In News
นายกฯให้สัมภาษณ์สื่อใน3ประเด็นสำคัญ 'ปธ.BYDพบ-บัตรทำเนียบ-ไม่ไว้วางใจ'
นายกฯให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนใน3ประเด็นสำคัญ เริ่มจากกำชับ BYD ส่งเสริมผู้ผลิต คุ้มครองผู้บริโภคไทย พร้อมฝาก3 ประเด็นหลักในการหารือครั้งนี้ 1. ขอให้บริษัทคำนึงถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ ใช้ Supply Chain ในประเทศไทยมากที่สุด 2. ขอให้บริษัทผลิตเต็มจำนวน Capacity ตามที่ได้ตกลงกันไว้ 3. การบริหารความคาดหวังของผู้บริโภคในด้านราคาเป็นประเด็นสำคัญ ขอให้พิจารณาการคุ้มครองผู้บริโภคไทย และนายกฯยัน ปัญหาแอบอ้างซื้อขายบัตรเข้า - ออก ทำเนียบ ถ้ายิ่งสาวยิ่งเจอต้องจัดการ อาจเพิ่มความเข้มงวดในการออกบัตร หรือกำหนดโทษ หากพบมีการทำผิด นอกจากนี้นายกฯยืนยันไม่ขัดข้องกรณีฝ่านค้าน ขอให้เพิ่มวันประชุมสภาฯ ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญตอบกระทู้ในสภาฯ และก่อนหน้านี้นายกฯ เป็นประธานมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ โครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมปล่อยขบวนรถส่งมอบกายอุปกรณ์ให้คนพิการทั่วประเทศ
วันนี้ (5 กรกฎาคม 2567) เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบหารือกับ นายหวัง ชวนฟู (Mr. Wang Chuanfu) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีวายดี จำกัด (BYD) โดยภายหลังการหารือ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่บริษัทฯ เห็นศักยภาพ เลือกลงทุนในประเทศไทยซึ่งจะเป็นการเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ และได้กล่าวถึง 3 ประเด็นหลักในการหารือครั้งนี้ 1. ขอให้บริษัทคำนึงถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ ใช้ Supply Chain ในประเทศไทยมากที่สุด 2. ขอให้บริษัทผลิตเต็มจำนวน Capacity ตามที่ได้ตกลงกันไว้ 3. การบริหารความคาดหวังของผู้บริโภคในด้านราคาเป็นประเด็นสำคัญ ขอให้พิจารณาการคุ้มครองผู้บริโภคไทย อย่างเหมาะสม
นายหวัง ชวนฟู กล่าวว่า ขอบคุณคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ของนายกรัฐมนตรีอย่างยิ่ง โดยบริษัท BYD ให้ความสำคัญกับตลาดไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยทางบริษัทฯ ได้ใช้ Supply Chain จากประเทศไทยมากกว่าข้อบังคับ และมีการผลิตชิ้นส่วนหลายตัวในประเทศไทย และนำการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีใหม่มาผลิตในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ ความสามารถในการผลิตของโรงงาน BYD ในประเทศไทยคือ 1.5 แสนคันต่อปี โดยจะใช้เวลา 2 ปีเพื่อผลิตอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ นอกจากขายในประเทศไทย บริษัทฯมีนโยบายที่จะส่งออกขายในภูมิภาคอาเซียน อินโดนีเซีย และเวียดนามด้วย
ในส่วนของการกำหนดราคารถยนต์นั้น บริษัทฯ รับปากนายกรัฐมนตรีว่าจะพิจารณาตามที่นายกรัฐมนตรีแนะนำ คือปรับราคาในอนาคตให้มีรูปแบบและความถี่ที่เหมาะสม ให้ตลาดปรับตัวได้ทัน รวมทั้ง สัญญาที่จะหามาตรการในการเยียวยาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
โดยในโอกาสนี้ บริษัทฯ ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีว่าประเทศไทยมีศักยภาพ และเป็นตลาดที่พร้อมเติบโต จึงพร้อมขยายการลงทุน รับพนักงานเพิ่ม และพร้อมอบรมพนักงานด้วยเทคโนโลยีทันสมัย โดยขอเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่บริษัทฯ ในช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีเห็นเหมาะสม
นายกฯยันปัญหาแอบอ้างซื้อขายบัตรเข้า-ออกทำเนียบ
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึง การแอบอ้างชื่อซื้อขายบัตรผู้ติดตามเข้า - ออก ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเมื่อยิ่งสาวก็ยิ่งเจอ จำเป็นต้องมีสะสางใหม่หรือไม่ ว่า ถ้าเกิดยิ่งสาวยิ่งเจอก็ถือเป็นปัญหาใหญ่ ก็ต้องมีการจัดการให้ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นต้องมีทบทวนการพิจารณาการออกบัตรให้กับผู้ติดตามรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษาต่าง ๆ ซึ่งเยอะเกินความจำเป็นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เวลาผมมีการลงพื้นที่ ก็บอกว่าให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับหน้างานจริง ๆ ติดตามลงพื้นที่เท่านั้น เพราะจะกลายเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ และเสียโอกาสในการต้องไปบริหารในพื้นที่ จึงอยากให้ลงพื้นที่เท่าที่จำเป็นดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามย้ำ การออกบัตรเข้า - ออกที่ทำเนียบรัฐบาล ต้องมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ต้องไปดูก่อนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร และค่อยไปหาทางแก้อีกหนึ่ง ซึ่งการเพิ่มความเข้มงวดในการออกบัตรก็เป็นอีกวิธี หรือการกำหนดโทษก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเช่นกัน
นายกฯไม่ขัดข้องกรณีฝ่านค้าน ขอให้เพิ่มวันประชุมสภาฯ
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการที่ฝ่ายค้านต้องการให้เพิ่มวันในการประชุมสภา ในมุมของทางรัฐบาลมีความเห็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่าเรื่องดังกล่าว ขึ้นอยู่กับทางฝ่ายนิติบัญญัติ ตนเองพร้อมปฏิบัติอยู่แล้ว พร้อมทั้งเห็นด้วยที่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติต้องพยายามช่วยกันในการผลักดันให้กฎหมายออกมาโดยเร็ว ซึ่งการเพิ่มวันประชุมสภาฯ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานก็เป็นอีกหนึ่งวิธี โดยนายกฯ ย้ำว่า พร้อมปฏิบัติ ตามสภานิติบัญญัติแห่งชาติกำหนดมา
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าในส่วนของการตอบคำถามกระทู้สภา นายกฯ จะมีวิธีการดำเนินการอย่างไรเพราะทางนายกฯ มีภารกิจอื่น ๆ ที่ต้องปฏิบัติ นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวเราต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตนไปตอบด้วยตนเอง หรือได้มีการมอบหมายให้ทางรัฐมนตรีแต่ละท่านที่เกี่ยวข้องตอบกระทู้ในสภาฯ จะต้องพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว
นายกฯ เป็นประธานมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ
ก่อนหน้านี้เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ โครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะร่วมด้วย
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการโครงการมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี จากหน่วยงานต่าง ๆ นำมาจัดแสดง เช่น ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกายอุปกรณ์และสิ่งปลูกฝังทางออร์โธปิดิกส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันสิรินธร เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ เป็นต้น โดยนายกฯ ให้ความสนใจและสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะสถานการณ์คนพิการในประเทศไทย พร้อมกับสอบถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในเรื่องสิทธิสวัสดิการคนพิการตามมาตรา 20 คนพิการมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะตลอดจนสวัสดิการและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ เช่น ด้านการแพทย์ ด้านการศึกษา ด้านอาชีพ ด้านกฎหมาย ล่ามภาษามือ เบี้ยคนพิการ อุปกรณ์เครื่องช่วย เป็นต้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้กล่าวแสดงความยินดีที่มาเป็นประธานในพิธีมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ ในโครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมปล่อยขบวนรถส่งมอบกายอุปกรณ์ให้กับคนพิการทั่วประเทศ เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 72 พรรษา เป็นวาระสำคัญที่ปวงชนชาวไทยทุกคนจะได้พร้อมใจกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ รัฐบาลได้จัดโครงการและกิจกรรมเนื่องในวาระมหามงคล โดยน้อมนำแนวพระราชดำริและพระบรมราโชบายด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนคนไทยให้อยู่ดีมีสุข ซึ่งมุ่งเน้นให้ประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ โครงการมอบกายอุปกรณ์สำหรับคนพิการ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการให้ได้รับโอกาส สิทธิ สวัสดิการที่เท่าเทียม ทั่วถึง เสริมศักยภาพในการดำรงชีวิต ซึ่งจะทำให้คนพิการได้รับความสะดวกในการดำเนินชีวิต และดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข
ทั้งนี้ นายกฯ ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันดำเนินโครงการดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งเป็นการร่วมสืบสานพระราชประสงค์และพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการบำบัดทุกข์และสร้างความผาสุกร่มเย็น ให้แก่ปวงพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า รวมถึงพี่น้องคนพิการทุกคน
ต่อจากนั้น นายกฯ ได้มอบกายอุปกรณ์แก่ผู้แทนคนพิการ จำนวน 10 คน และถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้จัดงาน จากนั้น นายกฯ เดินออกไปบริเวณถนนด้านข้างตึกสันติไมตรี ปล่อยขบวนรถ 10 คัน เพื่อส่งมอบกายอุปกรณ์ จำนวน 72,000 ชุด ให้แก่พี่น้องคนพิการทั่วประเทศ