In News
นายกฯทัวร์เชียงรายส่งท้ายลุยต่อสระแก้ว บุก'แม่จัน'ดูยึดยาบ้า-เยี่ยมกลุ่มชาติพันธุ์
กรุงเทพฯ-นายกฯ ติดตามสถานการณ์ยาเสพติด ที่ด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน จ.เชียงราย รับทราบผลการตรวจยึดยาเสพติด 32 กระสอบ รวมยาเสพติด 8 ล้านเม็ดบริเวณริมแม่น้ำโขง ให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ขอให้ระมัดระวัง ไม่ประมาท เตรียมพร้อมยุทโธปกรณ์-กองกำลัง ก่อนหน้านายกฯ รับฟังปัญหาในพื้นที่ อ.แม่จัน และพบปะประชาชน ณ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติป่าตึง จ.เชียงราย ย้ำคนชาติพันธุ์เป็นคนไทยเหมือนกัน พยายามผลักดันให้คนที่เกิดในเมืองไทยได้รับสัญชาติโดยถูกต้องและพบปะหารือการแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ยืนยันรัฐบาลดูแลพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ โดยไม่มีการแบ่งแยก ย้ำทุกหน่วยงานต้องดูแลพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ ด้วยความเสมอภาคและเท่าเทียม และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเตรียมลงนามประกาศยกเว้นวีซ่า 60 วัน สำหรับ 93 ประเทศ วันจันทร์นี้ ย้ำรัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกกิจกรรม soft power อย่างเหมาะสม ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างแรงบันดาลใจ
วันนี้ (14 กรกฎาคม 2567) เวลา 11.00 น. ณ ด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบผลการตรวจยึดยาเสพติดจำนวน 32 กระสอบ รวมยาเสพติดจำนวน 8,000,000 เม็ด บริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านปงของ ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสอบถามสถานการณ์การจับกุมยาเสพติดที่บริเวณชายแดนภาคเหนือ โดยชุดจับกุมทหารกองกำลังผาเมือง เกิดเหตุปะทะกลุ่มขนยาชายแดนเชียงใหม่ ยึดยาเสพติดกว่า 3 แสนเม็ด เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 กรกฎาคม 2567) พร้อมกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน ขอให้มีความระมัดระวัง ไม่ประมาท และเตรียมพร้อมทั้งยุทโธปกรณ์และกองกำลังด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบอาหารแห้ง ปลากระป๋อง น้ำดื่ม และอุปกรณ์สำหรับการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน
นายกฯ รับฟังปัญหาในพื้นที่ อ.แม่จัน
เวลา 10.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีรับฟังปัญหาในพื้นที่อำเภอแม่จัน และพบปะประชาชน ณ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โดยนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะร่วมด้วย
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึง บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติป่าตึง หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้อง อสม. กลุ่มสตรีแม่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่คำ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่แสลบ และโครงการอ่างเก็บน้ำโป่งขม
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้พบปะประชาชนโดยกล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาเยือนจังหวัดเชียงรายและได้พบะพบกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์และประชาชนชาวอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายในวันนี้ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และได้มารับฟังปัญหาในพื้นที่อย่างตรงจุด ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ขณะนี้ได้ผ่านไป 20 กว่ามาตราแล้ว ซึ่งจะพยายามให้เสร็จภายในวาระนี้ ขณะที่เรื่องปัญหาน้ำนั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่าเรื่องนี้รัฐบาลจะดูแลให้ โดยมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไปทั้ง 3 แหล่งน้ำที่เสนอมา เพราะเรื่องแหล่งน้ำเป็นเรื่องสำคัญทั้งการอุปโภคบริโภค ด้านการเกษตร และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น สำหรับเงินตกเบิก 2,000 บาทที่ให้กับ อสม. นั้นหวังว่าจะเป็นที่พอใจกับทุกคน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาของจังหวัดเชียงรายอีกเรื่องหนึ่งคือปัญหาเรื่องชาติพันธุ์ที่ไม่ได้รับการดูแลให้ความเสมอภาคเท่าเทียม ซึ่งวันนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องอยู่ ณ ที่นี้ จึงขอวิงวอนว่ากลุ่มคนชาติพันธุ์เหล่านี้เป็นคนเช่นกัน ควรได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกับคนไทย ส่วนคนที่เกิดในเมืองไทยก็พยายามผลักดันให้ได้รับสัญชาติโดยถูกต้อง ขณะที่การดูแล ทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายสาธารณสุขก็ขอให้ดูแลในส่วนนี้ให้ดี เพราะเราก็เป็นคนไทยเหมือนกันทุกคน
นายกฯ พบปะหารือการแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ อ.แม่จัน
เวลา 09.30 น. ณ บ้านโป่งป่าแขม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบปะและหารือการแก้ไขปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะร่วมด้วย
นางรัดเกล้า อินวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึง ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์มอบเสื้อชนเผ่า และกระเป๋าให้กับนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ จากนั้น ผู้นำชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ทำพิธีต้อนรับตามประเพณีวัฒนธรรมชนเผ่าฮิ้วเมี่ยน ผู้อาวุโสผู้นำจิตวิญญาณของกลุ่มชาติพันธุ์กล่าวให้พรนายกรัฐมนตรีว่า ขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีมาเยี่ยม ขอให้มีความสุขและอยู่กับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ไปนาน ๆ และขอให้เดินทางกลับโดยปลอดภัยและสวัสดิภาพ อีกทั้งผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์เชิญนายกรัฐมนตรีดื่มชาเพื่อเป็นเกียรติและเป็นวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับ และเชิญเข้ามาอยู่ในบ้านท่ามกลางกลุ่มผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่อยากให้คิดว่ามาในครั้งนี้มาในนามนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี แต่มาในฐานะคนไทย ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์อยู่กับเรามานาน ถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเชิญมาร่วมประเพณีไทย เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นและประทับใจ ขอบคุณสำหรับคำอำนวยพรที่เป็นกำลังใจให้อยู่ในตำแหน่งและทำประโยชน์แก่พี่น้องชาวไทยและพี่น้องชาติพันธุ์ทุกคน และขอขอบคุณที่อวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ วันนี้เป็นการเดินทางมาครั้งแรก รู้สึกยินดีที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
ทั้งนี้ พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ในใจตลอด ยืนยันต้องดูแลด้วยความเสมอภาคและเท่าเทียม และสามารถอยู่อาศัยในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในวันนี้ถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้มานั่งในบ้านและได้ลิ้มรสวิถีชีวิตของพี่น้องชาติพันธุ์ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับฟังปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ อาทิ การไม่มีสัญชาติไทย ถูกจำกัดสิทธิ การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ข้อพิพาทระหว่างชาติพันธุ์กับหน่วยงานราชการ และปัญหาไฟฟ้าที่ไม่ทั่วถึง
ภายหลังการรับฟังปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับปัญหาความไม่เสมอภาคเท่าเทียม การดูแลพี่น้องชาติพันธุ์ยังไม่ทั่วถึง น.ส. ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย เขต 2 ก็ได้พยายามผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ให้สำเร็จ ส่วนเรื่องของสิทธิพื้นฐาน บางคนมีลูกหลานที่เกิดในเมืองไทยมากกว่า 40 ปี แต่ยังไม่ได้รับการมอบสัญชาติไทย เมื่อไม่มีสัญชาติไทย สิทธิพื้นฐานทางต่าง ๆ เช่น ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ก็ไม่สามารถใช้สิทธิเหล่านั้นได้ ทั้งนี้ รัฐบาลให้สัญญาว่าเราจะให้การพิสูจน์ทราบสัญชาติให้จบได้ภายใน 5 วันไม่ใช่ 180 วัน นอกจากนั้น ปัญหาความไม่เสมอภาคเท่าเทียม รัฐบาลยืนยันจะต้องไม่มีการแบ่งแยก ทุกหน่วยงานต้องดูแลพี่น้องชาติพันธุ์ด้วยความเสมอภาค และเท่าเทียม
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่าสำหรับปัญหาโรงพยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ เป็นปัญหาที่หลายจังหวัดประสบพบเจอ ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะจัดสรรงบประมาณในการดูแลให้ทั่วถึง และอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญคือไฟฟ้าไม่ทั่วถึงนั้น รัฐบาลสัญญาว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวฝากทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลพี่น้องชาติพันธุ์ให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกับพี่น้องคนไทยทุกคน โดยนายกรัฐมนตรีจะกลับมาเพื่อติดตามความก้าวหน้าอีกครั้ง
นายกฯ เตรียมลงนามประกาศยกเว้นวีซ่า 60 วัน สำหรับ 93 ประเทศ วันจันทร์นี้
เวลา 08.40 น. ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีมหาดไทยเตรียมออกประกาศยกเว้นวีซ่า 60 วัน สำหรับ 93 ประเทศเริ่ม 15 ก.ค. 67 ว่า วันจันทร์จะมีการลงนาม ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทย นอกจากนั้นนายกฯ ยังได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้นว่า เราได้เริ่มดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ฟรีวีซ่าจีน คาซัคสถาน และอินเดีย ทั้งนี้เชื่อว่าฝ่ายการตรวจคนเข้าเมืองและฝ่ายความมั่นคงมีการออกมาตรการรองรับอยู่แล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผลตอบรับที่ดี เราก็ต้องลองขยายต่อไปเรื่อย ๆ
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกระแสชื่นชมน้องหมีเนย ที่กำลังเป็นขวัญใจของคนไทยรวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ว่า ตรงนี้เป็นแรงบันดาลใจซึ่งเข้าใจว่าเจ้าของร้านอาหารเป็นร้านที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วร้านหนึ่งซึ่งก็สามารถทำได้ดี และเป็นเรื่องที่น่ายินดี ส่วนตัวเคยไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าเจอคิวยาวเหมือนกัน ซึ่งเห็นแล้วมีแต่ชาวต่างชาติมาถ่ายรูป และมีคนไป review และโปรโมทซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีถือว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักท่องเที่ยวและทุก ๆ soft power ทุก ๆ event ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม อาหาร กีฬา รัฐบาลจะสนับสนุนตามความเหมาะสม หากอะไรที่รัฐบาลสามารถช่วยสนับสนุนได้และถูกต้องตามกฎหมายก็ยินดีสนับสนุน