In News
นายกฯแอ่ว! ลำพูนรับฟังปัญหาชาวบ้าน 'ทอผ้าไหม-ราคาลำไย-แก้ไขคุณภาพน้ำ'
กรุงเทพฯ-นายกฯ รับฟังปัญหาคุณภาพน้ำไม่เหมาะสมต่อการอุปโภคบริโภค ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องน้ำสะอาดเข้าถึงประชาชน ให้มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอ และนายกฯ พบปะเกษตรกรชาวสวนลำไย จ.ลำพูน ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับเกษตรกร การันตีราคาลำไยต้องไม่ตกลง และมีราคาที่ดีขึ้น ก่อนหน้านี้นายกฯ เยี่ยมชมขั้นตอนเลี้ยงหม่อนไหม “เศรษฐกิจพอเพียง” การสาธิตการทอผ้าไหมยกดอก - การทําผ้ามัดย้อมผ้าฝ้ายสีธรรมชาติ - ชิมอาหารถิ่น Signature สนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นผ้าไหมยกดอกลำพูน นอกจากนี้นายกฯ สักการะพระธาตุหริภุญชัย เยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย สั่งการ ผวจ.ลำพูน-วธ.-กก. ร่วมพลิกฟื้น จ.ลำพูน พร้อมพบปะกลุ่มคนถีบสามล้อลำพูน มอบ กก.-หน่วยงาน ดำเนินการตามข้อเสนอ จัดหามอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งให้รถสามล้อ ภายใน 10 วัน
วันนี้ (8 มิ.ย. 67) เวลา 16.15 น. ณ องค์การบริหารส่วนตําบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลําพูน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบปะประชาชน และรับฟังปัญหาคุณภาพน้ำไม่เหมาะสมต่อการอุปโภคบริโภค น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน รวมถึงรับทราบสภาพปัญหาคุณภาพน้ำไม่เหมาะสมต่อการบริโภค กรณีระบบประปาหมู่บ้านที่ใช้อยู่ปัจจุบันเจาะน้ำบาดาลความลึกไม่เกิน 120 เมตร มีหินปูน สนิมเหล็ก ฟลูออไรด์ แมงกานีสจำนวนมาก ทำให้ระบบกรองน้ำและท่อส่งน้ำอุดตันในเวลาอันรวดเร็ว องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำดิบต้องใช้งบประมาณในการเปลี่ยนแปลงทรายกรองท่อและท่อประปาภายในหมู่บ้าน ไม่ต่ำกว่า 450,000 บาทต่อปี แต่ประชาชนในพื้นที่ยังคงต้องใช้น้ำที่มีหินปูนและมีสนิมเหล็กเจือปน ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง ดังนั้น จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประมาณ 90 ล้านบาท โดยวางท่อกระจายน้ำระยะทาง 15 กิโลเมตรครอบคลุมพื้นที่ 15 หมู่บ้าน โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จประชาชนจะได้รับประโยชน์ 15 หมู่บ้าน 3,547 ครัวเรือน และมีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค 1,900 ลบ.ม. ต่อวัน หรือประมาณ 700,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
รวมทั้ง นายกฯ ได้ชมรถให้บริการน้ำดื่มสะอาดเคลื่อนที่ ซึ่งสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการให้บริการประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำสะอาดดื่มเพียงพอ
โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า เป็นเกียรติและดีใจที่ได้มาจังหวัดลำพูนอีกครั้ง โดยวันนี้ได้มาดูเรื่องน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับความต้องการใช้น้ำของพี่น้องประชาชน รัฐบาลได้ทำงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะมีการเจาะน้ำขึ้นมาและมีการทดสอบในหลาย ๆ ความลึก ให้ได้น้ำที่มีปริมาณเพียงพอ รวมถึงการให้ความสำคัญกับคุณภาพของน้ำ ซึ่งตรงนี้จะมีการผ่านกระบวนการเครื่องกรอง ให้ได้น้ำที่มีคุณภาพ สามารถอุปโภคบริโภคได้ทั้งหมด ทั้งนี้ เข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดในเรื่องของน้ำอุปโภคบริโภค การลงพื้นที่วันนี้มาพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าเรื่องนี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่นิ่งนอนใจเรื่องน้ำ โดยโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้ง เป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สำหรับงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าว ทั้งเรื่องการเจาะและจัดส่งน้ำตามท่อ ได้มีการจัดสรรให้เรียบร้อยแล้ว โดยการดำเนินโครงการดังกล่าว จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอครอบคลุม 10 กว่าหมู่บ้าน
นายกฯ พบปะเกษตรกรชาวสวนลำไย จ.ลำพูน
เวลา 15.30 น. นายเศรษฐา พบปะเกษตรกรชาวสวนลำไย ณ แปลงใหญ่ลำไย ตำบลริมปิง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ รับฟังสถานการณ์ราคาลำไยจากตัวแทนเกษตรกรชาวสวนลำไยในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ลำไยมีราคาที่ไม่น่าเป็นห่วง โดยนายกฯ กล่าวว่า ลำไยเป็นพืชหลักของภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน นโยบายของรัฐบาลไม่ได้ดูแลแต่พืชหลัก เช่น ข้าวโพด ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย แต่รวมถึงพืชรองหลาย ๆ อย่างด้วย เช่น ลำไย ซึ่งลำไยเป็นพืชเศรษฐกิจของภาคเหนือ พื้นที่เพาะปลูกครึ่งหนึ่งของจังหวัดลำพูนนั้นปลูกลำไยทั้งหมด ทั้งนี้ ฤดูลำไยที่จะมาถึงนี้ รัฐบาลต้องดูแลเรื่องของราคาให้ดี ซึ่งได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่า การดูแลพืชรองลำไยนั้น เราต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมในแง่ของการเปิดตลาดใหม่ ๆ เพื่อดูด Supply ออกไปก่อน เพื่อทำให้ราคาลำไยสูงขึ้น สำหรับการคิดที่ว่าราคาจะไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมานั้นเป็นความคิดที่ยังไม่ดีพอ รัฐบาลต้องการทำให้ราคาลำไยนั้นสูงขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นการหาตลาดใหม่มีความจำเป็น ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนพูดคุยกับตัวแทนมณฑลกวางเจา ประเทศจีน ที่จะดูด Supply จากสวนลำไยของเราทั้งหมดออกไป ซึ่งจะส่งผลให้ราคาลำไยดีขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องคุณภาพของลำไยนั้นไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่มีความเป็นห่วงการหาตลาดใหม่ เพื่อทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่สูงขึ้น ส่วนในแง่ของต้นทุน ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งนี้ ได้มอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้ามาดูแลในส่วนนี้ให้ดี อีกทั้งการแปรรูปลำไยนั้นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเป็นลำไยอบแห้ง ปัจจุบันนำมาทำเป็นกาแฟลำไย ถือว่าเกษตรกรได้พัฒนาลำไยให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ใช่เป็นการสร้างภาพ เพราะรัฐบาลนั้นให้ความสำคัญกับเกษตรกร ซึ่งการมาในวันนี้เป็นการการันตีว่าราคาลำไยต้องไม่ตกลง และมีราคาที่ดีขึ้น
ต่อจากนั้น นายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมสวนลำไย แล้วออกเดินทางต่อไปยังองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำดิบ ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
นายกฯ เยี่ยมชมขั้นตอนเลี้ยงหม่อนไหม “เศรษฐกิจพอเพียง”
เวลา 14.30 น. นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์การทอผ้าไหมลําพูน อ.เมืองลําพูน จ.ลําพูน เพื่อเยี่ยมชมขั้นตอนเลี้ยงหม่อนไหม “เศรษฐกิจพอเพียง” การสาธิตการทอผ้าไหมยกดอก การทําผ้ามัดย้อมผ้าฝ้ายสีธรรมชาติ และชิมอาหารถิ่น Signature เช่น น้ำลูกหม่อน หรือมัลเบอร์รี่
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกฯ ได้ดูกระบวนการผลิตผ้าไหม เช่น การสาวรังไหม การสาวไหมเข้าหัวม้วน การทอผ้าไหม ฯลฯ พร้อมกับได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ที่สถานที่จำหน่ายผ้าไหมมาตรฐาน ตรานกยูงพระราชทาน โดยนายกฯ ได้อุดหนุนผ้าไหมยกดอกลำพูน (สีดำ) ขนาด 4 เมตรครึ่งด้วย
สำหรับศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์การทอผ้าไหมลําพูน เป็นศูนย์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อยกระดับการผลิตและการทอผ้าไหมยกดอกลำพูนโดยเส้นไหมย้อมสีธรรมชาติให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ภายในศูนย์เรียนรู้ฯ ประกอบด้วย แปลงหม่อนและโรงเลี้ยงหม่อนไหม เป็นจุดเรียนรู้ต้นกำเนิดของความเป็นไหมไทย มีกิจกรรมเรียนรู้วิธีการเก็บผลหม่อน โรงย้อมผ้าสีธรรมชาติและโรงทอผ้าไหม เป็นจุดเรียนรู้กระบวนการย้อมสีธรรมชาติ เช่น แก่นฝาง แก่นไม้ประโหด ใบหูกวาง และดอกไม้ให้สี มีกิจกรรมให้ได้ทดลองย้อมสีธรรมชาติด้วยเทคนิคมัดย้อม การกรอไหมและการทอผ้าไหม ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์และพิพิธภัณฑ์ผ้าไหมยกดอก เป็นแหล่งรวบรวมและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์จากหม่อน แยมหม่อน น้ำหม่อน ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมยกดอก
จากนั้น นายกฯ ได้ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเซรามิค และผลงานจิตรกรรมบนจานกระเบื้องเครื่องปั้นดินเผา ณ เตาชวนหลง อ.เมืองลําพูน จ.ลําพูน พร้อมชิมกาแฟลำไย อีกทั้งได้ร่วมกิจกรรม Workshop เซ็นชื่อบนศิลาดล ช้างวาดลาย ก่อนเดินทางต่อไปยังแปลงใหญ่ลำไยตำบลริมปิง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน เพื่อพบปะเกษตรกรชาวสวนลำไยต่อไป
นายกฯ สักการะพระธาตุหริภุญชัย สั่งผวจ.ลำพูน-วธ.-กก. ร่วมพลิกฟื้น จ.ลำพูน
ในช่วงเวลา 13.10 น. ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายเศรษฐา เข้าสักการะพระธาตุหริภุญชัย พบปะชุมชนทำโคมลำพูน (ผู้ผลิตโคมบูชาส่งให้วัดเพื่อพุทธศาสนิกชนได้บูชาช่วงเทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน) และพบปะกลุ่มคนถีบสามล้อลำพูน โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมด้วย
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ กราบสักการะพระมหามุนีศรีหริภุญชัย และเข้ากราบนมัสการพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร โดยนายกฯ ได้รับพระรอด พร้อมกับรับพรจากเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จากนั้นนายกฯ นมัสการพระธาตุหริภุญชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งได้พบปะชุมชนทำโคมลำพูน (ผู้ผลิตโคมบูชาส่งให้วัดเพื่อพุทธศาสนิกชนได้บูชาช่วงเทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน) และรับชมการสาธิตทำโคมล้านนา
จากนั้น นายกฯ รับฟังประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย จังหวัดลำพูน พร้อมกับสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยกันดำเนินการเพื่อพลิกฟื้นจังหวัดลำพูน เสร็จแล้วนายกฯ เดินรับชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย พร้อมกับรับหนังสือจากกลุ่มพลถีบรถสามล้อ ซึ่งขอสนับสนุนงบประมาณในการจัดหามอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อติดตั้งให้กับรถสามล้อ โดยนายกฯ มอบกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามข้อเสนอภายใน 10 วัน จากนั้น นายกฯ ได้นั่งรถสามล้อไปศาลากลางจังหวัดลำพูน (หลังเก่า) ซึ่งบริเวณโดยรอบมีประชาชนรอถ่ายภาพและให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางด้วยรถราง ไปศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์การทอผ้าไหมลําพูนต่อไป