In Global
บทวิเคราะห์: จีนให้ความสำคัญกับอุตฯ การท่องเที่ยวมากสุดในประวัติศาสตร์
วันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาจีนได้จัด “การประชุมการพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ” ที่กรุงปักกิ่ง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดการประชุมสำคัญในหัวข้อการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากเป็นประวัติการณ์
ที่ประชุมครั้งนี้ได้ถ่ายทอดคำแนะนำที่สำคัญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเกี่ยวกับงานด้านการท่องเที่ยว โดยนายสี จิ้นผิง ได้เสนอภารกิจ 5 ประการของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ “บริการเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างบ้านที่ให้ความรู้สึกว่าทุกคนเป็นส่วนหนึ่ง แสดงภาพลักษณ์ของจีน และเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อารยธรรม” และเน้นให้“มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงระบบการท่องเที่ยวสมัยใหม่ เร่งสร้างประเทศให้มีความเข้มแข็งด้านการท่องเที่ยว” และ “ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพสูงอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง”
นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนแห่งชาติครั้งที่ 18 เป็นต้นมา จีนประสบความสำเร็จในการเดินบนหนทางการพัฒนาการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ของจีน ระหว่างปี 2012-2021 รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศเติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปีประมาณร้อยละ 10.6 ในช่วง “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 13” สัดส่วนมูลค่าเพิ่มของการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้รักษาแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวมีส่วนสนับสนุนโดยรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศมากกว่าร้อยละ 10
การเดินทางท่องเที่ยวได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของชาวจีน ปัจจุบัน จีนมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับ A 15,700 แห่ง ในจำนวนนี้รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A 339 แห่ง และมีแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศระดับประเทศและระดับมณฑลรวม 854 แห่ง ในปี 2023 สถานที่ท่องเที่ยวระดับ A ทั่วประเทศมีการจ้างงานโดยตรงเกิน 1.6 ล้านคน และหนุนให้มีการจ้างงานรวมกว่า 10 ล้านคน
ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ นักท่องเที่ยวในประเทศของจีนใช้จ่ายด้านการเดินทางท่องเที่ยวรวม 1.52 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีบทบาทเด่นชัดในการส่งเสริมการบริโภคและกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ โดยมีจำนวนคนที่เข้าออกประเทศจีนมากกว่า 141 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 117.8 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจุบัน จีนได้ก่อรูปขึ้นเป็นตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก และกลายเป็นแหล่งที่มาของนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดและจุดหมายปลายทางที่สำคัญของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้หลอมรวมเข้ากับอุตสาหกรรมสาขาอื่นๆและได้พัฒนาอย่างสอดประสานกัน ขนาดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้ขยายตัวและมีรูปแบบธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง“นับวันยิ่งกลายเป็นอุตสาหกรรมเสาหลักเกิดใหม่เชิงยุทธศาสตร์มากขึ้นเรื่อยๆ”
ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่าการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยมีลักษณะพิเศษหลายประการ เช่น มีความเชื่อมโยงกันในระดับสูงกับสาขาอุตสาหกรรมอื่นๆ มีพื้นที่การจ้างงานขนาดใหญ่ ใช้ทรัพยากรน้อย ตลอดจนเปิดกว้างและครอบคลุมในระดับสูง เป็นต้น จึงมีบทบาทนำที่เข้มแข็งในลักษณะ “อุตสาหกรรมเดียวเจริญรุ่งเรืองจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของทุกอุตสาหกรรม” การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นเป็นจุดเน้นสำคัญในการตอบสนองความปรารถนาต่อชีวิตที่ดีงามของประชาชนจีนและส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง เป็นสื่อสําคัญในการสืบทอดและส่งเสริมวัฒนธรรมจีน เป็นแรงผลักดันสำคัญในการส่งเสริมการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เป็นพื้นที่สำคัญในการปฏิบัติตามแนวคิดการพัฒนาสีเขียว เป็นพลังใหม่ที่สำคัญในการช่วยพัฒนาชนบทให้เจริญรุ่งเรืองในทุกด้านและส่งเสริมความมั่งคั่งร่วมกัน และเป็นช่องทางที่สำคัญในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับต่างประเทศและยกระดับมานานุภาพ (Soft Power) ทางวัฒนธรรมของประเทศ จึงมีบทบาทเชิงบวกในลักษณะ “เพื่อประชาชน นำความมั่งคั่งสู่ประชาชน เป็นประโยชน์ต่อประชาชน สร้างความผาสุกแก่ประชาชน” ท่ามกลางกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
เป็นที่คาดได้ว่าด้วยความใส่ใจอย่างมากของรัฐบาลจีนและการสนับสนุนอย่างแข็งขันของประชาชนจีน ในอนาคตอันใกล้ประเทศจีนซึ่งมีทรัพยากรการท่องเที่ยวอันอุดมสมบูรณ์ย่อมจะมีเงื่อนไขและความสามารถในการพัฒนาเป็นมหาอํานาจทางการท่องเที่ยวระดับโลกได้อย่างแน่นอน
เขียนโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)