EDU Research & ESG

บริติชเคานซิลโชว์เคสความร่วมมือก.อว. ชู2มหาวิทยาลัยไทยสานต่อไทย-UK 



กรุงเทพฯ-เมื่อสถานการณ์ของโลกในมิติต่างๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ภูมิทัศน์ทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัยไทยต้องเผชิญกับความท้าทาย และต้องปรับเปลี่ยนบทบาทให้เชื่อมโยงและเท่าทันต่อความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในโลกยุคใหม่ด้วยการยกระดับการเตรียมความพร้อมให้คนในระบบการศึกษามีคุณภาพและมีสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต โดยเฉพาะการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อนำมาใช้ผลิตบัณฑิตสาขาวิชาต่างๆ พร้อมเสริมศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษาไทยในการแข่งขันในระดับโลก สู่การขับเคลื่อนพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

เพื่อสนับสนุนนโยบายของประเทศในการพัฒนาการศึกษาในระดับอุดมศึกษาให้ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล บริติช เคานซิล จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ริเริ่ม โครงการความร่วมมือระดับอุดมศึกษาระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร หรือ Thai-UK World-class University Consortium เพื่อเดินหน้าสร้างความร่วมมือระหว่างสหราชอาณาจักรและประเทศไทย ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายในระดับนานาชาติ เปิดโอกาสให้ตัวแทนจากสถาบันอุดมศึกษาของสหราชอาณาจักรได้มีส่วนร่วมแบ่งปันความรู้ แลกเปลี่ยนทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำในประเทศไทย โดยวันนี้ บริติช เคานซิล จะพาไปสำรวจตัวอย่างความสำเร็จจาก 2 โครงการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยไทยและ มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการพลิกโฉมสถาบันอุดมศึกษาให้ก้าวทันโลกอนาคต

·มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – ศูนย์วิจัยผู้สูงอายุและโรคเรื้อรังแห่งสหราชอาณาจักร

โครงการความร่วมมือในการพัฒนางานวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อรังระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย รศ.ดร.นพ. ชัยสิริ อังกุระวรานนท์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยทีม Global Health Research Center จากประเทศไทย ร่วมกับ The London School of Hygiene & Tropical Medicine, University of Oxford) และ University College of London

รศ.ดร.นพ. ชัยสิริ บอกเล่าถึงความสำเร็จจากความร่วมมือในครั้งนี้ว่า การทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรจากสหราชอาณาจักร มีส่วนช่วยทำให้สถาบันเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ส่งเสริมการสร้างศักยภาพและพัฒนาทักษะของสถาบัน และยังช่วยเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนางานวิจัยร่วมกันในอนาคตอย่างยั่งยืน ช่วยให้ศูนย์วิจัยฯ ได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยทั้งจากแหล่งทุนในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากร ทั้งระดับอาจารย์ และนักวิจัย โดยได้ร่วมกันพัฒนารููููปแบบความร่วมมือด้านการวิจัย ซึ่งได้รับทุนสนับสนุน จาก National Institute for Health and Care Research (NIHR) เป็นจำนวนถึง 2.2 ล้านปอนด์ หรือราว 100 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี และคาดว่าความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ จะสามารถขยายผลอย่างยั่งยืนจากระดับชุมชนไปสู่ระดับประเทศ และนานาชาติในที่สุด นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมร่วมกันอีกมากมาย อาทิ กิจกรรม Joint workshop between CMU-UK Institution(s) and Microsoft Research Lab India เพื่อศึกษาการดำเนินงานของ Microsoft Research Lab ที่ประเทศอินเดีย, กิจกรรมประชุมประจำเดือนกับพันธมิตรจากสหราชอาณาจักรเพื่อแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ความสนใจร่วมกัน และยังได้ร่วมกันพัฒนาสื่อการเรียนรู้ เพื่อขยายผลวิจัยไปสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังระดับชุมชนต่อไป

“การสนับสนุนและการส่งเสริมความร่วมมือที่ต่อเนื่องจากทั้ง กระทรวง อว. และบริติช เคานซิล ประเทศไทย ตลอดจนมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทยและสหราชอาณาจักร ไม่เพียงนำมาซึ่งการพัฒนาผลงานทางวิชาการและวิจัยให้แก่ทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ความร่วมมือดังกล่าว ยังเป็นอีกกลไกสำคัญที่จะช่วยเปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัยไทยได้โชว์ศักยภาพและความเป็นเลิศในเวทีระดับโลก อันนำไปสู่การสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งและการขยายผลงานวิจัยอย่างยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย”

·สิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง ขับเคลื่อนความยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวร – University of Lincoln

รศ.ดร.วิติยา ปิดตังนาโพธิ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้ดำเนินความร่วมมือกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง มหาวิทยาลัยลินคอล์น จัดทำโครงการ Designing with Water towards Sustainable Development and Regeneration ได้กล่าวถึงประโยชน์ในการเข้าร่วมโครงการ ฯ ว่าได้ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านวิชาการและการวิจัยระหว่างทั้งสองสถาบัน และสนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบสหวิทยาการ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและความเชี่ยวชาญที่หลากหลายมาสู่การวิจัยขั้นสูง ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพและทักษะของทั้งคณาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาที่มีส่วนร่วม โดยเฉพาะการพัฒนาความรู้ใหม่และโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมด้านการออกแบบการจัดการน้ำ นำไปสู่การพัฒนาและการฟื้นฟูที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงมีวัตถุประสงค์เพื่อการขยายผลงานวิจัยในระดับชุมชนและประเทศ แต่ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการฯ ที่ต้องการให้สถาบันอุดมศึกษาได้พัฒนาความเป็นเลิศด้านการวิจัยในประเด็นสำคัญอันเป็นความท้าทายระดับโลกอีกด้วย

ทั้งนี้ ในปี 2567 มีจำนวนมหาวิทยาลัยในประเทศไทยเข้าร่วมโครงการความร่วมมือระดับอุดมศึกษาระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร ทั้งสิ้น 7 มหาวิทยาลัย ใน 15 สาขาวิชา ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  และมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยบริติช เคานซิล และกระทรวง อว.ยังคงเดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร เพื่อต่อยอดความสำเร็จในการยกระดับศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษาไทยให้มุ่งสู่ระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง

สามารถติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมตลอดทั้งปี ของบริติช เคานซิล ได้ที่เว็บไซต์ www.britishcouncil.or.th และ เฟสบุ๊คแฟนเพจ British Council Thailand หรือทางแอปพลิเคชั่นไลน์ @studyukthailand