Biz news
ซิตี้แบงก์รุกระบบดิจิทัลเพิ่มบริการลูกค้า
กรุงเทพฯ -ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เดินหน้ากลยุทธ์ด้านการเป็นธนาคารดิจิทัลแบบครบวงจร นำเสนอความก้าวหน้าในการให้บริการด้านดิจิทัล แบงก์กิ้ง บนช่องทาง ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน และซิตี้แบงก์ ออนไลน์ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้มีความเสถียรและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น ด้วยโซลูชันการประมวลผลธุรกรรมแบบเรียลไทม์ (STP) ที่ใช้ได้กับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของซิตี้แบงก์ และการพิสูจน์ตัวตนแบบ Multi-factor Authentication (MFA) หลากหลายรูปแบบ ตลอดจนการเปิดตัวคุณสมบัติใหม่ ๆ ในการใช้งานที่จัดลำดับความสำคัญตามความต้องการของลูกค้า เช่น การเปิดใช้งานบัญชีหรือบัตรเครดิตซิตี้ใหม่พร้อมการลงทะเบียนผู้ใช้บนมือถือเพื่อเข้าถึงซิตี้ โมบายล์ แอปฯ ได้ทันที บริการแบ่งชำระยอดค่าใช้จ่ายรายเดือน การชำระเงินที่สะดวกยิ่งกว่าด้วยพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด รวมถึงรูปแบบบริการดิจิทัลต่าง ๆ ที่ช่วยให้การสมัครบัญชีบัตรเครดิตใบใหม่ที่สามารถสมัครและทราบผลอนุมัติภายในวันเดียว การแลกคะแนนสะสมเพื่อรับคูปองส่วนลด (e-coupon) โดยทันที หรือของรางวัลที่ Citi LINE official account ผ่านเทคโนโลยี API ควบคู่ไปกับการส่งเสริมโปรโมชันออนไลน์ของผลิตภัณฑ์และด้านบริการโดยร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้ง ร้านค้าปลีก เทคโนโลยี ระบบขนส่งสาธารณะ การจัดส่งอาหาร และอีคอมเมิร์ซ ในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ด้านบัตรเครดิตที่ตรงตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยในปี 2564 ธนาคารฯ พบว่าการทำธุรกรรมทางการเงินและใช้บริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลได้รับความนิยมและเติบโต 62% โดยมีผู้ใช้งานธุรกรรมกว่า 1.2 ล้านรายการ
นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เผยว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ได้รับรางวัลธนาคารดิจิทัลแห่งปี 2564 (Best Digital Bank in Thailand 2021) ของ The Asset นิตยสารธุรกิจการเงินชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการได้รับรางวัลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในด้านดิจิทัล แบงก์กิ้งของธนาคารซิตี้แบงก์ ภายใต้แนวคิด “Freedom to do more” ที่พร้อมให้บริการทางการเงินผ่านทางดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ได้ดำเนินกลยุทธ์ด้านการเป็นธนาคารดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านการธนาคารอันยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
นางวีระอนงค์ กล่าวต่อว่า ในปี 2564 ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ดิจิทัลของลูกค้าให้เป็นไปอย่างราบรื่นปลอดภัยและเป็นส่วนตัว โดยได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์การใช้งานบนอุปกรณ์เทคโนโลยีที่มอบความสะดวกและเข้าถึงการธนาคารได้ง่ายในรูปแบบของเว็บไซต์ธนาคาร ซิตี้แบงก์ ออนไลน์ (www.citibank.co.th) และซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน (Citi Mobile® Application) เพื่อตอบโจทย์สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่และความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของลูกค้าด้วยโซลูชันการประมวลผลธุรกรรมแบบเรียลไทม์ (STP) ให้ข้อมูลอัปเดทรวดเร็ว ที่ใช้ได้กับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของซิตี้แบงก์ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานบัญชีบัตรใหม่พร้อมการลงทะเบียนผู้ใช้บนมือถือเพื่อเข้าถึงซิตี้ โมบายล์ แอปฯ ได้ทันที เริ่มต้นค้นหาดีลพิเศษตามไลฟสไตล์หรือสิทธิประโยชน์บัตรฯ ในแอปพลิเคชัน ใช้บัตรเครดิตแบบไร้สัมผัสโดยการสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน แล้วสามารถตรวจสอบธุรกรรมบัตรฯ แบบครบวงจร ซึ่งเข้าถึงใบแจ้งยอดบัญชี/บัตรฯ ได้สูงสุดถึง 7 ปี เปิดรับการแจ้งเตือนธุรกรรมการเงินผ่านแอป อีกทั้ง ซิตี้คัดสรรข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ เฉพาะลูกค้า เพื่อตรงกับความต้องการด้านผลิตภัณฑ์และบริการของทางธนาคารฯ รวมถึงรูปแบบบริการดิจิทัลต่าง ๆ ที่ช่วยให้การสมัครบัญชีบัตรเครดิตใบใหม่ทางออนไลน์ที่สามารถดำเนินการสมัครและทราบผลอนุมัติภายในวันเดียว การแลกคะแนนสะสมเพื่อรับคูปองส่วนลด (e-coupon) โดยทันทีหรือของรางวัลที่ Citi LINE official account ผ่านเทคโนโลยี API หรือ เลือกชำระด้วยคะแนนสะสมสำหรับรายการใช้จ่าย ตามที่ธนาคารนำเสนอ
อีกทั้งธนาคารยังมีการให้บริการสินเชื่อ (Citi Quick Cash) ให้ลูกค้าสามารถขออนุมัติเงินก้อน โดยใช้วงเงินคงเหลือจากบัตรเครดิตซิตี้ หรือบัญชีเรดดี้เครดิตได้ ได้ง่าย ๆ และรวดเร็ว ทั้งยังได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ตลอดจนยังมีบริการแบ่งชำระรายการใช้จ่าย “ซิตี้ เพย์ เลเตอร์” (Citi Pay Later) ช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนการซื้อใด ๆ ให้เป็นแผนการแบ่งชำระรายเดือนที่ยืดหยุ่นได้ หรือบริการแบ่งชำระยอดใช้จ่ายทั้งหมด “ซิตี้ เฟล็กซิบิล” (Citi FlexiBills) และล่าสุดคือบริการ “ซิตี้ เพย์ออล” (Citi PayAll) ให้ลูกค้าสามารถชำระค่าเล่าเรียน หรือค่าเช่าบ้านได้ผ่านบัตรเครดิตซิตี้ หรือบัญชีซิตี้ เรดดี้เครดิต แทนการชำระด้วยเงินสด ควบคู่ไปกับการส่งเสริมโปรโมชันออนไลน์ของผลิตภัณฑ์และด้านบริการโดยร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการชั้นนำทั้ง ร้านค้าปลีก เทคโนโลยี ระบบขนส่งสาธารณะ การจัดส่งอาหาร และอีคอมเมิร์ซ ในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ด้านบัตรเครดิตที่ตรงตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน เอ็มอาร์ที (MRT) และร้านค้าเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น เพื่อมอบประสบการณ์ทางดิจิทัล แบงก์กิ้งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน
นอกจากนี้ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน (Citi Mobile® Application) ยังมีบริการต่าง ๆ มากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าเกี่ยวกับบริการด้านบัตรเครดิต อาทิ การเปิดใช้งานบัตร การตรวจสอบยอดใช้จ่ายต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ การดูยอดค้างชำระ หรือคะแนนสะสม เรียกดูใบแจ้งยอดบัญชีธนาคารฯ หรือใบแจ้งยอดบัตรฯ ได้สูงสุดถึง 7 ปี การระงับบัตรชั่วคราวเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน หรือเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว อาทิ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และที่อยู่จัดส่งเอกสาร รวมถึง การชำระบิลค่าสาธารณูปโภคต่างๆ และการชำระค่าบัตรเครดิตทันทีผ่านพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด ซึ่งบริการต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรายละเอียดบัญชีและจัดการธุรกรรมต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกที่ทุกเวลา
ในขณะที่การทำธุรกรรมธนาคารสำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์ และลูกค้าซิตี้ ไพรออริตี้ มีบริการผู้ดูแลบัญชีที่พร้อมให้บริการคำแนะนำและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ การลงทุนให้กับลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์รวมถึงการจัดประชุมทางวิดิโอ คอลล์ ซิตี้นำเสนอโซลูชันดิจิทัลให้การบริหารความมั่งคั่งสะดวกในทุกโอกาสผ่านทางซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน สามารถทำการซื้อ-ขายกองทุนได้ด้วยตัวเอง การตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพอร์ทการลงทุน การทำธุรกรรมผ่านทางออเธอไรเซชั่น คอร์เนอร์ (Authorization Corner) ฟังก์ชั่นที่ให้ลูกค้าสามารถทำการตรวจสอบยืนยันเอกสารคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ดูเอกสารที่เกี่ยวข้อง และอนุมัติการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่าน OTP นอกจากนี้ซิตี้เพิ่มศักยภาพให้ลูกค้าซิตี้โกลด์ และลูกค้าซิตี้ ไพรออริตี้ โอนเงินได้แบบไร้พรมแดนระหว่างบัญชีธนาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก สามารถเปิดบัญชีสกุลเงินตราต่างประเทศได้สูงสุด 8 สกุลเงิน โดยทันทีภายใต้บริการ “ซิตี้ โกลบอล วอลเลท” (Citibank Global Wallet) เพื่อใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ หรือซื้อสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ โดยสามารถทราบอัตราแลกเปลี่ยนที่แน่นอนในขณะที่ทำการแลกเงิน ที่สำคัญคือไม่มีค่าธรรมเนียมบริการ
ในขณะเดียวกันธนาคารได้ตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องการเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งานที่ต้องผ่านการพิสูจน์ตัวตนแบบ Multi-factor Authentication (MFA) หลากหลายรูปแบบ อาทิ ซิตี้โมบายล์ โทเค็น (Citi Mobile® Token) สร้างรหัสลับส่วนตัว 6 หลัก ทดแทนการใช้รหัสผ่านครั้งเดียวทางเอสเอ็มเอส (SMS OTP) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนทำธุรกรรมการเงินที่สำคัญบนซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน อีกทั้ง มาตรการไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) ระบบไบโอเมตริกซ์เสียงที่ลดเวลาในการตรวจสอบยืนยันตัวตนทางคอร์เซ็นเตอร์โดยเฉลี่ยจาก 45 วินาทีเหลือเพียง 15 วินาที ตลอดจนการควบคุมป้องกันการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (Phishing) ได้แก่ ใบรับรอง SSL จากหน่วยงานออกใบรับรอง (CA) เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าสามารถตรวจสอบภาพได้ว่ากำลังทำธุรกรรมกับเว็บไซต์ธนาคารที่ได้รับการรับรองซึ่งผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยภายนอกอย่างครอบคลุม
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 ธนาคารฯ มีการทำธุรกรรมทางการเงินและใช้บริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลได้รับความนิยมและเติบโต 62% มีผู้ใช้งานธุรกรรมกว่า 1.2 ล้านรายการ โดยมีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการผ่านระบบดิจิทัลจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ 2563 คิดเป็น 15% แบ่งเป็น ซิตี้ โมบาย แอปพลิเคชัน 23% นอกจากนี้ช่องทางดิจิทัลยังกลายเป็นช่องทางที่สำคัญที่ลูกค้าใหม่ใช้ในการสมัครผลิตภัณฑ์ของธนาคาร โดยมีลูกค้าบัตรเครดิตที่สมัครใช้บริการผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึง 16% ในขณะที่ลูกค้าที่เปิดบัญชีเงินฝากหรือเงินลงทุนกับธนาคาร อาทิ ซิตี้โกลด์ และซิตี้ ไพรออริตี้ ผ่านทางออนไลน์มีการเติบโตขึ้นมากเช่นกัน อีกทั้งลูกค้ายังนิยมใช้บริการออนไลน์ “ซิตี้ เพย์ ไลท์” (PayLite) “ซิตี้ เฟล็กซิบิล” (FlexiBills) “ซิตี้ เพย์ เลเตอร์” (Citi Pay Later) และ “ซิตี้ เพย์ออล” (Citi PayAll) พบว่ามีการเติบโต 120% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ใช้งานธุรกรรมดังกล่าวกว่า 35,000 รายการ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของการทำธุรกรรมทางการเงินบนช่องทางดิจิทัลของธนาคารฯ ได้เป็นอย่างดี นางวีระอนงค์ กล่าวทิ้งท้าย