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติอีกรอบหนึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน”ขอให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขประกาศกระทรวง ดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น
ถ้าว่ากันตามข้อเท็จจริงแล้ว กัญชา ถือได้ว่าเป็นพืชมหัศจรรย์ของคนทั้งโลกอีกสายพันธุ์หนึ่งก็ว่าได้ ตามบันทึกทางประวัติ ศาสตร์ระบุมีการนำมาใช้รักษาสารพัดโรคมาแล้วไม่น้อยกว่า 5,000 ปี
สำหรับประเทศไทยก็เคยใช้กัญชารักษาโรคมามากกว่า 360 ปี แต่ก็ทำกันแบบไม่เปิดเผยเพราะถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายและเพิ่งจะคลายล็อคให้สามารถปลูกเพื่อใช้ทางการแพทย์ได้เมื่อไม่นานมานี้ตามตำราแพทย์แผนโบราณได้มีการจารึกไว้นับร้อยตำรา แต่ที่ได้ทำการวิจัยและสามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้ตามเป้าหมายมีมากกว่า 10 ตำรา ซึ่งจะส่งต่อวงการแพทย์ไทยในการรักษาโรคร้ายที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ “โรคมะเร็ง” หรือแม้แต่โรคระบาดในอนาคตอีกด้วย
กัญชาพืชมหัศจรรย์ของชาวโลก
ประเทศอังกฤษ ก็เพิ่งรู้จักประโยชน์ของกัญชารักษาโรคหลังจากไปยึดครองประเทศอินเดียมาเป็นอาณานิคม เมื่อประมาณ 200 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็แพร่ขยายไปยังสหรัฐอเมริกาจนกลายเป็นอาชีพหลักของ จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯโดยการปลูกกัญชาขายจนร่ำรวยแบบชนิดเอาไม่อยู่มาแล้ว
กล่าวว่า ยาที่มีจำหน่ายในช่วงศตวรรษที่ 18 จำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยาที่มีอยู่ล้วนเป็นส่วนประกอบจากกัญชาโดยบรรจุอยู่ในเภสัชตำรับทั้งอังกฤษและสหรัฐ อเมริกา (https://bit.ly/2eALooJ)
ต่อมาเมื่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมีเติบโตและมีการผลิตยาจากสารเคมี ได้ถูกกระบวนการทำลายคู่แข่งที่เป็นยาจากธรรมชาติ โดยการใส่ร้ายป้ายสีว่ากัญชาคือยาเสพติด ใช้แล้วเกิดอาการทางจิต คลั่ง จนถึงก่ออาชญากรรม ทั้งๆที่ผู้คนใช้รักษาโรคอย่างปลอดภัยมาเป็นร้อยปี ไม่มีฤทธิ์เสพติด
น้ำมันที่สกัดจากกัญชาสำหรับใช้ทางการแพทย์ของไทย
“... ในความเป็นจริงกัญชาสามารถใช้บำบัดยาเสพติดตัวอื่นๆได้ เช่น เฮโรอีน บุหรี่ สุรา ยาบ้า เมื่อประชาชนหลงเชื่อก็ออกกฎหมายปราบปรามจับกุมผู้ใช้ผู้จำหน่าย จนในที่สุดถูกถอนกัญชาออกจากเภสัชตำรับ ทำให้การใช้กัญชารักษาโรคหายไปจากสังคม(https://bit.ly/1TeU57q) ...”
ในยุคการติดต่อสื่อสารแบบไร้พรหมแดน(อินเตอร์เน็ต) ทำให้มวลมนุษย์ชาติได้รับองค์ความรู้และภูมิปัญญาในอดีตกลับมาฟื้นคืนชีพได้แพร่กระจายอย่างกว้างขวาง เกิดกระบวนการประชาชนเรียกร้องให้แก้กฎหมายอนุญาตให้นำกัญชากลับมาใช้รักษาโรคได้ ทั้งอังกฤษและสหรัฐจึงเริ่มมีการผ่อนคลายลดความเป็นอาชญากรรมเรื่องการใช้กัญชา อนุญาตให้มีการนำมาใช้รักษาโรคได้อีกครั้งเมื่อเจ็บป่วยก็สามารถเข้าถึงกัญชาเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาที่สำคัญได้ อย่างเช่น
ยาสกัดจากกัญชาโดรนาบินอล (dronabinolชื่อการค้า คือ มารินอล (Marinol ) เป็นสารสังเคราะห์ของ tetrahydrocannabinol (THC) รูปแบบยาเม็ด ใช้แก้อาเจียน กระตุ้นความอยากอาหาร
ยานาบิกซีมอล (Nabiximol) ชื่อการค้าคือ ซาติเวกซ์ (Sativex) ใช้แบบสเปรย์พ่นเข้าปาก ใต้ลิ้น แทนการสูบ ใช้ลดการปวดประสาท รักษาอาการนอนไม่หลับ และรักษาอาการปวดเส้นประสาทอย่างรุนแรง บริษัทไบเออร์ เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการวางตลาดในสหราชอาณาจักร (https://bit.ly/2wDUGs4)
กัญชาที่ทำเป็นบุหรี่ขายเสรีในต่างประเทศ
สำหรับประเทศไทยที่ผ่านมาก็มีสภาพภาพไม่ต่างไปจากประเทศอื่น คือ ไม่สามารถเข้าถึงการนำกัญชามาใช้รักษาโรคได้และมีความพยายามเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายยาเสพติดจากหลายฝ่ายมายาว นานแต่ก็ไม่บรรลุผลเพราะมีข้อถกเถียงและขั้นตอนทางกฎหมายมาก (https://bit.ly/2eZRXBH และ https://bit.ly/2w3hBLk)
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็น “มายาคติ” ที่บิดเบือนโดยกลุ่มผลประโยชน์ที่มีมานับร้อยปียังครอบงำฝังรากลึกในความคิดของคนไทยจำนวนมากแต่ในที่สุดด้วยสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป ประกอบกับแรงผลักดันอันเข้มแข็งของคนในวงการกัญชาไทยจึงทำให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ต้องเปิดคลายล็อกให้สามารถปลูกกัญชาและนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ได้
แต่ด้วยเหตุผลสำคัญเกี่ยวกับการระบาดของยาเสพติดโยเฉพาะยาบ้าตามที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้จึงจำต้องจำกัดการใช้กัญชาตามไปด้วย ส่วนจะมีผลลงเอยอย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไป.