In News

นายกฯแถลงหลังการประชุมครม.ในวันนี้ เปิด5ประเด็นสำคัญชี้'ทับลาน'ต้องยึดกม.



กรุงเทพฯ-นายกฯแถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในหลายประเด็น โดยนายกฯ ได้ย้ำโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ต้องไม่มีการทุจริต ระบุเป็นโครงการที่ดีเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรอย่างแท้จริง และเปิดใจรัฐบาลพร้อมรับฟังคำติของทุกฝ่าย อะไรที่เป็นการติที่เหมาะสมจะนำไปปรับปรุง พร้อมชี้แจงการทำงานให้ทุกฝ่ายรับรู้ ย้ำรัฐบาลทำงานเกิดผลอย่างชัดเจนในหลายโครงการ นอกจากนี้นายกฯ ยอมรับการปรับขึ้นค่าแรง 600 บาท ไม่สามารถทำได้ทันที แต่จะทำให้ภายในระยะเวลา 4 ปี เดินหน้าแก้ไขปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชน ส่วนประเด็นโยกย้ายกองทัพ​นายกฯ เชื่อ โผแต่งตั้งโยกย้ายทหารชั้นนายพล ผู้บัญชาการเหล่าทัพจะให้ความเป็นธรรม รู้ว่าใครเหมาะสม ย้ำไม่เข้าไปก้าวก่าย และ​ปมปัญหากรณีอช.ทับลาน นายกฯ ได้กำชับ ก.ทรัพย์ฯ ต้องทำตามกฎหมายปมพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ชี้ เป็นมติ ครม. สมัยที่แล้วที่ “บิ๊กป้อม” เป็นประธานกำกับดูแล

วันนี้ (9 กรกฎาคม 2567) เวลา 11.30 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งว่า โครงการชดเชยเยียวยาไร่ละ 1,000 บาท และโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เป็นคนละโครงการซึ่งในโครงการแรกมีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้วเป็นโครงการที่ได้ให้เงิน 1,000 บาทไม่เกิน 20 ไร่ เป็นโครงการช่วยเหลือในเหตุการณ์วิกฤตในช่วงปีที่ผ่านมาในช่วงที่ราคาข้าวนี่อยู่ประมาณ 7,000 - 8,000 บาท/ตัน แต่ในปัจจุบันราคาข้าวดีขึ้นแล้วจึงทำให้เกิดโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เพื่อลดต้นทุนของเกษตรกรและเพิ่มจำนวน output หรือจำนวนผลผลิตต่อไร่ของข้าว ซึ่งเป็นโครงการที่มีความยั่งยืนมากกว่าและใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรอย่างแท้จริง โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะชี้แจ้งรายละเอียดต่อไป 

นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ไม่ใช่แค่ราคาข้าวต่อตัน เพียงอย่างเดียวที่มีความสำคัญ รัฐบาลมั่นใจว่าราคาข้าวจะดีขึ้นแต่การที่เราใช้เกษตรแม่นยำใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องตามการวิเคราะห์จากดินโดยใช้ “หมอดิน”  ที่เรามีอยู่หลายหมื่นคน ทั่วประเทศทำให้เราทราบถึงความต้องการของปุ๋ยที่ถูกต้องอย่างเช่น “NPK” ถ้ามีการสำรวจหน้าดินก่อนรับรู้ว่าดินขาดแคลนอะไร แล้วให้ปุ๋ยที่แม่นยำ สมมุติว่าข้าวทำได้ไร่ละประมาณ 500 กก. สามารถที่จะเพิ่มไปเป็น 700 กก.  ได้  เพราะฉะนั้นไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของราคาเพียงอย่างเดียว ยังเป็นเรื่องของ output /ไร่ ด้วยเหมือนกัน 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า แต่ระหว่างทางที่ปุ๋ยจะถึงมือเกษตรกร ได้มีการกำชับในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ เพราะมีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องของการทุจริต นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของการทุจริตได้มีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน เรื่องของการทุจริตประพฤติมิชอบ ปุ๋ยจะต้องไม่ตกอยู่ในมือของผู้ค้าปุ๋ยเพียงแค่ 2 – 3 ราย ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำการหาผู้ค้าปุ๋ยเป็นจำนวนถึง 40 – 50 ราย  ตนเองได้เน้นย้ำเรื่องของการทุจริตในเรื่องดังกล่าวแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เมื่อมีโครงการปุ๋ยคนละครึ่งแล้วเรื่องของโครงการชดเชยเยียวยาไร่ละ  1,000 บาท เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤตการณ์น้ำท่วม น้ำแล้ง โครงการดังกล่าวจะมีการยกเลิกไปเลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทั้งสองเรื่องนั้นจะต้องแยกกัน เรื่องที่แจ้งในวันนี้เป็นเรื่องของการเพิ่มผลผลิต เป็นการที่เราให้ความแม่นยำกับการปลูกข้าว แต่เรื่องของกรณีเกิดวิกฤตเป็นที่แน่นอนว่าต้องมีการกลับมาพิจารณาใหม่ตามความเหมาะสม

นายกฯเผยรัฐบาลพร้อมรับฟังคำติของทุกฝ่าย 

นายเศรษฐา กล่าวถึงกรณีการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ที่หลายฝ่ายมองว่าการทำงานบางส่วนของรัฐบาลยังไม่ออกสู่สายตาประชาชน รัฐบาลจะมีวิธีการหรือดำเนินการอย่างไรให้เข้าถึงการทำงานของทางรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของการสื่อสารที่จัดเจนถือเป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่ทางผู้สื่อข่าวก็ได้บอกว่าทางรัฐบาลทำงานอยู่เยอะ ในหลาย ๆ โครงการในทุกกระทรวงก็ได้มีการทำงานกันอย่างหนัก ทั้งส่วนการลงทุนจากต่างประเทศ การเพิ่มราคาสินค้า การพักหนี้เกษตรกร การดูแลเรื่องผลผลิตทางการเกษตรพืชหลัก พืชรอง การเพิ่มศักยภาพของเยาวชนในการศึกษา การเพิ่มค่าแรง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม การยกระดับโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค รวมถึงนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ก็ได้มีการทำเรื่องดังกล่าวในอีกหลาย ๆ มิติ ที่ทางเราพยายามทำอยู่ ก็จะไปดูแลในเรื่องการสื่อสารเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เรื่องการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจนจะทำให้ประชาชน รับรู้ได้อย่างไร นายกฯ กล่าวต่อไปว่า เราก็ต้องค่อย ๆ ไป ยังมีอีกหลายโครงการที่ทยอยมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงทุนจากต่างประเทศ การทำ FTA ที่เพิ่มมากขึ้น ตนเองเชื่อว่าในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นคนของพรรคการเมืองเดียวกัน คนของพรรคร่วมรัฐบาล หรือกระทั้งฝ่ายค้าน ความอัดอั้นตันใจ ความไม่เข้าใจ หรือแม้ว่าการสื่อสารที่ไม่ดีพอ รัฐบาลก็ต้องรับฟังถึงแม้ว่าจะเป็นคำติพรรคร่วมเดียวกัน เราก็ต้องรับฟังและไปพิจารณา ถ้าอะไรที่เป็นคำติที่เหมาะสมและสมควรที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเราก็จะทำ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เราทำอยู่แล้วแต่อาจไม่ได้มีการสื่อสารที่ดี เราก็พร้อมจะไปชี้แจ้งในเวทีที่เหมาะสม โดยในวันนี้ตนเองจะเดินทางไปพรรคเพื่อชี้แจ้งการทำงานในช่วงเวลา 15.00 น. ซึ่งได้ทำเรื่องการลาราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายกฯ ยอมรับการปรับขึ้นค่าแรง600บาทขอเวลา4ปี

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีถูกมองว่าเป็น CEO เก่า มีผลต่อการทำงานการบริหารราชการแผ่นดิน ในเรื่องของการเปิดไซต์งานเมื่อตอนเป็น CEO มีการเปิดไซต์งานอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมาบริหารราชการแผ่นดินเป็นเวลา 1 ปี แล้วนั้นยังไม่มีการปิดไซต์งานอย่างเป็นรูปธรรม นายกฯ กล่าวว่า ก็ได้มีการปิดไซต์งานไปเยอะมากพอสมควร และเมื่อสมัยก่อนที่ตนเคยเป็น CEO ก็ได้มีการเปิดไซต์งานและปิดไซต์งานอย่างต่อเนื่องตลอด

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า กรณีค่าครองชีพในปัจจุบันนี้ ไม่สัมพันธ์กับรายได้ปัจจุบัน ทางรัฐบาลจะมีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวก็มีอยู่ 2 มิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน อย่างเช่น เรื่องโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ก็เป็นโครงการที่พยายามจะเพิ่มรายได้ทางภาคการเกษตร ทำให้ผลิตผลต่อไร่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ราคาดีขึ้น มีการเปิดตลาดการค้าใหม่  การเปิดตลาดการค้าเสรี (FTA) เพื่อยกระดับรายได้ให้สูงขึ้น ในด้านรายจ่าย รัฐบาลก็ได้มีให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน (SUBSIDIZE)  ในแง่ของค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน การพักหนี้เกษตรกร การทลายหนี้นอกระบบ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่รัฐบาลพยายามทำอยู่ 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า นโยบายที่ทางพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ การเพิ่มค่าแรง 600 บาท ประเมินแล้วภายในระยะเวลา 4 ปี จะสามารถเพิ่มค่าแรงไปถึงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็พยายามดำเนินการทำอยู่ ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับทางด้าน นาย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในเรื่องดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า เรื่องค่าแรง 400 ก็ยังดำเนินการทำได้อยู่ แต่คงจะไม่ไปถึง 600 บาท ในทันที แต่จะทำภายในระยะเวลา 4 ปี ตามที่พูดไว้

​นายกฯเชื่อโผแต่งตั้งโยกย้ายทหารชั้นนายพลย้ำไม่เข้าไปก้าวก่าย

นายเศรษฐา ยังได้กล่าวถึงการพบกับผู้นำเหล่าทัพ  ในการบันทึกเทปอาเศียรวาทถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย (NBT) ได้มีพูดคุยการจัดโผทำแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลหรือไม่ เนื่องจะมีการเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ คุยกันแต่เรื่องยาเสพติด โดยในเรื่องการโยกย้ายเป็นเรื่องของผู้บัญชาการเหล่าทัพที่บริหารจัดการอยู่แล้ว ท่านทราบบุคลากรที่เหมาะสมว่าใครควรได้รับการเลื่อนตำแหน่ง หรือโยกย้ายตำแหน่ง ตนเองไม่เคยก้าวก่ายเรื่องพวกนี้  

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะต้องเป็นผู้นำโผทหารเข้าทูลเกล้าฯ จะช่วยดูด้วยหรือไม่ หรือจะให้นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมเป็นผู้ดูเพียงคนเดียว นายกฯ กล่าวว่า ตนเองเชื่อว่ามีคณะกรรมการสภากลาโหมอยู่แล้ว ซึ่งทุกท่านคงมีการพูดคุย และเชื่อว่าทุกคนต้องให้ความเป็นธรรมกับลูกน้อง 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายกฯ มองถึงเรื่องรุ่นนักเรียนเตรียมทหารว่าจะเป็นการรุ่นเดียวกัน หรือคละรุ่น นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ตนเองไม่เคยมองเรื่องพวกนี้เลย เอาบุคคลที่เหมาะสมก็แล้วกัน จะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง หรือรุ่นเดียวกัน เชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงมีความตั้งใจจริงที่จะเอาคนที่ทำงานมาอยู่ในตำแหน่งที่วางไว้

​นายกฯกำชับก.ทรัพย์ฯ ต้องทำตามกฎหมายพื้นที่อช.ทับลาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาเรื่องอุทยานแห่งชาติทับลาน รัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาหรือต้องบริหารจัดการอย่างไร ระหว่างเรื่องที่ดินทำกินของชาวบ้านกับพื้นที่อนุรักษ์ว่า รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งตนเองไม่มีอะไรจะพูดนอกจากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นมติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสมัยที่แล้ว โดยมีอดีตรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ สคทช. ที่จะต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยข้อง และสิ่งสำคัญคือต้องรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะมีการเพิกถอน ซึ่งยังมีอีกหลายกระบวนการที่ต้องดำเนินตามกฎหมายก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่หลายฝ่ายมีความกังวลเรื่องของนายทุนที่จะนำพื้นที่ดังกล่าวไปครอบครอง รัฐบาลจะกำชับอย่างไร นายกฯ กล่าว ย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ซึ่งตนเองเข้าใจว่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานมีประชาชนบางส่วนเข้าไปอยู่อาศัยก่อนอยู่แล้ว ส่วนมีความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 14 มีนาคม 2566 หรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ยังไม่มีแนวคิด เพราะตอนนี้อยู่ในกระบวนการของการศึกษาอยู่

ผู้สื่อข่าวถามจะมีการทบทวนแผนที่วันแมป (one map) ด้วยหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า เรื่องวันแมปก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย