In Bangkok
กทม.ผนึกปปส.กทม.บช.น.ภาคีเครือข่าย เร่งเด็ดปีกนักค้าค้นหาผู้เสพยาเสพติด
กรุงเทพฯ-(25 ก.ค. 67) ในช่วงเช้ามืด ณ บริเวณลานจอดรถโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง รามอินทรา เขตลาดพร้าว : กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ปปส.กทม.) ปล่อยแถวชุดปฏิบัติการยาเสพติดในยุทธการ "เด็ดปีกนักค้ายาเสพติด” ครั้งที่ 7/2567 เพื่อตรวจค้นและกวาดล้างชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกรุงเทพฯ โดย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย นายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ผอ.ปปส.กทม.) และคณะผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมปล่อยแถวชุดปฏิบัติการยาเสพติดในยุทธการ "เด็ดปีกนักค้ายาเสพติด ครั้งที่ 7/2567" เพื่อตรวจค้นและกวาดล้างชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกรุงเทพฯ ภายใต้แผนปฏิบัติการ เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน 3 เดือน (มิถุนายน-สิงหาคม 2567)
ยุทธการ “เด็ดปีกนักค้ายาเสพติด” เป็นการติดตามจับกุมนักค้าที่แพร่ระบาดของชุมชน และสืบสวนขยายผลไปยังตัวการระดับสูง อีกทั้งการกวาดล้างแหล่งพักและแหล่งมั่วสุม รวมถึงการค้นหาผู้เสพ ผู้ติด และผู้ป่วยอาการทางจิตเวชจากยาเสพติด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาแบบสมัครใจ เพื่อให้ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด ซึ่งกำลังปฏิบัติการที่เข้าร่วมในยุทธการครั้งนี้ มาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ สถานีตำรวจนครบาล 11 แห่ง ในสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 สำนักงาน ปปส.กทม. และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 300 นาย
สำหรับยุทธการเด็ดปีกฯ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 บช.น.และ ปปส.กทม. ปรับแผนมามุ่งเน้นนักค้าระดับตัวการที่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดข้ามเขต ข้ามโซน และข้ามจังหวัด รวมทั้งรายย่อยที่ประชาชนร้องเรียนผ่านทุกช่องทาง เพื่อตัดวงจรยาเสพติดออกจากชุมชน ซึ่งโซนพื้นที่กรุงเทพกลาง และกรุงเทพเหนือ ในความรับผิดชอบของ บก.น.2 มีเป้าหมาย 52 เครือข่าย เคลื่อนไหวอยู่ใน 12 เขต และเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ได้รับรายงานผลจับกุมจำนวน 32 คดี ผู้ต้องหา 35 คน แบ่งเป็นข้อหาร้ายแรง หรือข้อหาจำหน่ายและข้อหาครอบครอง รวมจำนวน 13 คดี ผู้ต้องหา 15 คน ส่วนข้อหาเสพ และครอบครองเพื่อเสพ รวม 7 คดี ผู้ต้องหา 9 คน ส่วนผู้เสพส่งบำบัดในระบบสมัครใจ 12 ราย
จากนั้น ชุดปฏิบัติการยาเสพติด ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร นำผู้เสพทั้ง 12 ราย มายังชุมชนประชาร่วมใจ 1 (หลังวัดเสมียนนารี) เขตจตุจักร ซึ่งจัดตั้งสถานีหรือหน่วยคัดกรองเคลื่อนที่ ประเมินอาการ จนถึงสถานีการให้บริการด้านสุขภาพ การจัดหางานและทุนประกอบอาชีพ โดยมีการดำเนินการตามขั้นตอนของหน่วยคัดกรอง ซึ่งมีการประเมินและปฏิบัติในฐานะผู้ป่วยและส่งต่อสถานพยาบาลตามระดับอาการ ซึ่งหากเป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตเวช จะถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต และทุกรายหากผ่านขั้นตอนการรักษา จะเข้าสู่ขั้นตอนฟื้นฟูและติดตามช่วยเหลือในด้านสวัสดิการและการส่งเสริมอาชีพต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระของชาติ และรัฐบาลได้เปิดแผนปฏิบัติการฯ ระยะเร่งด่วน 3 เดือน กำหนดพื้นที่สีแดงจำนวน 25 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร ภายใต้การอำนวยการของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ศอ.ปส.กทม.) โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ การดำเนินงานในช่วง 2 เดือนนี้ มีผลจับกุมคดียาเสพติดทั้งกรุงเทพฯ ประมาณ 2,881 คดี ผู้ต้องหา 2,966 คน ยึดทรัพย์สินไปแล้วมูลค่าประมาณ 44 ล้านบาท