In Thailand
'ป่อเต็กตึ๊ง'แถลงผลดำเนินการปี66ใช้งบ กว่า500ล้านบาทช่วย-รักษา-สร้างชีวิต
กรุงเทพฯ-มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งแถลงผลดำเนินการปี 2566 ใช้งบกว่า 500 ล้านบาท “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”เผย นโยบายเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศความคืบหน้า “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” เตรียมเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้าสักการะเป็นมหามงคลรับเทศกาลตรุษจีนในปี 2568
เมื่อวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2567 : กรุงเทพมหานคร) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง องค์กรสาธารณกุศลเอกชนขนาดใหญ่ บรรเทาทุกข์ บำรุงสุขโดยไม่เลือกชนชั้น วรรณะ และศาสนาอย่างครบวงจรชีวิต มากว่า 114 ปี ภายใต้ปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” จัดแถลงผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2566 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิฯ ซึ่งในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา มูลนิธิฯ เป็นสะพานบุญผู้มีจิตศรัทธาดำเนินงานสาธารณกุศลด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ใช้งบประมาณ 426 ล้านบาท รวมถึงรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) พร้อมเผยภาพองค์ไต้ฮงกงหินหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ได้ประดิษฐานภายในศาลเจ้าฯ แล้วในขณะนี้ โดยมีสื่อมวลชน ผู้มีอุปการคุณ แขกผู้มีเกียรติ ผู้มีจิตศรัทธา ภาคีเครือข่ายร่วมงาน รวมถึงมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง [facebook.com/atpohtecktung] เพื่อให้สาธุชน ผู้มีจิตศรัทธาได้ทราบและเชื่อมั่นว่า “ทุกบาท ทุกสตางค์ ที่ท่านบริจาค สามารถร่วม ช่วยชีวิต รักษาชีวิต และสร้างชีวิต นับล้านชีวิต” โดยมีผลการดำเนินงานของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเป็นที่ประจักษ์
นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เผยว่า ผลการดำเนินงาน ปี 2566 ของมูลนิธิฯ ได้ใช้งบประมาณในการช่วยเหลือทั้งสิ้น 501,469,876.26 บาท (ห้าร้อยหนึ่งล้านสี่แสนหกหมื่นเก้าพันแปดร้อยเจ็ดสิบหกบาทยี่สิบหกสตางค์) แบ่งเป็นการช่วยเหลือ 3 ด้าน ดังนี้
ด้านการ “ช่วยชีวิต” มูลนิธิฯมีหน่วยบรรเทาสาธารณภัยและฌาปนกิจสุสาน ในงานกู้ชีพ กู้ภัย สนับสนุนงานนิติเวช และงานฌาปณกิจ บริการช่วยเหลือประชาชน รับแจ้งเหตุผ่านสายด่วนและแอปพลิเคชัน ป่อเต็กตึ๊ง 1418 มีอาสาสมัครไม่ต่ำกว่า 4,000 คน พร้อมให้การช่วยเหลือจากเหตุต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการช่วยเหลือในต่างประเทศ นอกจากนี้ มีแผนกฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการกู้ชีพและบรรเทาสาธารณภัย การให้ความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินแก่หน่วยงาน ต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน รวมถึงมีภารกิจช่วยชีวิตผ่านงานสังคมสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัยต่างๆ อาทิ เหตุโรงเก็บดอกไม้ไฟระเบิดจังหวัดนราธิวาส เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ซึ่งได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก รวมงบประมาณด้านนี้กว่า 123 ล้านบาท มีผู้ได้รับการสงเคราะห์จำนวน 503,289 คน
ด้านการ “รักษาชีวิต” มูลนิธิฯ มีหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนให้บริการตรวจรักษาประชาชนทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงถิ่นทุรกันดาร และยังสนับสนุนห้องผ่าตัด อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ขาดแคลน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ป่วยรายได้น้อย ผู้ป่วยโรคไต ทั้งยังร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ให้บริการโดยศาสตร์การแพทย์แผนจีนแขนงต่างๆ อย่างครบวงจร รวมงบประมาณด้านนี้กว่า 119 ล้านบาท
ด้านการ “สร้างชีวิต” มูลนิธิฯได้ดำเนินโครงการต่างๆ กว่า 10 โครงการ ครอบคลุมด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ และการดำรงชีพ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ในปี 2566 ที่ผ่านมา ได้เปิดโครงการคาราวานปันสุขให้ชุมชน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ 50 เขตกรุงเทพฯ และยังได้ร่วมกับภาครัฐ ในโครงการแก้ปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน, โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีที่มีรายได้น้อยที่ต้องดูแลคนในครอบครัว แม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม นอกจากนี้ ยังมีโครงการ“เล่นสนุกกับภาษาจีนกันเถอะ” ร่วมกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เปิดสอนภาษาจีนให้เยาวชนที่สนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมงบประมาณด้านการสร้างชีวิต และการดำเนินงานอื่นๆ ของมูลนิธิฯ กว่า 258 ล้านบาท มีผู้ได้รับการสงเคราะห์จำนวน 613,653 คน
และในส่วนเป้าหมายการดำเนินงานของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในปี 2567 นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กล่าวเน้นย้ำ จุดยืนของมูลนิธิฯ ที่หนักแน่น โดย มูลนิธิฯ จะยังคงนโยบายเดินหน้าพัฒนาการปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขแก่ทุกชีวิตที่ตกทุกข์ได้ยาก รวมถึงมุ่งมั่นพัฒนาและขยายขอบข่ายการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นองค์กร สาธารณกุศล ช่วยเหลือสังคมอย่างครบวงจรชีวิต ตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ภายใต้ปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ได้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
จากนั้น นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ และนับเป็นประวัติศาสตร์แห่งการรวมพลังศรัทธาของหลวงปู่ไต้ฮง สร้างพุทธสถาน ประดิษฐานองค์ไต้ฮงกงหินหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย รวมถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ (ตี่จั๋งอ้วงผ่อสัก) ขึ้นประดิษฐานภายในศาลเจ้าพร้อมกัน นอกจากนี้ ภายในศาลเจ้าจะยังเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าจีนอีกหลายองค์ เพื่อให้สาธุชนได้สักการบูชา ปัจจุบันการดำเนินก่อสร้างมีความคืบหน้าแล้วเสร็จทั้งในด้านงานก่อสร้างหลักตัวอาคาร งานโครงสร้างอาคาร งานสถาปัตยกรรม และงานระบบวิศวกรรมมากกว่า 90%
ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) เป็นการออกแบบร่วมกันโดยสถาปนิกชาวจีนและชาวไทย ให้เป็นศาลเจ้าแห่งใหม่กลางเมืองหลวง ด้วยสถาปัตยกรรมจีนตอนใต้ฉบับแต้จิ๋ว ที่กว้างขวางโอ่โถง วิจิตรงดงามในทุกรายละเอียด โดยแบ่งเป็นอาคารศาลเจ้าสูง 2 ชั้น พร้อมการจัดสรรพื้นที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ที่จอดรถใต้ดินที่สามารถขึ้นสู่อาคารศาลเจ้าทั้งทางบันได และลิฟต์ เพื่อรองรับสาธุชนทุกเพศทุกวัย การตกแต่งภายใน เป็นการรวบรวมงานศิลปะ ประติมากรรมหินแกะสลัก ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงในจีนมาจัดแสดงไว้ภายในศาลเจ้า ซึ่งมีทั้งเรื่องราวพุทธประวัติ ประวัติของหลวงปู่ไต้ฮง และเทพเจ้าต่างๆ คาดว่าจะ แล้วเสร็จเปิดให้สาธุชนได้เข้าสักการะก่อนเทศกาลตรุษจีนประจำปี พ.ศ. 2568
ทั้งนี้ ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) จะกลายเป็นศูนย์รวมความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ พร้อมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของมูลนิธิฯในด้านกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมเพื่อสังคม มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตกุศล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจารึกประวัติศาสตร์ในการสร้างพุทธสถาน สืบสานพลังศรัทธา ร่วมทำความดี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
กว่า 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำต้นแบบของการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ เชื้อชาติหรือศาสนา ของหลวงปู่ไต้ฮง ซึ่งได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความดีไว้บนผืนแผ่นดินจีน ก่อร่างสร้างตัวเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสามารถดำเนินภารช่วยเหลือได้ ครอบคลุมทุกมิติชีวิตบนผืนแผ่นดินไทย ดั่งปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”