Health & Beauty
'เอส สไปน์'ก้าวสู่ปีที่8ยืนยันความสำเร็จ ด้วยเคสผ่าตัดกว่า12,000ราย
กรุงเทพฯ-'เอส สไปน์'โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกในเมืองไทย ก้าวสู่ปีที่ 8 การันตีความสำเร็จด้วยเคสผ่าตัดกระดูกสันหลังกว่า 12,000 ราย พร้อมนำคุณภาพชีวิตที่ดีคืนกลับมา ด้วยคอนเซ็ปต์ Bring “Back” to Quality Time.
ถ้าจะพูดถึงโรงพยาบาลกระดูกสันหลังที่ดังติดอันดับต้นในประเทศไทย ต้องมีชื่อโรงพยาบาลเอส สไปน์ ติดอยู่ 1 ในนั้นอย่างแน่นอน และถือเป็นโรงพยาบาลที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นที่เริ่มมาจากการเปิดคลินิก ก่อนที่จะพัฒนาเป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้านกระดูกสันหลังในปี 2551 และล่าสุดเตรียมขยายสาขาโรงพยาบาลด้านกระดูกสันหลังแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้โรงพยาบาลเติบโตอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาไม่ถึง 1 ทศวรรษ เพราะที่นี่ มีจุดขายที่แตกต่างและโดดเด่น เน้นการรักษาที่ต้นเหตุเพื่อให้ผู้ป่วยหายจากโรคอย่างยั่งยืน โดยนำเทคโนโลยีที่ดีและปลอดภัยสูงมาใช้กับผู้ป่วย โดยใช้การผ่าตัดแบบเจาะรูส่องกล้อง จะทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวไว นอกจากนี้จากสถิติของโรงพยาบาลยังพบว่า ผู้ป่วยที่เข้ามาทำการรักษา 95% สามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วัน หลังทำการรักษาด้วยการผ่าตัด
นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เผยว่าโรงพยาบาลแห่งนี้นับเป็นความฝันของตัวเอง ที่อยากทำโรงพยาบาลสำหรับการรักษาโรคกระดูกสันหลัง แต่อย่างไรก็ตามในการรักษาโรคนี้ ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อมของร่างกาย ดังนั้นอะไรที่เป็นจิ๊กซอว์ต่อเนื่องกับการรักษาโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกสันหลังก็ต้องทำการแก้ไขปัญหานั้นร่วมกัน เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามนโยบายหลักของเราก็คือ Bring “Back” to Quality Time การนำคุณภาพชีวิตที่ดีกลับคืนมาให้กับคุณ
อย่างไรก็ตาม จากการที่เราเปิดโรงพยาบาลมา 7 ปีและกำลังก้าวสู่ปีที่ 8 มีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดมากกว่า 12,000 ราย และเป็นผู้ป่วยที่รักษาโดยไม่ผ่าตัดซึ่งมีจำนวนมากกว่านี้อีกหลายเท่า แต่เราก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจให้เราได้ดูแล เพื่อจะสามารถรักษาโรคที่เกี่ยวเนื่องกับโรคความเสื่อมของกระดูกสันหลังให้มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น
นพ.ดิตถพงษ์ ยังเผยอีกว่า สำหรับปีที่ 8 ถือเป็นจุดพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเรา เพราะเรากำลังจะขยายสาขาโรงพยาบาลเพิ่ม โดยมุ่งเน้นให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแบบครบวงจร แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย โดยเราจะทำการรักษาเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อมทั้งหมด และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้กลางปี 2568 โดยจะเป็นส่วนที่รองรับผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการทางด้านความเสื่อมของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เข่าเสื่อม ซึ่งมากับโรคกระดูกสันหลัง หรือกระดูกสันหลังและข้อ ซึ่งภายใน 3 ปี เราตั้งเป้าจะเป็น Medical Hub หรือศูนย์กลางทางด้านการรักษาและเรียนรู้ในเรื่องโรคกระดูกสันหลังของโลก