Think In Truth

ROCKSTAR ...'ลิซ่า-ลลิสา มโนบาล'คือ การหลอมรวมโลก โดย: ฟอนต์ สีดำ



กระแสไวรัลที่เกิดจากการเปิดตัวซิงเกิลใหม่ของสาวน้อยมหัศจรรย์ ลลิสา มโนบาล หรือที่เคยรู้จักกันในนาม LISA Black Pink ที่เคยโด่งดังในบทเพลง Money มาคราวนี้ เธอได้เปิดตัวเพลงใหม่ในค่ายของตัวเธอเอง LLOUD ด้วยบทเพลงที่กวาดเอาความรู้สึกของคนทั้งโลกมาเทกองให้กับเธอ ในบทเพลง ROCKSTAR ซึ่งโดยจังหวะ ทำนอง และสไตล์นั้นก็เป็นที่รู้กัน ที่คนโดยส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยกับสไตล์ดนตรีในแนวนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ลูกสาวแห่งชาติคนนี้สามารถกวาดเอาใจของคนทั้งโลกมามอบให้กับเธอนั้น เพราะเนื้อหาในบทเพลง ที่บ่งบอกถึงการยอมรับกับวัฒนธรรมทั้งโลกมาผสมผสานให้เป็นจังหวะที่ถ่ายทอดออกให้ให้กับคนทั้งโลกได้ภาคภูมิใจนั่นเอง โดยบทเพลง ROCKSTAR ที่เธอได้ถ่ายทอดออกมานั้น มีเนื้อหาดังนี้

Gold teeth sittin' on the dash, she a Rockstar ฟันเลี่ยมทองที่อยู่บนเหงือก มันคืออัตตลักษณ์ ดาราแห่งร็อค

Make your favorite singer wanna rap, baby ที่สรังสรรค์เพลงแร็ปยอดนิยมในใจของพวกเธอเลยนะเด็กน้อย

"La-la-Lisa, can you teach me Japanese?" I said, "はい, はい" ลิซ่า คุณสอนภาษาญี่ปุ่นให้หน่อยได้ไหม , ได้ ได้

That's my life, life, baby, I'm a Rockstar  นี่มันชีวิตของฉันเลยนะ เพราะฉันคือ ดาวเด่นแห่งร็อค

Been on a mission, boy, they call me catch-and-kill  มันเป็นภาระกิจของฉัน ที่เขาเรียกว่าผู้ไล่ล่าและสะกด

I'm stealin' diamonds, make them chase me for the thrill ฉันกำลังเก็บกวาด ให้คนติดตามด้วยความตื่นเต้น

Been MIA, BKK so pretty ฉันหายไปนาน กรุงเทพฯ มันช่างสวยงาม

Every city that I go is my city ทุกๆ ที่ที่ฉันไปมันคือบ้านของฉัน

Gold teeth sittin' on the dash, she a rockstar

Make your favorite singer wanna rap, baby

"La-la-Lisa, can you teach me Japanese?" I said, "はい, はい"

That's my life, life, baby, I'm a Rockstar

I'm a rockstar, I'm a rockstar  ฉันคือดาวเด่นแห่งร็อค ฉันคือดาวเด่นแห่งร็อค

It's not hype, hype, baby, make you rock-hard ม่ได้โม้นะไอ้น้อง เพราะฉันทำให้คุณดิ้นสุดเหวี่ยงได้

Make a wish, babe, what you wanna do? อธิษฐานเลยสิไอ้หนู ว่าเธออยากได้อะไร

Dippin' outta big cities like a ponzu ฉันจะปั่นความนิยมทุกเมืองออกมาให้เป็นน้ำจิ้มที่แสนจะรสเด็ด

It's a fast life, it's an attitude สิ่งที่อยากได้ในชีวิตที่รีบเร่ง

Put it on the calendar and tell me when to come through จำมันไว้ในปฏิทิน แล้วบอกฉันเวลาที่เธอมาถึง

Yes, yes, I can spend it ใช่เลย ฉันจะใช้ความเป็นร็อคสตาร์ของฉันให้เธอดื่มด่ำกับมัน

Yes, yes, no pretendin' ใช่ ฉันพูดความจริง

Tight dress, LV sent it ชุดสวยๆ ที่ฉันใส่นี้ หลุยส์ วิทตอง ส่งมาให้

Oh shit, Lisa rappin' โอ้!....ให้ตายเถอะ ลิซ่า กำลังแร็ป

ยิ่งฟังหลายๆ รอบ และแปลมันออกมาให้อินไปกับเนื้อเพลง อีกทั้งยังเห็น MV ที่ทีมงานได้สร้างสรรค์มันขึ้นมา มันช่างเป็นผลงานที่สวยงาม ที่สะท้อนถึงความเสมอภาค ถึงการยอมรับซึ่งกันและกัน ที่ถูกหลอมรวมเอาเข้ามาผสผสานกันอย่างลงตัว อีกทั้งผสมกับจังหวะแห่งดนตรี และลีการแร็ปที่เร้าใจ ผสานกับความสวยที่หล่อนกำลังเบ่งบานในวัยสาว ที่แต่งสีผิวเป็นสีแทน ซึ่งเป็นสีผิวของคนไทย ที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงการไม่เหยียดสีผิว และศิลปะการแร็ป ที่เป็นศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของชนผิวดำ

ในเนื้อของบทเพลงยังมีท่อนหนึ่งกล่าวถึงญี่ปุ่น และมีภาษาญี่ปุ่น "La-la-Lisa, can you teach me Japanese?" I said, "はい, はい" นี่เป็นการตลาดในบทเพลงที่ฉลาด ที่สื่อถึงอัตตลักษณ์ของเอเชีย ที่คนทั้งโลกโลกค้นหา โดยที่คนเอเชียมีน้ำใจในการที่จะสร้างความเข้าใจด้วยภาษาอย่างเข้าใจ และมีน้ำใจ ซึ่งในประโยคนี้ มันไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ญี่ปุ่นประเทศเดียว เพียงแต่เธอได้หยิบเอาญี่ปุ่นนั้นเป็นตัวแทนของคนเอเชียที่มีน้ำใจอย่างมีมิตรภาพ

ในความเป็นสากลที่เป็นอินเตอร์ของลิซ่าได้สื่อถึงเสรีภาพและความรู้สึกของความเป็นพลเมืองโลก ที่เธอได้บอกว่า Every city that I go is my city ทุกๆ เมืองที่เธอไป มันคือบ้านของเธอ นี่ช่างเป็นการอ้อนชาวโลกโดยแท้ ที่ทำให้เธอกล้ามากที่บอกกับคนทั้งโลกว่า Been on a mission, boy, they call me catch-and-kill, I'm stealin' diamonds, make them chase me for the thrill มันเป็นสิ่งที่เธอต้องทำเพื่อสะกดและจับผู้คน และกวาดคนทั้งโลกให้ติดตามเธอด้วยความสนใจและตื่นเต้น

เธอได้แสดงออกถึงการยอมรับต่อวัฒนธรรมของเมืองทั้งโลก ที่มีความหลากหลาย ที่เธอสามารถที่จะนำมาผสมและปรุงแต่งให้ออกมาเป็นความยอดเยี่ยมดังน้ำจิ้มรสเลิศ Dippin' outta big cities like a ponzu ที่ใครได้ลิ้มลองแล้วต้องชื่นชอบ อีกทั้งยังอาสาที่จะทำหน้าที่ให้ทุกคนมีความสุขตามใจปรารถนา เพียงแค่ได้บอกเธอเมื่อเธอผ่านมาเท่านั้น Put it on the calendar and tell me when to come through มันช่างเป็นการแต่งเนื้อหาที่มีความสัมพันธ์ สร้างความหวัง ที่ใครต่อใครจะได้รับเมื่อได้พบเธอ

และสิ่งหนึ่งที่เธอยังใส่เข้าไปในบทเพลง คือการแสดงถึงการระลึกนึกถึงผู้สนับสนุนเธอมาโดยตลอด นั่นคือ Louis Vuitton แบรนด์ดัง ลักชัวร์รี่ จากฝรั่งเศส ที่ให้การสนับสนุนชุดสวยๆ ส่งมาให้เธอได้สวมใส่ Tight dress, LV sent it นี่เป็นความเอาใส่ในรายละเอียด ที่จะทำให้ร็อคสตาร์คนนี้ ยืนอยู่บนเวทีโลกอย่างสง่างาม ที่ยาวนาน

นอกจากน้องได้เลือก Location ที่เยาวราช น้องยังไม่ลืมที่จะเอ่ยถึงสถานที่ที่เป็นบ้านเกิดของเธอ Been MIA, BKK so pretty ซึ่งในโลเกชั่นนั้น ได้สร้างความปราบปลื้มใจให้กับชาวจีนในแผ่นดินใหญ่เป็นอย่างมาก จนเว็บไซด์ เว่ยป๋อ ที่เคยลบแอ็คเค้าท์ของลิซ่าออกไปแล้ว และการนำเสนอเกี่ยวกับลิซ่าก็หายไปอยู่นาน พอเพลงนี้ได้นำเสนอออกไป กระแสการสนับสนุนจากพ่อๆ แม่ๆ จีนแผ่นดินใหญ่ก็กระหึ่ง จนเว่ยป๋อ ต้องนำเอาเรื่องราวของลิซ่า นำมาโพสต์ขึ้นหน้าเว็บไซด์เว่ยป๋อ

สิ่งที่น่าสนใจในฉาก MV ของลิซ่า นอกจากจะใช้แดนช์เซอร์คนไทยร้อยเปอร์เซนต์แล้ว ยังมี LGBTQ+ เข้าร่วมในฉากด้วย รวมทั้งแก๊งบิ๊กไบค์ที่สักลายเต็มตัว รถตุ๊กๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย รวมทั้งป้ายไฟห้างร้านต่างๆ ที่มีทั้งภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ นั่นเป็นการสร้าภาพของประเทศไทยที่ออกมาสวยงาม และบ่งบอกถึงความเป็นไทยมากที่สุด ถึงแม้จะไม่ครบถ้วน แต่ก็ทำให้คนทั้งโลกสามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง

สิ่งที่ประหลาดใจมาก เป็นความฉลาดทางการตลาดของทีมงานคือการใช้รถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบท์ ยี่ห้อ ROYAL ENFIELD ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซด์ของอินเดีย ซึ่งแทนที่น้องเขาจะใช้รถมอเตรอ์ไซด์ฮาเล่ย์ เดวิตสัน หรือยี่ห้ออื่น ที่เป็นที่นิยมของนักบิดทั้งโลก แต่น้องเขาไม่ใช้ แต่เลือกที่จะใช้ ROYAL ENFIELD ของอินเดีย นั่นหมายถึงในเพลงนี้เพลงเดียว มีฉากเล็กฉากน้อย ที่สร้างความนิยมให้กับตลาดอย่างกว้างขวาง

จึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจใช่ไหมว่า ทำไม ลิซ่า เปิดตัว ROCKSTAR ออกมาเพียง สัปดาห์เดียว มียอดวิวของคนเข้าชมแล้วถึง 100 ล้านวิว นี่เป็นการแสดงออกถึงพลังซอร์ฟเพาวอร์ ที่หลอมรวมคนทั้งโลกให้เทใจให้กับน้องเขาได้อย่างไม่มีข้อกังขา ลิซ่ากลายเป็นผู้นำ X-POP ที่เป็นการปฏิวัติวงการแร็ปที่หลอมรวมวัฒธรรมของคนทั้งโลกออกมาเป็นผลงานที่สื่อถึงความเป็นวัฒนธรรมโลกได้อย่างสมบูรณ์  ด้วยมันสมอง ด้วยความเข้าใจ ด้วยศิลปะในการสื่อสาร และการวางเนื้อหาที่ทำให้คนทั้งโลกอินไปกับเพลง และภาคภูมิใจที่ได้อยู่ร่วมกับการฟังและการร่วมอารมณ์กับเพลงอย่างมีอรรถรส