Authority & Harm

ตามรอยหื่นรีดทรัพย์หลังโซเชียลแฉคลิป นาทีสาว18ถูกตามลวนลาม 'ไอ้หื่นนรก'



ฉะเชิงเทรา-ตามรอยหื่นลุยเดี่ยวขับรถไล่ตามประกบ 4 สาวน้อยวัยละอ่อนออกมาจากงานบุญบั้งไฟช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ไล่ถีบรถ จยย.ล้มลงก่อนตรงเข้าหมายลวนลามพร้อมข่มขู่รีดเอาทรัพย์ ขณะเหยื่อสาวร้องลั่น ดังกึกก้องได้ยินไปไกลถึงเกือบ กม. จนผู้เป็นพ่อของหนึ่งในกลุ่มเด็กสาวได้ยินเสียงขับรถพุ่งตรงมาตามเสียง ทำคนร้ายปล่อยมือรอดพ้นภัยได้อย่างหวุดหวิด ล่าสุดพ่อเหยื่อไอ้หื่น ตามลวนลามสาว 18 พร้อมเพื่อนเด็กสาวรวม 4 คนเชื่อเป็นคนบ้านใกล้เคียงในละแวกพื้นที่ เหตุจากมีความคล่องตัวในการใช้เส้นทางขณะขับขี่รถ จยย. และรู้เส้นทางการหลบหนีเป็นอย่างดี แต่เชื่อไม่ใช่คนในหมู่บ้าน เผยไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน ทำคนแก่เฒ่าพากันตกใจผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไปตามกัน 

วันที่ 16 มิ.ย.67 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ กรณีเด็กสาววัยรุ่นรวม 4 คน ถูกคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ตามประกบออกมาจากงานบุญบั้งไฟ ที่จัดขึ้นริมอ่างเก็บน้ำคลองสียัด บริเวณทางลงผ่านอ่างเก็บน้ำสายเก่า (3259 เดิม) ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นในช่วงระหว่างที่เด็กหญิงสาวทั้ง 4 คนได้พากันขับรถ จยย.จำนวน 2 คันนั่งซ้อนท้ายกันมา ตามเส้นทางจากริมอ่างเก็บน้ำ 

ผ่านบ้านเขากระดาษเพื่อที่จะมาเลี้ยวเข้าสู่หมู่บ้านทุ่งส่ายผ่านทางลูกรังผ่ากลางสวนยาง ก่อนที่จะถึงบ้านพักอาศัยอีกเพียงประมาณ 1 กม.เท่านั้น โดยคนร้ายที่ขับรถ จยย.ตามมาได้อาศัยจังหวะที่กลุ่มของเด็กสาวเลี้ยวลงมาจากถนนใหญ่ สาย 3076 ช่วงตอนเขากระดาษ-หนองคอก เพื่อเข้าสู่ทางลูกรังขนาดเล็กเพื่อเข้าไปยังในหมู่บ้านทางด้านหลังวัดประชานิมิตร ซึ่งเป็นทางลัด โดยมี น.ส.เทียร์ อายุ 15 ปี ขับรถนำหน้าและมี น.ส.ข้าวโพด อายุ 15 ปี นั่งซ้อนท้ายเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางเป็นคันแรก 

ส่วนอีกคันมี น.ส.น้ำค้าง อายุ 18 ปีเป็นคนขับและมี น.ส.มีนา อายุ 15 ปี นั่งซ้อนท้าย แต่หลังจากขับรถลงไปยังในเส้นทางได้เพียงประมาณ 40 เมตร คนร้ายที่ขับรถตามหลังมา ได้อาศัยจังหวะที่รถชะลอความเร็วลง และเลี้ยวลงมาจากเนินขอบของถนนใหญ่ ขับตรงเข้าประกบด้านท้ายรถ ก่อนที่จะใช้เท้าถีบจนรถจักรยานยนต์คันที่ขับมาคันหลังเสียหลักล้มลงพุ่งเข้าไปยังริมสวนยาง ซึ่งมีต้นหญ้าวาขึ้นปกคลุมประปราย 

ก่อนที่คนร้ายจะคว้าตัวของ น.ส.น้ำค้างไว้ และได้พยายามลวนลามขอจับหน้าอกของสงวน พร้อมกับข่มขู่ว่าจะต่อย และให้ส่งเงินมาให้ ส่วน น.ส.มีนา คนนั่งซ้อนท้ายได้กระเด็นตกจากตัวรถลงไปนั่งจ้ำเบ้าพร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความตื่นกลัว จากนั้นคนร้ายได้หันมาถาม น.ส.มีนา ว่ามีตังค์ไหม โดยเหยื่อได้ตอบว่าไม่มีเช่นเดียวกันกับ น.ส.น้ำค้าง โดยที่ น.ส.น้ำค้างได้ตอบกับคนร้ายไปว่า “เดี๋ยวไปเอาที่บ้านให้ได้ไหมล่ะ” ซึ่งคนร้ายได้ตอบว่าให้ขี่รถไปเอามา 

โดยที่คนร้ายได้เร่งให้เร็วๆ ให้ไปเอาตังค์มา โดยที่ น.ส.น้ำค้าง ได้ตอบกับว่าเออเดี๋ยวหนูไปเอาให้และบอกว่าจะขอโทรศัพท์ไปหาเพื่อนก่อน โดยที่ น.ส.มีนา ได้ขอร้องให้คนร้ายปล่อยพวกตน และบอกให้คนร้ายตามไปรอเอาเงินที่บริเวณแถวใกล้ๆวัด พร้อมกับมีอาการดิ้นสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว โดยที่คนร้ายได้พยายามที่จะบังคับให้ขี่รถไปพร้อมกับเร่งให้เร็วๆ ก่อนที่ น.ส.น้ำค้าง จะดึงเพื่อนให้ลุกขึ้นมาก่อนที่คลิบจะตัดไป

โดยภาพที่ปรากฏนั้น ถูกบันทึกได้ขณะที่กลุ่มเด็กสาวขับรถออกมาจากงานและเริ่มรู้ตัวตั้งแต่ผ่านบ้านเขากระดาษ ว่ามีคนกำลังขับรถติดตามมา น.ส.มีนา ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถคันหลังมานั้น ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิบไว้เป็นระยะ จนทำให้ในขณะเกิดเหตุการณ์ขึ้น โทรศัพท์ได้บันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นไว้ได้ จนมีการนำออกไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นช่วงที่โทรศัพท์ตกลงสู่พื้นและได้ยินเสียงคนร้ายพูดได้อย่างชัดเจน และถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญอันดับแรก ที่จะนำไปสู่การสืบสวนหาตัวคนร้ายของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

ซึ่งระหว่างเกิดเหตุการณ์ขึ้น รถของเด็กสาวคันที่ขับนำหน้าไป ได้พยายามที่จะขับไปร้องขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกล แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นายเดื่อ ซึ่งเป็นบิดาของ น.ส.ข้าวโพด ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดขอความช่วยเหลือ ขณะกำลังกรีดยางอยู่ในแปลงยางอีกด้านซึ่งอยู่ถัดเลยจากแปลงไร่มันสำปะหลังของบิดา น.ส.น้ำค้าง และแปลงสวนยางข้างเคียงของเพื่อนบ้านอีกแปลง ห่างประมาณ 500-600 เมตร 

จึงได้รีบพากันขับรถ จยย.เพื่อมาดูตามเสียงร้อง พร้อมด้วยนายสุนทร เพื่อนที่กำลังกรีดยางอยู่ด้วยกันพุ่งตรงมาตามเสียงที่ดังขึ้นยังในที่เกิดเหตุ และจากแสงไฟฉายคาดศีรษะ และไฟของรถ จยย.ที่สาดส่องพุ่งตรงเข้ามายังในจุดเกิดเหตุ จึงทำให้คนร้ายรีบขับรถ จยย.หลบหนีไป 

ล่าสุดพ่อเหยื่อไอ้หื่น ตามลวนลามสาว 18 เชื่อเป็นคนบ้านใกล้พื้นที่ก่อเหตุ

วันเดี่ยวกันคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามนายพรณรงค์ จิตรเสนาะ อายุ 47 ปี ชาวบ้าน ม.12 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ถึงกรณีบุตรสาววัย 18 ปี ได้ถูกชายลึกลับขับรถตามประกบเข้ามาก่อเหตุใช้เท้าถีบจนรถ จยย.ล้มลงพร้อมกับพยายามเข้ามาลวนลามและข่มขู่รีดเอาทรัพย์สิน ขณะกำลังกลับจากการเดินทางไปท่องเที่ยวในงานเทศกาลบุญบั้งไฟประจำปี อ.ท่าตะเกียบ เมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมกับเพื่อนสาวรวม 4 คน ด้วยรถ จยย.จำนวน 2 คันที่ขับตามกันมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้าแล้ว 

โดยนายพรณรงค์ ระบุว่า เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อนั้นน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะรู้เส้นทางการหลบหนีเป็นอย่างดี หลังจากก่อเหตุแล้วคนร้ายได้ขับรถมุ่งหน้ามาตามเส้นทางลัด ซึ่งเป็นทางด้านหลังวัดประชานิมิตร เลยจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 100 เมตรก่อนที่จะกลับรถออกไปทางถนนใหญ่ตามเดิม หลังจากที่นายเดื่อ บิดาของหนึ่งในเด็กสาวที่ไปด้วยกัน ได้ขับรถออกมาจากป่าสวนยางเพื่อมุ่งหน้าตรงที่จะเข้ามาช่วยเหลือหลังจากได้ยินเสียงร้อง

จึงทำให้คนร้ายหวั่นเกรงว่าหากมุ่งหน้าตรงเข้าไปตามเส้นทางลัด ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะผ่านเข้าสู่หมู่บ้านและมีบ้านเรือนของกลุ่มเครือญาติของเหยื่อตั้งอยู่เป็นจำนวนมากนั้น อาจจะหลบหนีไปไม่รอด จึงได้กลับรถไปขึ้นทางถนนใหญ่ และไปเลี้ยวเข้าถนนคอนกรีตอีกซอยที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร ซึ่งจะเป็นเส้นทางผ่านไปยังทางด้านหลังโรงเรียนบ้านทุ่งส่าย และทะลุไปออกสู่ถนนทางหลวงชนบท ฉช.4011 ไปยังหมู่บ้านหนองขาหยั่งได้ และยังเป็นเส้นทางที่สามารถลัดเลาะเชื่อมไปสู่เขต จ.ชลบุรี ได้ด้วย

ซึ่งหากเป็นคนนอกพื้นที่นั้น ไม่น่าจะรู้ถึงเส้นทางการหลบหนีได้เป็นอย่างดีลักษณะ และมีความชำนาญเส้นทางมาก เนื่องจากพ่อของเด็กสาวในกลุ่มที่ไปเที่ยวด้วยกัน ได้ขับรถออกมาจากสวนยางและไล่ขับตามหลังไปแบบติดๆ ยังขับตามไปไม่ทัน เนื่องจากรถมีน้ำหนักมากว่าเพราะนั่งซ้อนกันไป 2 คน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นขับมาคนเดียว จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นคนในหมู่บ้านข้างเคียงโดยรอบพื้นที่แห่งนี้ แต่ไม่น่าจะใช่คนในหมู่บ้านเดียวกันเพราะจะรู้จักกันทั้งหมด นายพรณรงค์ กล่าว

และกล่าวต่อว่า ปกติตรงบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุ จะมีชาวบ้านออกมากรีดยางกันอยู่เป็นประจำเกือบทุกคืน และเมื่อคืนที่เกิดเหตุนั้น ตรงกับวันหยุดของคนกรีดยางพอดี ซึ่งปกติชาวบ้านจะกรีดยางติดต่อกัน 2 วันและหยุด 1 วันเพื่อพักหน้ายาง และจะวนไปในลักษณะนี้เรื่อยไป แต่เมื่อคืนนายเดื่อ่ พ่อของเด็กที่ไปด้วยกันไม่ยอมหยุดตามวงรอบการกรีดเหมือนกับชาวบ้านคนอื่นเขา จึงได้ยินเสียงและรีบขับรถตามเสียงร้องออกมาช่วยไว้ได้ทัน นายพรณรงค์ กล่าว 

ขณะเดียวกัน หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้ทำให้ผู้สูงอายุในหมู่บ้านเกิดความตกใจ และเป็นห่วงใยต่อบุตรหลานมากยิ่งขึ้น โดยนางอินทร์ ผู้เป็นย่าของหญิงสาวรายหนึ่ง ใน 4 คนที่เกือบตกเป็นเหยื่อของคนร้าย กล่าวว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน ทั้งที่อยู่มานานจนอายุ 80 ปีแล้ว ทั้งยังมาเกิดขึ้นกับหลานของตนเองอีก จึงอยากจะรู้ตัวคนร้ายว่าเป็นใคร แต่จะจับตัวได้หรือไม่นั้นก็อยู่ที่ทาง จนท.ตำรวจ 

ชาวบ้านก็ได้แต่ฝากความหวังไว้กับทางเจ้าหน้าที่ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นมาอีก เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่จะมาเกิดขึ้นถึงตัวเองกับลูกหลาน เพียงแต่เคยได้ยินข่าวตามสื่อจากที่อื่นทั่วไป จนขณะนี้ไม่อยากให้บุตรหลานในบ้านออกไปเที่ยวแล้ว แต่เขาก็ฝืนพากันออกไปเพราะขัดเขาไม่ได้ นางอินทร์ กล่าว

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา