In News
นายกฯดัน'OTAGAI Forum in Sasebo' เปิดช่องSMEsบุกตลาดญีปุ่นคาด3พันล.
กรุงเทพฯ-นายกฯ สนับสนุนภาคอุตสาหกรรม และ SME สู่ตลาดต่างประเทศ อก. จัดงาน “OTAGAI Forum in Sasebo ครั้งที่ 23” ณ ประเทศญี่ปุ่น เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทย – ญี่ปุ่น คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 3,000 ล้านบาท
7 มิถุนายน 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดต่างประเทศตามนโยบายเศรษฐกิจเชิงรุก ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดงาน OTAGAI Forum in Sasebo ครั้งที่ 23 ณ เมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นเข้าร่วมมากกว่า 100 ราย จากหลากหลายอุตสาหกรรม สร้างความเชื่อมโยงทางการค้า พร้อมคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้กว่า 3,000 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (Department of Industrial Promotion) กระทรวงอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้จัดงาน OTAGAI Forum in Sasebo ครั้งที่ 23 ณ เมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2567 ภายใต้แนวคิด "Otagai" ในภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า "กันและกัน" ซึ่งเป็นการจัดงานอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2554 โดยมีผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เข้าร่วมงานฯ เช่น อุตสาหกรรมการต่อเรือ ผลิตภัณฑ์จากเหล็ก เทคโนโลยีการจัดการ และบำบัดน้ำเสีย ดิจิทัลแพลตฟอร์ม อาหารและสินค้าเกษตรแปรรูป ซึ่งผู้ประกอบการจะได้นำเสนอสินค้าและบริการของตนเอง รวมทั้งยังได้ใช้นโยบายบูรณาการความร่วมมือ (DIPROM Connection) ผ่านการหารือร่วมกันระหว่าง ดีพร้อมของไทย และ รัฐบาลญี่ปุ่น ทั้งในระดับรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น ตลอดจนภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมและแลกเปลี่ยนความร่วมมือ ทั้งด้านองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยี และบุคลากร รวมถึงพัฒนาและเชื่อมโยงตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG หรือเศรษฐกิจชีวภาพของไทย เช่น อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ทั้งสาขาพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นมีการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยเป็นอันดับ 1 ในไตรมาสแรกของปี 2567 ด้วยเงินลงทุนกว่า 19,006 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของญี่ปุ่นที่มีต่อศักยภาพของเศรษฐกิจไทย โดยเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนคาร์บอนต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง BCG ที่รัฐบาลผลักดันอย่างต่อเนื่อง
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ร่วมกันสนับสนุนนโยบาย เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผลงาน นวัตกรรม เป็นประตูสำคัญในการเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรมและ SME ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจของโลกในอนาคต รวมทั้งยังเป็นเวทีแสดงศักยภาพของเศรษฐกิจไทยที่สามารถดึงดูดภาคเอกชนญี่ปุ่นหุ้นส่วนสำคัญของไทย เพื่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่มีความท้าทาย อุตสาหกรรมเป้าหมาย อุตสาหกรรมสู่อนาคต และแน่นอนว่าจะกระจายรายได้ไปยังพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่มธุรกิจต่อไป” นายชัย กล่าว