In Bangkok
กทม.สั่งห้ามใช้อาคารรง.ผลิตหลอดไฟ ในซอยเทียนทะเล19หลังเกิดเพลิงไหม้
กรุงเทพฯ-กทม. ออกคำสั่งห้ามใช้อาคารโรงงานผลิตหลอดไฟในซอยเทียนทะเล 19 หลังเกิดเพลิงไหม้ เข้มมาตรการเฝ้าระวังป้องกันเหตุเพลิงไหม้โรงงานในกรุงเทพฯ
นางภัสรา นทีทอง ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานนำเข้าและผลิตหลอดไฟฟ้า บริเวณซอยเทียนทะเล 19 ว่า
สำนักงานเขตฯ ได้เข้าตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคาร โดยจากการตรวจสอบพบความเสียหายพื้นที่ประมาณ 1,520 ตารางเมตร จึงได้ออกคำสั่งให้บรรเทาเหตุที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือห้ามใช้อาคาร กรณีฉุกเฉิน ตามมาตรา 46 วรรคหนึ่ง ประกอบกับข้อ 7 แห่งกฎกระทรวงการแก้ไขอาคารที่มีสภาพ หรือมีการใช้ที่อาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน หรืออาจไม่ปลอดภัยจากอัคคีภัย หรือก่อให้เกิดเหตุรำคาญ หรือกระทบกระเทือนต่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2563 ตามแบบ ค.11 พร้อมประสานสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนเทียน กรณีเกิดการปะทุของควันไฟ เพื่อความปลอดภัย ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ได้ให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับมาตรการการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย ตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนด
นายสุริยชัย รวิวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานดังกล่าว พบลักษณะที่เกิดเหตุเป็นโกดังคอนกรีตชั้นเดียวหลังคากระเบื้อง ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในโกดัง เพลิงลุกไหม้โกดังเสียหายทั้งหมด ลุกลามอาคารคอนกรีตข้างเคียง ซึ่งใช้เป็นสำนักงานได้รับความเสียหาย 2 ชั้น ทั้งนี้ สปภ. ได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุเพลิงไหม้โรงงานในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ยานพาหนะ และอุปกรณ์ เข้าร่วมฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินของสถานประกอบการ ร่วมกับสถานประกอบการและชุมชนใกล้เคียงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน อีกทั้งผู้บริหาร กทม. ยังให้ความสำคัญและมอบนโยบายให้สำนักงานเขตจัดทำแผนเผชิญเหตุอัคคีภัยในแต่ละชุมชน และฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างปลอดภัยและลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มีน้อยที่สุด หากประชาชนที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยสามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง