In Global
ผลสำรวจชี้จีนผงาดขึ้นเป็นผู้นำระดับโลก ในการนำAIมาใช้
จีนกำลังผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการนำ AI (GenAI) มาใช้ ตามการสำรวจครั้งใหม่ สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากหนึ่งปีแห่งความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านนี้ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัว ChatGPT ของ OpenAI ในปลายปี 2565 ที่ผ่านมา
การสำรวจนี้จัดทำโดยบริษัท AI และซอฟต์แวร์การวิเคราะห์ของสหรัฐอเมริกา SAS และ Coleman Parkes Research ได้สำรวจผู้มีอำนาจตัดสินใจ 1,600 รายในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามในจีนรายงานว่าใช้ generative AI
ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า 16 ประเทศและภูมิภาคอื่นๆ ในการสำรวจ รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดย 65% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาได้นำ GenAI มาใช้ โดยค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 54%
อุตสาหกรรมที่สำรวจ ได้แก่ ภาคการธนาคาร ประกันภัย การดูแลสุขภาพ โทรคมนาคม การผลิต การค้าปลีก และพลังงาน การสำรวจยังพบว่าองค์กรต่างๆ ในสหรัฐฯ ก้าวนำในแง่ของวุฒิภาวะและมีการนำเทคโนโลยี GenAI ไปใช้อย่างเต็มรูปแบบที่ 24% เทียบกับจีน 19% และสหราชอาณาจักร 11%
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรม AI ของจีนประสบความสำเร็จในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี การสร้างผลิตภัณฑ์ การใช้งานในอุตสาหกรรม และด้านอื่นๆ ภาคส่วนนี้ได้นำเสนอคุณสมบัติใหม่พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่างรวดเร็ว
เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฏาคม 2567 รายงานขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกแห่งสหประชาชาติ แสดงให้เห็นว่าจีนเป็นผู้นำในการแข่งขันด้านสิทธิบัตร GenAI โดยยื่นจดสิทธิบัตรมากกว่า 38,000 ฉบับระหว่างปี 2557 ถึง 2566 เทียบกับ 6,276 รายการที่ยื่นโดยสหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน
ปัจจุบันจีนมีบริษัท AI มากกว่า 4,500 แห่ง อุตสาหกรรม AI หลักของบริษัทมีมูลค่าถึงระดับมากกว่า 5.78 แสนล้านหยวน (ประมาณ 79.5 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ ประเทศจีนจะกำหนดมาตรฐานระดับชาติและมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับ AI มากกว่า 50 มาตรฐานภายในปี 2569 และพัฒนาระบบมาตรฐานเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพสูงของภาคส่วนนี้ ตามแนวทางที่เปิดเผยร่วมกันโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ อีก 3 แห่ง
แหล่งข้อมูล: https://news.cgtn.com/news/2024-07-10/New-survey-reveals-China-as-global-leader-in-adoption-of-generative-AI-1v7cfeeCSbe/p.html