In News

ภารกิจนายกฯก่อนประชุมสัญจรที่โคราช เปิดDigital Korat-แหล่งผลิตน้ำประปา



กรุงเทพฯ-นายกฯ ติดตามโครงการผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่อำเภอโนนสูง สั่งการให้ส่งเสริมใช้โซล่าร์เซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หวังให้โครงการฯ ส่งน้ำไปให้ ปชช. ในพื้นที่ใช้อย่างทั่วถึง ก่อนหน้านี้นายกฯ เปิดงาน Digital Korat: The Future Starts Now - โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต หวังขับเคลื่อนการใช้งานดิจิทัลในทุกมิติ ให้เป็นฟันเฟืองสำคัญช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและล่าสุดนายกฯ ติดตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ วัดธรรมจักรเสมาราม สั่งการหน่วยงานรัฐสนับสนุนงบประมาณบูรณะพระนอน ให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน

วันนี้ (1 กรกฎาคม 2567) เวลา 13.45 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ตรวจติดตามโครงการระบบผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่อำเภอโนนสูง ตำบลขามเฒ่า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายจิรเดช พงษ์ประสิทธิ์ นายอำเภอโนนสูง นายวีรยุทธ รายพิมาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขามเฒ่า และประชาชนให้การต้อนรับ

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมโครงการระบบผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่อำเภอโนนสูง และรับฟังการบรรยายสรุปฯ จากนายอำเภอโนนสูง ว่า อำเภอโนนสูงเป็นพื้นที่ที่อยู่บนเนินสูงกว่าระดับน้ำหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “โคก” การทำการเกษตรและน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคต้องอาศัยเฉพาะน้ำผิวดินเท่านั้น ที่ผ่านมาต้องประสบปัญหาภัยแล้งแทบจะทุกปี หรือที่เรียกกันว่า “แล้งซ้ำซาก” เมื่อเข้าฤดูฝนมักจะมีฝนทิ้งช่วง ในพื้นที่มีแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวนน้อย ลำห้วยมีขนาดเล็ก การเชื่อมลำน้ำเข้าแหล่งกักเก็บมีความตื้นเขินไม่ต่อเนื่องระหว่างพื้นที่ตำบลที่เชื่อมต่อกัน ทำให้มีน้ำเข้าแหล่งกักเก็บในปริมาณไม่มากเพียงพอเก็บกักน้ำไว้ใช้ตลอดฤดูแล้ง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ชุมชนต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ประกอบกับน้ำใต้ดินจากการขุดเจาะบ่อบาดาลคุณภาพน้ำไม่สามารถใช้ในการบริโภคได้ เนื่องจากน้ำกร่อยจนถึงเค็ม มีปริมาณซัลเฟตคลอไรด์ และปริมาณสารทั้งหมดที่ละลายได้เกินเกณฑ์มาตรฐานน้ำบาดาล จึงไม่เหมาะที่จะใช้บริโภค

นายอำเภอฯ กล่าวต่อว่า ทางองค์การบริหารส่วนตำบลขามเฒ่า ได้ของบประมาณโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2565 โดยได้จัดทำแบบเสนอโครงการระบบผลิตน้ำประปา (Water Treatment System) POG ขนาด L เป็นระบบน้ำประปาแบบป๊อปแท้งค์ขนาดใหญ่ ไซส์ L รองรับ 121 - 300 ครัวเรือน กำลังการผลิต 10 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ทำให้ประชาชนบ้านไพ จำนวน 213 ครัวเรือน มีน้ำประปาที่มีคุณภาพใช้ในการอุปโภคบริโภคได้อย่างเพียงพอ

นายกฯ กล่าวแสดงความยินดี ที่ได้มาพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนอำเภอโนนสูง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และได้มีการพูดคุยถึงปัญหาความเดือดร้อนกับ สส. ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของน้ำประปา น้ำกินน้ำใช้ ตนเองอยู่กรุงเทพฯ ไม่เคยลำบาก มีน้ำกินน้ำใช้ตลอด แต่ว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่มีปัญหา รู้สึกดีใจกับพี่น้องประชาชน ที่มี สส. ในพื้นที่คอยดูแลแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ตนเองได้สั่งการเรื่องของค่าไฟ ให้ส่งเสริมสนับสนุนใช้โซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าไฟฟ้า โดยหวังให้โครงการดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นกระจายน้ำประปาไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ ให้ประชาชนมีน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคอย่างพอเพียง

นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาเรื่องน้ำ อีกปัญหาที่ตนเองอยากนำเสนอเป็นพิเศษคือเรื่องยาเสพติด ซึ่งทุกจังหวัดประสบปัญหา โดยรัฐบาลให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นการกวาดล้าง การยึดทรัพย์ รวมถึงการบำบัดผู้ติดยาเสพติด ซึ่งเมื่อบำบัดแล้ว ต้องให้แน่ใจว่าผู้ป่วยจะไม่กลับไปเสพยาอีก ทั้งนี้ ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสถาบันครอบครัว ชุมชนที่แข็งแกร่ง การดูแลซึ่งกันและกันถือเป็นเรื่องที่สำคัญ รวมถึงพระภิกษุสงฆ์ อสม. ผู้ใหญ่บ้าน และกำนันขอให้ใส่ใจเป็นพิเศษต่อปัญหาเรื่องยาเสพติด

“รัฐบาลกำลังกวาดล้างครั้งใหญ่ทั่วประเทศ โดยการนำร่องที่จังหวัดร้อยเอ็ดภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดจะเป็นจังหวัดสีขาว ปราศจากยาเสพติด รัฐบาลจะนำโครงการจังหวัดร้อยเอ็ดไปขยายผลในทุกพื้นที่ หวังว่าพี่น้องจะให้การสนับสนุน ดูแลผู้บำบัดยาเสพติด ให้กลับคืนสู่สังคม สามารถทำมาหากิน ประกอบอาชีพได้ต่อไป” นายกฯ ย้ำ

จากนั้น นายกฯ ได้พูดคุยพบประประชาชนในพื้นที่ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังวัดธรรมจักรเสมาราม (วัดพระนอนคลองขวาง) ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และอาคารประดิษฐานพระนอนเมืองเสมา โบราณสถานเมืองเสมา

นายกฯ เปิดงาน Digital Korat: The Future Starts Now

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.00 น. ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง ตำบลหนองระเวียง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now - โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการและพบปะประชาชน โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและประชาชนเข้าร่วม 

นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการอบรมฯ ตอนหนึ่งว่า ทุกคนทราบกันดีว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคสังคมดิจิทัล ผู้คนในสังคมได้สัมผัสกับการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบสารสนเทศต่าง ๆ ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับทุกคน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ปรากฏเป็นรูปธรรม และเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำรงชีวิตของเราทุกคนในโลกปัจจุบัน และหลายองค์กรในโลกยุคปัจจุบันกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและความรวดเร็วในการให้บริการ หน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงการทำงานให้เป็นรูปแบบดิจิทัล หรือ Digital Transformation เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างดีที่สุด

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี ร่วมกับการบริหารในรูปแบบของการกระจายอำนาจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปรับปรุงการทำงานของภาครัฐ ให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล และทำให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐสะดวกมากยิ่งขึ้น ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลเราจะยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล” นายกฯ ย้ำ

นายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของประชาชนและบุคลากรภาครัฐให้มีทักษะและสามารถปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยคาดหวังว่าการจัดงานครั้งนี้ จะช่วยให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของดิจิทัลในทุกมิติและเป็นฟันเฟืองที่สำคัญอีกตัวหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนของคนไทย

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการอบรมสัมมนาหัวข้อ “Digital Korat: The Future Starts Now - โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” ให้กับบุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและประชาชนผู้มีความสนใจ เพื่อสร้างความเข้าใจในการขับเคลื่อนการใช้งานดิจิทัลในส่วนภูมิภาค ให้กับส่วนราชการและประชาชนได้ตระหนักถึงการใช้ประโยชน์ดิจิทัล ยกระดับการดำเนินงานภาครัฐ เช่น การใช้ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขับเคลื่อนสู่การทำงานแบบไร้กระดาษ (Paperless) การนำข้อมูลดิจิทัลมาวิเคราะห์เพื่อการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัด พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ให้สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐผ่านช่องทางดิจิทัลตามแนวทางรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนนโยบายการลดความเหลื่อมล้ำ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนอีกด้วย   

โอกาสนี้ นายกฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ “Digital เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยนายกฯ ได้สอบถาม และเยี่ยมชมนิทรรศการด้วยความสนใจ ทั้งนี้ ระหว่างการเยี่ยมชม นายกฯ ได้ทักทายผู้ร่วมงาน พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่กับเด็กนักเรียนอย่างเป็นกันเอง

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางไปตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการระบบผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่อำเภอโนนสูง ตำบลขามเฒ่า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ต่อไป

นายกฯ ติดตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ วัดธรรมจักรเสมาราม 

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.25 น. ณ วัดธรรมจักรเสมาราม (วัดพระนอนคลองขวาง) อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ติดตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และอาคารประดิษฐานพระนอนเมืองเสมา โบราณสถานเมืองเสมา โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานราชการ ประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกว่า 300 คน ให้การต้อนรับ 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ รับฟังบรรยายสรุปความสำคัญของโครงการอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานพระนอน วัดธรรมจักรเสมาราม จากนั้น นายกฯ ถวายพานผ้าห่มพระนอน ถวายพานบายศรีดอกไม้สักการะองค์พระนอน และถวายพานดอกบัวสักการะพระครูสิริภัทรประยุต รองเจ้าคณะอำเภอสูงเนิน เจ้าอาวาสวัดสว่างบูรพาราม  และพระครูธรรมจักรเสมารักษ์ เจ้าอาวาสวัดธรรมจักรเสมาราม โดยเจ้าอาวาสวัดธรรมจักรเสมารามมอบกรอบรูปภาพถ่ายองค์พระนอนให้นายกฯ เพื่อเป็นที่ระลึก โอกาสนี้ นายกฯ ได้สนทนาธรรมถึงเรื่องการบูรณะพระนอน สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนงบประมาณ เนื่องจากไม่ได้มีการบูรณะพระนอนมานาน ซึ่งคาดว่าจะมีการบูรณะพระนอนให้แล้วเสร็จระยะเวลาภายในไม่เกิน 240 วัน 

ต่อจากนั้น นายกฯ เยี่ยมชมการทอผ้าเงี่ยงนางดำ โดย ด.ญ.กัลยา เพียซ้าย จากโรงเรียนสูงเนิน และชมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าเงี่ยงนางดำ โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ทั้งนี้ นายกฯ ได้ทักทายประชาชนและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง 

“พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) เป็นพระนอนหินทรายที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 13-15 (ประมาณ 1,300 - 1,100 ปีมาแล้ว) ในช่วงระยะเวลาเดียวกับเมืองโบราณเสมาพระนอนหินทรายตั้งอยู่ภายนอกเมืองโบราณเสมา ห่างจากคูน้ำคันดินด้านทิศใต้ของเมืองประมาณ 500 เมตร สร้างด้วยหินทรายแดงขนาดใหญ่หลายแผ่นหลายก้อนประกอบกันขึ้นและแกะสลักเป็นพระนอนในแนวทิศเหนือ-ใต้ โดยมีวิหารสร้างคลุมองค์พระและมีใบเสมาหินทรายปักอยู่โดยรอบ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าพระพักตร์พระนอน ยังพบธรรมจักรหินทรายขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2 เมตร และเสาธรรมจักร ปัจจุบันพระนอนเมืองเสมา เป็นโบราณสถานที่เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา และเป็นต้นทุนทางศิลปวัฒนธรรมที่มีศักยภาพในการพัฒนา ส่งเสริม เพื่อต่อยอดสร้างสรรค์ ให้เป็น Soft Power ทางวัฒนธรรมของชาติได้อีกแหล่งหนึ่ง” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว