In Global
สี จิ้นผิง : นักปฏิรูป(ตอนจบ)

เอาใจใส่ความต้องการของประชาชนเป็นลำดับแรก
สีจิ้นผิงเน้นย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดของการปฏิรูปคือเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยสีจิ้นผิงเอาใจใส่กับสิ่งที่ประชาชนต้องการเป็นลำดับแรกและทำตามความปรารถนาของพวกเขาซึ่งแตกต่างจากแนวทาง "เงินทุนมาก่อน" ที่มักพบในประเทศเศรษฐกิจแบบทุนนิยมอย่างสิ้นเชิง
ปี2017สีจิ้นผิงชี้ว่าหลังจากผ่านการปฏิรูปและเปิดกว้างมานานเกือบ40ปีปัญหาที่สังคมจีนเผชิญได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญเช่นกันโดยสีจิ้นผิงอธิบายว่า "สิ่งที่เราเผชิญตอนนี้คือความย้อนแย้งระหว่างการพัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่เพียงพอกับความต้องการมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของประชาชน"
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้สีจิ้นผิงสนับสนุนการพัฒนาเชิงประสานและแบ่งปันและมุ่งมั่นบรรลุวิสัยทัศน์ "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" ของเติ้งเสี่ยวผิง
เมื่อครั้งสีจิ้นผิงเข้าดำรงตำแหน่งสูงสุดในปี2012ภูมิภาคตะวันออกและตะวันตกของจีนเกิดความเหลื่อมล้ำกันอย่างมากรวมถึงเกิดปัญหาความไม่เท่าเทียมด้านความมั่งคั่งร่ำรวยในระดับรุนแรง
สีจิ้นผิงได้เปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การบรรเทาความยากจนและดำเนินการตามแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "การขจัดความยากจนแบบมุ่งเป้า"
มีการขึ้นทะเบียนบุคคลและหมู่บ้านที่ได้รับการยืนยันว่ามีฐานะยากจนและสร้างแฟ้มข้อมูลในระบบข้อมูลการบรรเทาความยากจนระดับชาติขณะเดียวกันมีการโยกย้ายผู้ยากไร้ออกจากพื้นที่ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตรัฐบาลส่งเสริมอุตสาหกรรมต่างๆตามสภาพการณ์ท้องถิ่นและจัดการฝึกอบรมผู้ด้อยโอกาสเพื่อเพิ่มรายได้รวมถึงกระจายกำลังเจ้าหน้าที่รัฐกว่า3ล้านคนเข้าประจำการตามหมู่บ้านที่กำหนดเพื่อดำเนินมาตรการบรรเทาความยากจน
ภายใต้การนำของสีจิ้นผิงจีนสามารถขจัดความยากสัมบูรณ์ในพื้นที่ชนบทซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานหลายพันปี
การปฏิรูปของจีนเริ่มต้นในพื้นที่ชนบทในช่วงปลายทศวรรษ1970และแผนริเริ่มการปฏิรูปของสีจิ้นผิงเกี่ยวข้องกับการเกษตรพื้นที่ชนบทและเกษตรกรก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นวงกว้างยิ่งขึ้น
สีจิ้นผิงได้จัดตั้งกลไกการผลิตธัญพืชอันมีเสถียรภาพเพื่อรับรองว่า "อุปทานด้านอาหารของจีนยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างมั่นคง" ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของหมู่บ้านและส่งเสริมการฟื้นฟูชนบทอย่างรอบด้าน
ช่วงต้นทศวรรษ2000สีจิ้นผิงนำเสนอบทความวิชาการหัวข้อการปฏิรูประบบทะเบียนบ้านเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจรวมถึงการแบ่งแยกตลาดแรงงานในเมืองและชนบทที่มีต้นเหตุจากระบบทะเบียนบ้านโดยตอนนั้นมีข้อถกเถียงอย่างมากว่าควรยกเลิกข้อจำกัดด้านทะเบียนบ้านหรือไม่
ปี2016รัฐบาลกลางออกแผนการมอบถิ่นที่อยู่อาศัยในเมืองแก่ประชาชนจากพื้นที่ชนบทและผู้อยู่อาศัยถาวรอื่นๆซึ่งไม่มีทะเบียนบ้านในท้องถิ่นประมาณ100ล้านคนโดยแผนการดังกล่าวดำเนินงานเสร็จสิ้นก่อนกำหนด
ขณะตรวจเยี่ยมนครเซี่ยงไฮ้ในปี2023สีจิ้นผิงเยือนอะพาร์ตเมนต์ที่แรงงานต่างถิ่นพำนักอาศัยอยู่และยินดีที่ทราบว่าเหล่าแรงงานต่างถิ่นกำลังเข้ามาตั้งรกรากในเมืองใหญ่
"เยี่ยมมาก! อยู่ที่นี่ลงหลักปักฐานและพยายามเพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น" สีจิ้นผิงกล่าว
ภายใต้การนำของสีจิ้นผิงจีนได้ยกเลิกระบบอบรมการศึกษาใหม่ผ่านการใช้แรงงานซึ่งคงอยู่มานานกว่าครึ่งศตวรรษเพิ่มเกณฑ์ยกเว้นภาษีเงินรายได้บุคคลธรรมดาจาก3,500หยวน (ราว17,000บาท) เป็น5,000หยวน (ราว24,000บาท) ต่อเดือนและวางหลักการประชาชนเป็นศูนย์กลางในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ "บ้านไว้อยู่อาศัยไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร"
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางประชากรจีนได้ปรับเปลี่ยนนโยบายประชากรและการวางแผนครอบครัวมีการปฏิรูปเพื่อรับรองการศึกษาที่ดียิ่งขึ้นและเท่าเทียมกันนอกจากนั้นสีจิ้นผิงยังเป็นผู้นำการจัดตั้งระบบประกันสังคมขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและริเริ่มการปฏิรูปการบริการดูแลผู้สูงอายุขั้นพื้นฐานทำให้ปัจจุบันจำนวนประชาชนที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของประกันผู้สูงอายุขั้นพื้นฐานและประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานในจีนสูงเกิน1พันล้านและ1.3พันล้านคนแล้ว
ด้วยความเชื่อมั่นว่า "สุขภาพที่ดีของประชาชนเป็นตัวบ่งชี้พื้นฐานของความทันสมัย" สีจิ้นผิงเรียกร้องการศึกษาและส่งเสริมแนวทางในเมืองซานหมิงของมณฑลฝูเจี้ยนเพื่อผลักดันการปฏิรูปการดูแลสุขภาพ
สีจิ้นผิงสนับสนุนให้ยกเลิกการบวกราคาของยาและวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ทางการแพทย์ซึ่งบังคับใช้มานานกว่า60ปีเพื่อลดค่าใช้จ่ายการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโดยหน่วยงานรัฐบาลดำเนินงานตามข้อเรียกร้องของสีจิ้นผิงและจัดตั้งทีมงานขึ้นมาเจรจาราคายาและวัสดุสิ้นเปลืองกับกลุ่มบริษัทเภสัชภัณฑ์
คลิปวิดีโอการเจรจาราคาที่แพร่กระจายบนโลกออนไลน์ในปี2021แสดงภาพคณะผู้แทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจีนยืนกรานว่า "ไม่ควรมีผู้ป่วยถูกทอดทิ้งแม้เป็นส่วนน้อย" และสามารถตัดลดราคายารักษาโรคหายากจากราว7แสนหยวน (ราว3.5ล้านบาท) ต่อหลอดเหลือ33,000หยวน (ราว1.65แสนบาท) ต่อหลอดหลังจากเจรจากันอย่างเข้มข้นถึง8รอบ
ยารักษาโรคหายากนี้ถูกบรรจุเข้าบัญชีรายชื่อยาตามประกันสุขภาพของจีนในเวลาต่อมาจุดประกายความหวังแก่ผู้ป่วยทั่วประเทศมากกว่า30,000รายโดยการตัดลดราคายาหลายร้อยรายการในลักษณะเดียวกันได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ของประชาชนสะสมราว5แสนล้านหยวน (ราว2.5ล้านล้านบาท) ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
สีจิ้นผิงเดินหน้าการปฏิรูประบบดูแลสุขภาพในชนบทเพื่อรับรองว่าประชาชนในพื้นที่ชนบทอันกว้างใหญ่ของจีนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลราคาย่อมเยาโดยการปฏิรูปดังกล่าวช่วยลดกรณีเจ็บป่วยอันเกิดจากความยากจนอย่างมากทำให้ปัจจุบันประชาชนที่มีรายได้ต่ำและที่เพิ่งหลุดพ้นจากความยากจนในพื้นที่ชนบทมีประกันสุขภาพเกือบทั้งหมดแล้ว
ขณะการปฏิรูปของสีจิ้นผิงในภาควัฒนธรรมตอกย้ำการส่งเสริม "โลกแห่งจิตวิญญาณ" ของประชาชนในฐานะข้อกำหนดสำคัญของการสร้างความทันสมัยของจีนสิ่งนี้เชื่อมโยงกับการขัดเกลาแผนงานและนโยบายอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและเกื้อหนุนธุรกิจและการบริโภคทางวัฒนธรรมรูปแบบใหม่
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจำนวนจอฉายภาพยนตร์ในจีนเพิ่มขึ้นจากราว13,000จอในปี2012เป็นมากกว่า86,000จอในปี2023ซึ่งมากที่สุดในโลกโดยเมื่อต้นปีนี้เดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนกำลังผลิตภาพยนตร์คุณภาพสูงที่ตรงกับความสนใจของผู้ชมภายในประเทศเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นสีจิ้นผิงยังปรับปรุงระบบการศึกษาซึ่งเกี่ยวพันโดยตรงกับการเพิ่มพูนผู้มีความรู้ความสามารถและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี
สีจิ้นผิงส่งเสริมการพัฒนาอันสมดุลของการศึกษาภาคบังคับลดปริมาณการบ้านของนักเรียนเพื่อรับประกันการพัฒนาอย่างรอบด้านและสร้างระบบอาชีวศึกษาและระบบมหาวิทยาลัยอันทันสมัย
สัดส่วนรายจ่ายทางการคลังเพื่อการศึกษาของจีนยังคงสูงเกินร้อยละ4ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ติดต่อกันหลายปีซึ่งถือเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ที่สุดของการใช้จ่ายงบประมาณสาธารณะของจีน
การปฏิรูปอันโดดเด่นที่นำโดยสีจิ้นผิงอีกหนึ่งประการคือระบบนิเวศ
เมื่อครั้งสีจิ้นผิงเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคฯในปี2012มลพิษทางสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในปัญหาร้องเรียนบ่อยที่สุดในหมู่สาธารณชนโดยช่วงต้นปีนั้นแม่น้ำในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีนตรวจพบมลพิษจากสารแคดเมียมอันเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของน้ำดื่มของประชาชนกว่าล้านคนและเกิดปรากฏการณ์ "ไม่ใช่ในสวนหลังบ้านของฉัน" (Not in My Back Yard) ที่สำคัญหลายครั้งทั่วประเทศในปีดังกล่าวซึ่งมีต้นตอจากความกังวลด้านมลพิษทางอุตสาหกรรม
สีจิ้นผิงซึ่งเป็นที่รู้จักจากแผนริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมอันเด็ดขาดเข้มงวดในนครเซี่ยเหมินเพื่อทำความสะอาดทะเลสาบอวิ๋นตังและในนครหางโจวเพื่อปกป้องทะเลสาบซีหูได้จัดตั้งกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมกำหนดให้การคุ้มครองทางนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมเป็น "เส้นแดง" ที่ห้ามล่วงล้ำริเริ่มการตรวจสอบการคุ้มครองทางนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานกลางและกระตุ้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรับผิดชอบการคุ้มครองแม่น้ำทะเลสาบและป่าไม้ในฐานะ "หัวหน้าการจัดการ"
ภายใต้การนำของสีจิ้นผิงจีนกลายเป็นประเทศที่มีพัฒนาการด้านคุณภาพอากาศดีขึ้นรวดเร็วที่สุดทรัพยากรป่าไม้เพิ่มขึ้นมากที่สุดและพื้นที่ปลูกป่าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกขณะเดียวกันจีนยังครองตำแหน่งผู้นำโลกด้านกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานน้ำพลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์และชีวมวลท่ามกลางความพยายามปฏิวัติทางพลังงานของสีจิ้นผิง
จีนได้พัฒนาตลาดซื้อขายคาร์บอนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและมุ่งมั่นจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนหลังจากปล่อยคาร์บอนแตะระดับสูงสุดภายในระยะเวลาอันสั้นกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วโดยสีจิ้นผิงกล่าวว่า "การพัฒนาอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำเป็นวาระแห่งยุคและผู้ดำเนินการพัฒนาดังกล่าวจะประสบความเจริญรุ่งเรือง"
สีจิ้นผิงเชื่อว่าการปรับแก้วิธีการเติบโตที่ไม่ยั่งยืนมีความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติจีนและการปกป้องโลกซึ่งเป็น "บ้านเพียงหลังเดียวของเรา"
(แฟ้มภาพซินหัว :สีจิ้นผิงชมเมืองจากสวนสาธารณะเหลียนฮวาซานในนครเซินเจิ้นมณฑลกว่างตงทางตอนใต้ของจีนวันที่ 14 ต.ค. 2020)
ก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ
"ไม่มีประเทศไหนในโลกที่สามารถเดินหน้าการปฏิรูปอย่างครอบคลุมรอบด้านแบบเดียวกับที่จีนทำตามคำมั่นสัญญาและตระหนักถึงความเร่งด่วนในวันนี้" เหลียนเหอจ่าวเป้าหนังสือพิมพ์ของสิงคโปร์รายงาน
รายงานเอเดลแมนทรัสต์บาโรมิเตอร์ปี2023ซึ่งเป็นผลสำรวจจากบริษัทที่ปรึกษาเอเดลแมน (Edelman) ระบุว่าระดับความไว้วางใจโดยรวมของจีนอยู่ที่83ซึ่งครองอันดับหนึ่งในประเทศกลุ่มสำรวจทั้งหมดและจีนเป็นประเทศเดียวในประเทศกลุ่มสำรวจที่แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับโอกาสทางเศรษฐกิจ
เหล่านักสังเกตการณ์เชื่อว่าด้วยสีจิ้นผิงเป็นผู้นำการปฏิรูปในยุคใหม่เศรษฐกิจตลาดแบบสังคมนิยมที่เกริ่นนำโดยเติ้งเสี่ยวผิงจะเจริญเติบโตต่อเนื่องอย่างไม่ต้องสงสัยโดยสีจิ้นผิงได้ติดเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนจีนบนการเดินทางสู่การสร้างความทันสมัยที่มิอาจหวนกลับคืน
การปฏิรูปของเติ้งเสี่ยวผิงและคำประกาศ "การพัฒนาคือหลักการโดยสมบูรณ์" ที่ปลดปล่อยและพัฒนาพลังการผลิตทางสังคมของจีนช่วยผลักดันจีนสู่การเป็นขุมพลังทางเศรษฐกิจของโลก
สีจิ้นผิงถือว่าการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงเป็นหลักการอันสลักสำคัญในยุคใหม่และริเริ่มมการเปลี่ยนผ่านอย่างรอบด้านและเป็นระบบในจีนซึ่งมีส่วนส่งเสริมการปรับสมดุลของเศรษฐกิจโลก
เศรษฐกิจจีนเติบโตร้อยละ5.2ในปี2023และมีส่วนส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกราวหนึ่งในสามโดยจีนยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง
ณการประชุมกับคณะผู้นำรัฐบาลและธุรกิจของต่างชาติในปีนี้สารจากสีจิ้นผิงยังคงเน้นย้ำว่าจีนมุ่งมั่นดำเนินการปฏิรูปยิ่งขึ้นซึ่งจะนำพาโอกาสมาสู่โลก
ขณะเยือนฝรั่งเศสเมื่อเดือนพฤษภาคมสีจิ้นผิงบอกกับกลุ่มธุรกิจว่าการปฏิรูปของจีนจะเพิ่มโอกาสทางการตลาดแก่ทุกประเทศและขณะเยือนโรงงานเหล็กในเซอร์เบียที่ซึ่งสีจิ้นผิงช่วยฟื้นฟูด้วยการลงทุนจากจีนเมื่อราวแปดปีก่อนได้รักษาตำแหน่งงานของคนงานท้องถิ่นกว่า5,000คน
โรงงานเหล็กแห่งดังกล่าวเป็นโครงการสำคัญภายใต้แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) อันโดดเด่นของสีจิ้นผิงโดยสีจิ้นผิงนำเสนอแผนริเริ่มนี้ด้วยแรงบันดาลใจจากเส้นทางสายไหมโบราณในปี2013เพื่อปฏิรูปความร่วมมือด้านการพัฒนาทั่วโลกและออกแบบแผนริเริ่มนี้ให้เป็นเครือข่ายอันทันสมัยที่เชื่อมโยงนานาประเทศผ่านการค้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน
ช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษนานาประเทศราวสามในสี่ของโลกได้เข้าร่วมแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางซึ่งช่วยสร้างตำแหน่งงาน4.2แสนอัตราและช่วยเหลือประชาชนในประเทศเหล่านั้นหลุดพ้นจากความยากจนหลายสิบล้านคน
อนึ่งความคาดหวังต่อการประชุมเต็มคณะครั้งที่3ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่20เพิ่มพูนขึ้นมาตั้งแต่ปีก่อนโดยประชาชนจำนวนมากในจีนและทั่วโลกต่างเฝ้ารอดูการเปิดตัวมาตรการปฏิรูปครั้งใหญ่และประเมินผลลัพธ์ของมาตรการเหล่านั้น
ก่อนการประชุมครั้งปัจจุบันสีจิ้นผิงเผยคำมั่นสัญญาของ "การปฏิรูปชี้นำเชิงยุทธศาสตร์และสร้างสรรค์สิ่งใหม่" เพื่อบรรลุความก้าวหน้าใหม่ในมิติและภาคส่วนที่สำคัญ
เศรษฐกิจและตลาดขนาดใหญ่มหึมาของจีนกอปรกับภาวะผู้นำแบบองค์รวมของพรรคฯที่มีสีจิ้นผิงเป็นแกนกลางก่อให้เกิดมุมมองเชิงบวกโดยพรรคฯกล้าหาญจะปฏิรูปตนเองและสามารถเปลี่ยนพิมพ์เขียวเป็นการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะประชาชนในต่างประเทศบางส่วนตั้งแง่สงสัยหรือหวาดกลัวเกี่ยวกับการปฏิรูปการพัฒนาและนัยยะของจีนสีจิ้นผิงมักกล่าวว่าจีนไม่ได้มีเจตนาเปลี่ยนแปลงหรือท้าทายระเบียบโลกที่มีอยู่แต่จีนเพียงกำลังมีส่วนร่วมในธรรมาภิบาลโลกอย่างแข็งขันเพิ่มขึ้นผลักดันระเบียบโลกที่ยุติธรรมและเท่าเทียมกันยิ่งขึ้น
โจเซริคาร์โดดอสซานโตสลูซจูเนียร์ซีอีโอของบริษัทในนครเซาเปาลูซึ่งเชื่อมโยงผู้ประกอบการของจีนกับบราซิลกล่าวว่าการสร้างความทันสมัยของจีนเพิ่มตัวเลือกใหม่และมีนัยยะสำคัญมากต่อกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
ช่วงแรกของยุคการปฏิรูปโดยเติ้งเสี่ยวผิงผู้นำจีนที่ล่วงลับกล่าวว่าเป้าหมายในการปฏิรูปและเปิดกว้างของจีนคือ "การตามทันยุคสมัย"
เมื่อพิจารณาความก้าวหน้าตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาสีจิ้นผิงกล่าวว่าการปฏิรูปและเปิดกว้างของจีนมิเพียงเดินหน้าการพัฒนาของตัวเองแต่ยังมีส่วนส่งเสริมสันติภาพและความก้าวหน้าของโลกอย่างมีนัยสำคัญ
สีจิ้นผิงได้สานต่อความมุ่งมาดปรารถนาและความรับผิดชอบของเติ้งเสี่ยวผิงโดยการสร้างความทันสมัยของจีนที่สีจิ้นผิงกำลังเป็นผู้นำนั้นมิเพียงสร้างปาฏิหาริย์และโอกาสทางเศรษฐกิจแต่ยังเป็นความเจริญรุ่งเรืองรูปแบบใหม่ของมนุษย์ด้วย
"การสร้างความทันสมัยของจีนนั้นทั้งท้าทายและยิ่งใหญ่มากที่สุด" สีจิ้นผิงกล่าว "นี่เป็นวิถีทางที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนแต่เราจะเดินหน้าบุกเบิกการปฏิรูปและก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ"
(แฟ้มภาพซินหัว:สีจิ้นผิงวางพวงดอกไม้ที่ด้านหน้ารูปปั้นสัมฤทธิ์ของเติ้งเสี่ยวผิงในสวนสาธารณะเหลียนฮวาซานนครเซินเจิ้นมณฑลกว่างตงทางตอนใต้ของจีนวันที่ 8 ธ.ค. 2012)
ภาพประกอบ :
ภาพปก : (แฟ้มภาพซินหัว :สีจิ้นผิงเยี่ยมครอบครัวของถังหรงปินที่หมู่บ้านลั่วถัววานตำบลหลงเฉวียนกวนอำเภอฟู่ผิงมณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือของจีนวันที่ 30 ธ.ค. 2012)