In News
นายกฯฟุ้ง!ส่งออกผลไม้ไปจีน6เดือนแรก กว่าแสนล้าน/ลุยเปิดขายทางอี-คอมเมิร์ซ
กรุงเทพฯ-นายกฯ ใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้เกษตรกรไทย เดินหน้าส่งเสริมสินค้าเกษตรไทยไปตลาดโลกสำเร็จเป็นรูปธรรม6 เดือนแรก ปี 2567 ส่งออกผลไม้ไทยไปตลาดค้าส่งผลไม้เจียซิงสร้างรายได้เข้าประเทศกว่าแสนล้านบาท พร้อมมุ่งต่อยอดขยายตลาดสินค้าเกษตรไทยใน e-Commerce จีน
วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขานรับนโยบาย IGNITE Thailand Agriculture Hub ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งยกระดับภาคเกษตรกรรม ด้วยการใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เดินหน้าหนุนเกษตรกรไทย ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ พบว่าจีนเป็นหนึ่งในตลาดเกษตรที่นำเข้าสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทยเป็นจำนวนมาก และถือเป็นตลาดศักยภาพที่ไทยสามารถขยายช่องทางการส่งออกสินค้าเกษตร เป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย เผยผลสำเร็จ 6 เดือนแรกปี 2567 ไทยส่งผลไม้ไปยังตลาดค้าส่งผลไม้เจียซิง มณฑลเจ้อเจียง ตลาดค้าส่งผลไม้ภาคตะวันออกของจีน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ตลาดผลไม้ใหญ่ของจีน โดยคิดเป็นมูลค่านำเข้าผลไม้ไทยกว่า 1 แสนล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี 2566 ภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ครอบคลุมนครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลอานฮุย มีการนำเข้าสินค้าเกษตรไทยเป็นมูลค่ากว่า 4,012 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ รวมปริมาณสินค้า 4,101,220 ตัน และในระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน ปี 2567 ตลาดค้าส่งผลไม้เจียซิง มณฑลเจ้อเจียง ตลาดค้าส่งผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของจีน และติด 1 ใน 3 อันดับแรกของจีน นำเข้าผลไม้ไทยเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท รวมปริมาณสินค้าเป็นจำนวน 7,888 ตู้ โดยเป็นทุเรียน 5,288 ตู้ โดยคาดว่าด้วยการทำงานร่วมกันเน้นคุณภาพและมาตรฐานสินค้าไทยจะทำให้มีสินค้าเกษตรใหม่ๆ เช่น มังคุดแช่เยือกแข็ง สับปะรดปอกเปลือก ทุเรียนแกะเนื้อแช่เย็น สามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วย
พร้อมกันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมหารือกับองค์กรส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจการเกษตร ส่งเสริมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารที่สอดคล้องกับอุปสงค์และอุปทานของไทยและจีน เพิ่มพูนความร่วมมือด้านการลงทุนในเทคโนโลยีการเกษตร ตลอดจนผลักดันการเข้าร่วมการจัดงานแสดงสินค้าระดับชาติและระดับนานาชาติซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญของไทยในการประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรศักยภาพเพื่อเพิ่มปริมาณและมูลค่าการค้า นอกจากนี้ ไทยได้ส่งเสริมแนวทางการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าเกษตรไทยในจีนในรูปแบบ e-Commerce บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของจีน พร้อมเน้นย้ำถึงการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคชาวจีน
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเกษตรกรไทย มุ่งเพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพด้วยการใช้แนวทาง “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” พร้อมกันนี้ได้ชื่นชมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ร่วมมือกันขยายตลาดการส่งออกสินค้าเกษตรไทย ขอให้คงคุณภาพ และมาตรฐานในการส่งออก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในชื่อเสียงสินค้าไทย ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก เป็นผู้นำด้านการเกษตรอย่างแท้จริง” นายชัย กล่าว