In News
รัฐต่ออายุแถลงการณ์ร่วมพัฒนาระบบราง ระหว่างไทยไทยและเยอรมนีถึงปี2568
กรุงเทพฯ-"รัดเกล้า" เผย ครม. เห็นชอบร่างความยินยอมต่ออายุแถลงการณ์ร่วมเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟไทย-เยอรมนี ต่อยอดผลสำเร็จจากการเยือนเยอรมนีของนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (21 มิถุนายน 2567) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจากการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีของนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างความยินยอมร่วมกันเพื่อต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงดิจิทัลและคมนาคมแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แถลงการณ์ร่วมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและกระชับความร่วมมือด้านระบบราง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาการขนส่งทางรถไฟและระบบขนส่งมวลชนในเมืองภายใต้กลไกคณะทำงานร่วมระบบรางไทย-เยอรมนี และคณะทำงานกลุ่มย่อยตามกิจกรรมความร่วมมือใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) ด้านการวิจัยและพัฒนา (2) ด้านการประกอบการเดินรถ และ (3) ด้านอุตสาหกรรมระบบราง
คค. และกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายไทยและฝ่ายเยอรมนีได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ภายใต้แถลงการณ์ร่วมดังกล่าว โดย คค. เห็นว่า การได้รับสนับสนุนความร่วมมือทางวิชาการ รวมถึงความร่วมมือและการลงทุนด้านอุตสาหกรรมระบบรางภายใต้แถลงการณ์ร่วมฯ เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไทย รวมทั้งมีความสอดคล้องกับนโยบายของไทย ซึ่งการดำเนินการภายใต้แถลงการณ์ร่วมฯ สามารถปฏิบัติได้ภายใต้อำนาจหน้าที่ กฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้การดำเนินงาน กิจกรรม และโครงการภายใต้การพัฒนาความร่วมมือเป็นไปอย่างต่อเนื่อง คค. จึงเสนอให้มีการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวต่อเนื่องไปอีก 2 ปี (เป็นการต่ออายุครั้งที่ 3) โดยได้ระบุให้ความยินยอมร่วมกันเพื่อต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 โดยให้มีการต่ออายุต่อเนื่องไปโดยอัตโนมัติครั้งละ 2 ปี จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งยกเลิก
สาระสำคัญของแถลงการณ์ร่วมฯ สรุปได้ ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ – เพื่อพัฒนาและกระชับความร่วมมือด้านระบบราง
2. ขอบเขตความร่วมมือทางวิชาการ
-สนับสนุนความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมระบบราง ผู้ให้บริการเดินรถภายในประเทศ และผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการ องค์กรที่อยู่ในภาคส่วนของระบบราง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย เช่น การหาความเป็นไปได้ที่จะแลกเปลี่ยน ให้ความรู้ และฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค
-สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมระบบรางสำหรับโครงการความร่วมมือในขอบเขตการขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชนในเมือง เช่น การสนับสนุนให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมให้ระบบรางในประเทศไทยมีความทันสมัยอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
3. ค่าใช้จ่าย-แต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดำเนินการตามแถลงการณ์ร่วมฯ ของตนเอง เว้นแต่จะมีการตกลงกันโดยทั้งสองฝ่ายเป็นการล่วงหน้า
4. บททั่วไป-ไม่มีเจตนาให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายใด ๆ
5. การมีผลใช้บังคับระยะเวลาการสิ้นสุดและการแก้ไข
-มีผลใช้บังคับในวันที่ทั้งสองฝ่ายลงนาม
-แถลงการณ์ร่วมฯ มีอายุ 3 ปี
-อาจมีการต่ออายุได้อีกคราวละ 2 ปี ตามความเห็นชอบร่วมกันของทั้งสองฝ่ายเป็นลายลักษณ์อักษร
-สามารถแก้ไขเพิ่มเติมและยกเลิกได้โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร
-การสิ้นสุดของแถลงการณ์ร่วมฯ จะไม่กระทบต่อกิจกรรมซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว หรือได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองฝ่ายแล้ว
ทั้งนี้ แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวได้สิ้นสุดการมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562