In News

'ภูมิธรรม'ถกกนช.รับมือ'ลานีญา'ฤดูฝนนี้ คาดช่วงก.ค.-ก.ย.นี้ฝนเพิ่มเฉลี่ย200มม.



กรุงเทพฯ-รองนายกฯ ภูมิธรรม กำชับหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือลานีญาฤดูฝนนี้ พร้อมไฟเขียวโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูฝน และการส่งเสริมความมั่นคงด้านน้ำอุปโภคบริโภค เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยและปัญหาขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ให้ประชาชน

วันนี้ (7 มิ.ย. 67) เวลา 11.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 2/2567 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 109 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

โดยรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เป็นประธานการประชุม กนช. ครั้งแรก ซึ่งจากที่ได้รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำในฤดูฝนปีนี้จาก สทนช. ที่ได้คาดการณ์ไว้ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้มีฝนตกในหลายพื้นที่ของประเทศ และในช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย. 67 มีโอกาสเกิดสภาวะลานีญาในประเทศไทยซึ่งจะทำให้มีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวเฉลี่ยกว่า 200 มิลลิเมตร และคาดว่าสภาวะลานีญาจะยังคงต่อเนื่องไปจนถึงปลายปีนี้ จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 อย่างเคร่งครัด และเพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในช่วงฤดูฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการวางแผนเตรียมพร้อมสำหรับฤดูแล้งในช่วงปลายปีนี้ ที่ประชุมจึงได้มีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูฝน และการส่งเสริมความมั่นคงด้านน้ำอุปโภคบริโภค  โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานของรัฐ และ อปท. เร่งเสนอโครงการที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นเร่งด่วน รวมถึงโครงการที่เคยเสนอภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงปี 2567 ที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการเพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านน้ำอุปโภคบริโภค ไม่ให้เกิดผลกระทบในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/2568 ในระบบ Thai Water Plan (TWP) และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด คณะกรรมการลุ่มน้ำ และหน่วยงาน เร่งรัดการดำเนินการพิจารณาโครงการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดต่อไป

ด้าน เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในวันนี้ สทนช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กนช. ยังได้นำเสนอผลการดำเนินงานของ กนช. ที่ได้ขับเคลื่อนการบริหารทรัพยากรน้ำให้เป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี มาอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานที่สำคัญทั้ง 5 ด้าน ในช่วงปี 66 – 67 ได้แก่ 1. ด้านนโยบายและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำ เช่น การปรับปรุงแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566 – 2580) ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม กนช. มีมติเห็นชอบแผนฯ แล้วทั้ง 22 ลุ่มน้ำ 2. ด้านแผนปฏิบัติการและแผนงบประมาณการบริหารทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ เช่น แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่ง ครม. มีมติรับทราบแล้ว เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 67 3. ด้านการติดตามและประเมินผล เช่น การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) การติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการลุ่มน้ำ 4. ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เช่น มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/2567 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 โดย ครม. มีมติรับทราบแล้ว เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 67 เช่นกัน ผังน้ำ 22 ลุ่มน้ำ ซึ่ง สทนช. อยู่ระหว่างการทดสอบและบูรณาการผังน้ำในลุ่มน้ำที่ต่อเนื่องกันให้เป็นระบบลุ่มน้ำ แผนขับเคลื่อนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค (พ.ศ. 2566 – 2580) ซึ่ง กนช. มีมติเห็นชอบแล้ว และ 5. ด้านกฎหมาย เช่น การออกกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 รวมดำเนินการแล้วเสร็จ 32 ฉบับ และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 3 ฉบับ โดยจะเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกด้านอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้