Automotive info

รมว.อุตฯร่วมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าBYD คันที่8ล้านพร้อมขยายฐานผลิตในไทย



ระยอง-เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 - นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโรงงานผลิตรถยนต์บีวายดี (BYD) และพิธีเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 8 ล้าน โดยมีนายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าร่วมเป็นเกียรติด้วย ณ โรงงานบีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมขอแสดงความยินดีกับบริษัท BYD ในโอกาสพิธีเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ BYD และเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ คันที่ 8 ล้าน ซึ่งรถคันดังกล่าวจะส่งมอบให้กับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย BYD เป็นผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก และเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศจีนที่ได้มาลงทุนขยายฐานการผลิตยานยนต์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน โดยในปี 2566 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD มีจำนวนถึง 3 ล้านคันทั่วโลก และมีสัดส่วนการตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกว่าร้อยละ 41 และกลุ่มบริษัท BYD ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ทั้งการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่รวมทั้งชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญรวม 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 35,000 ล้านบาทและต้องขอบคุณรัฐบาลจีน และสถานทูตจีนประจำประเทศไทยที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน และบรรยากาศที่ดีในการลงทุน

 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนยานยนต์สมัยใหม่ เพื่อให้ไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์แห่งอนาคตของโลก โดยขับเคลื่อนเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle: ZEV) ร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด หรือ แผน 30@30 และการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ที่มีคุณสมบัติสะอาด ประหยัด และปลอดภัย ผ่านมาตรการสำคัญต่าง ๆ รวมทั้ง การขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ และการกำหนดมาตรฐานการใช้งานและความปลอดภัย ตลอดจนการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) และศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC ซึ่งการขยายฐานการลงทุนการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ที่ประเทศไทยนี้จะเป็นก้าวสำคัญของการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เพื่อส่งออกไปตลาดอาเซียน และประเทศต่าง ๆ ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการเดินหน้าเศรษฐกิจไทยไปพร้อมกับการนำพาประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้อย่างเป็นรูปธรรม