Authority & Harm
แม่ค้าลูก4ร้องสื่อถูกเจ้าหนี้โหดตามราวี วอนสหกรณ์ตร.อุดรขอเงินปันผลจ่ายหนี้
นครปฐม-แม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 4 ประสานร้องสื่อ วอนสหกรณ์ออกทรัพย์ตำรวจอุดรช่วยเร่งดำเนินการจ่ายเงินหุ้นตามสิทธิทายาท ที่ได้รับจากตา เป็นเงิน 1.4 แสนบาท ซึ่งได้ตามเอกสารมาแล้วหลายเดือนแต่ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งตอนนี้เป็นหนี้จากการกู้เงินไปดำเนินการข้ามจังหวัด โดยตอนนี้เดือดร้อนหนักเพราะถูกเจ้าหน้าที่นอกระบบตามกดดันบุกถึงห้องจะกระชาดกไปตบหน้าร้าน ต้องปิดห้องเช่านั่นร้อยลูกปัดเพื่อประทังปากท้อง และค้างค่าเช่าห้อง 3 เดือน กลัวลูกทั้ง 4 คนจะไม่มีที่อยู่
วันที่ 15 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ นางสาวสรัญญา ชาภูธร อายุ 35 ปี ที่อยู่ตามบ้านเลขที่ 31/4 หมู่ที่ 11 ต.ลำเหย อ.ดอนตูมจ.นครปฐม แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูกๆ 4 ชีวิตที่ต้องดูแล ว่าขอให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงเพื่อเข้ารับเงินหุ้นจ่ายคืนทายาท จากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้พยายามตามเรื่องมาหลายเดือนแต่ก็ยังไม่มีการประชุมสรุปจ่ายเงินดังกล่าว ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนหนักเพราะมีหนี้สินนอกระบบที่เจ้าหนี้ตามมาทวงหนี้จนต้องหลบๆซ่อนในห้องเช่าไม่กล้าเปิดประตูห้อง
นางสาวสรัญญา บอกว่า เรื่องเริ่มจากเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา คุณยาย ได้ประสานมาและแจ้งว่าจะได้รับเงินมรดก ในส่วนของทายาทของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดอุดรธานี หลังจาก ร.ต.ต.สมุทร ชาภูธร ตำรวจ ตชด. ซึ่งได้เสียชีวิตลง โดยตนเองเป็นผู้ได้รับสิทธิเนื่องจากเป็นหลาน โดย น.ส.นุชจรินทร์ ชาภูธร แม่ของตนเองซึ่งเป็นลูกของ ร.ต.ต.สมุทร ได้เป็นบุคคลหายสาปสูญ ซึ่งเมื่อวันที่ 29 เมษายน ตนเองได้ไปขอคำสั่งศาลเรื่องมารดาเป็นผู้หายสาบสูญโดยชอบธรรมและได้รับหมายคำสั่งมาเป็นที่เรียบร้อย และวันที่ 30 เมษายน ได้เดินทางไปยื่นเอกสารทั้งหมดที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดอุดรธานี และได้มีการติดตามเรื่องราวเรื่อยมาแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งมีการสอบถามไปก็ได้รับคำตอบว่ายังต้องมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุม เพื่อสรุปยอดจำนวนเงินดังกล่าวซึ่ง ผู้ได้รับการปั่นเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์มีทั้งหมดสี่คน โดยทั้งสามคนก่อนหน้าได้รับเงินไปหมดแล้วเหลือเพียงตนเองคนเดียวเท่านั้น และจนถึงทุกวันนี้เมื่อมีการ สอบไปก็ยังได้รับคำตอบว่ายังมีมีการประชุมคณะกรรมการยังไม่ไม่ครบองค์ประชุม
นางสาวสรัญญา บอกต่ออีกว่า จากนั้น เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม คุณยายได้ประสานกลับมาอีกว่าจะมีการขอเลื่อนการประชุมไปเป็นวันที่ 18 พฤษภาคม และเมื่อถึงวันนัดหมายคุณยายได้ติดต่อกลับมาบอกว่า มีการเลื่อนการประชุมออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากต้องมีคณะกรรมการหลายคนเข้าร่วมการประชุมและมีค่าใช้จ่ายในการประชุมเป็นจำนวน ต้องรอเวลาและไม่ทราบว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่ จากนั้นได้มีคุณลุงคนหนึ่งซึ่งสามารถประสานงานกับคุณยายและทางสหกรณ์ได้ ได้บอกมาเมื่อ วันที่ 10 มิถุนายน อยากให้ตนเองทำเรื่องกู้เงินไปก่อน เพื่อเป็นการช่วยเหลือ จึงสงสัยว่าที่ตนเองเร่งเรื่องเอกสารต่างๆนา นา ไปยังศาล และสำนักอัยการ เป็นการหลอกให้ตนเองนำเอกสารไปส่งให้หรือไม่ และเรื่องนี้ตนเองจะได้รับเงินจริงตามที่คุณยายบอกหรือเปล่า ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใครและเกิดความเครียดในช่วงนี้
นางสาวสรัญญา เล่าปัญหาว่า ที่ตนเองต้องออกมาร้องสื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงครั้งนี้เนื่องจาก ตนเองไม่ได้มีรายได้อะไรมากนัก จึงต้องใช้วิธีการกู้เงินจากเจ้าหนี้นอกระบบจำนวนสองราย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประสานงานที่ศาล สำนักงานอัยการ และเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี โดยตอนนี้จากที่เคยเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่หน้าห้องเช่า ก็ต้องปิดรวมถึงไม่เปิดประตูห้องเพราะเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ทั้งสองรายได้เริ่มมีการติดตามเงินและเริ่มมีการใช้การข่มขู่ ซึ่งทำให้ตนเองเกิดความวิตกกังวล จึงต้องปิดประตูห้องอยู่กับลูกอีกสี่คนรวมห้าชีวิต เพื่อหลบซ่อนตัวจากเจ้าเจ้าหนี้ โดยใช้การนั่ง 100 ลูกปัดขายส่งให้กับนายจ้างเส้นละ 1 บาทบ้าง 5 บาทบ้าง มีรายได้วันละ 300 บาท สำหรับดูแลกันทั้งห้าชีวิต
"ช่วงที่ เจ้าหนี้ทั้งสองรายเริ่มเข้ามามาทวงเงิน ก็จะเป็นช่วงที่เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่หน้าห้องเช่า โดยรายแรกก็จะมา ทวงเงินโดยใช้การขู่และเสียงดังจนทำให้ลูกค้าตกใจและเดินออกจากร้านไป ส่วนอีกราย ก็จะใช้วิธีการขับขี่ รถจักรยานยนต์แล้วใช้ล้อหน้าพุ่งตรงเข้ามาเหมือนจะชนร้าน และก็ทวงเงินด้วยความกดดัน สุดท้ายจึงจำเป็นต้องปิดร้าน ปิดประตูห้อง ลูกลูกต้องทนอยู่ในอากาศที่ร้อนอบอ้าวในห้องพัก และตอนนี้เงินค่าเช่าห้องก็ไม่ได้จ่ายมาแล้ว สามเดือน โดยมีครั้งหนึ่งเราได้เคยลืมเปิดประตูห้องทิ้งไว้เค้าก็บุกเข้ามาที่ห้องเพื่อที่จะเข้ามาตบและดึงเราออกไปด้านนอก โชคดีที่คุณลุงเจ้าของห้องเช่ามาเห็นและช่วยไว้ได้ทันแต่ก็ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นเนื่องจากในห้องมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น ส่วนการประทังชีวิตนอกเหนือจากการร้อยลูกปัด ก็ได้ทยอยขายทรัพย์สินออกไปจนเกือบหมดแล้ว และชีวิตเริ่มลำบาก จึงอยากให้พี่สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับตนเองและลูกลูกด้วย" นางสาวสรัญญา กล่าวปิดท้าย