In News
นายกฯแถลงและตอบสื่อหลังประชุมครม. ถกมาเลย์ฯแก้ปัญหาใต้/แจงเปลี่ยนนายกฯ
กรุงเทพฯ-นายกฯ เตรียมประชุมหน่วยงานความมั่นคง ก่อนหารือนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย 3 สิงหาคมนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และนายกฯ เผยกระแสข่าวเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ยังไม่มี ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไกรัฐธรรมนูญ เตรียมส่งแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันนี้ ย้ำโครงการดิจิทัลเป็นไปตามกฎหมาย
วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) เวลา 11.40 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการลงพื้นที่ภาคใต้ วันที่ 3 สิงหาคม ว่า นอกจากจะพูดคุยเรื่องบุคคลสองสัญชาติแล้ว ยังจะมีการพูดคุยเรื่องความมั่นคงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมเพื่อลงรายละเอียดก่อนเดินทางลงพื้นที่ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้บัญชาการทหารบก เดินทางลงไปด้วย
นายกฯ เผยกระแสข่าวเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ยังไม่มี ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไกรัฐธรรมนูญ เตรียมส่งแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันนี้ ย้ำโครงการดิจิทัลเป็นไปตามกฎหมาย
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลวอเล็ต 10,000 บาท จะเป็นการใช้งบประมาณเหลือมปีหรือไม่ โดยเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นการพิจารณาสภาในวันพรุ่งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐมนตรีได้มีการเตรียมการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะชี้แจ้งในรายละเอียด ตนเองมั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8 หน่วยงาน ที่ได้เข้ามาชี้แจงคณะกรรมการอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นไปตามกฎหมายและรายละเอียด โดยทางด้าน นาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจะชี้แจง แต่ทั้งนี้ ทุกอย่างจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบ สุจริต
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า แถลงปิดคดีนายกฯ ได้มีการส่งรายละเอียดไปเรียบแล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าว่า พร้อมแล้วทุกอย่าง แต่จะต้องไปเซ็น คาดว่าส่งภายในวันนี้ ก่อนเวลา 16.30 น. พร้อมกับเน้นย้ำว่า ส่งวันนี้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า นายกฯ ยังมีความั่นใจในเก้าอี้นายกฯ ใช่หรือไม่ในช่วงเวลานี้ ว่าจะได้ไปต่อ นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่ตนเองได้กล่าว ทุกอย่างส่งไปแล้วขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ตนเองไม่อยากจะก้าวล่วง โดยวันนี้ก็ได้ทำ closing statement
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เริ่มมีการมองหานายกฯ สำรองไว้แล้ว เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้นายกฯ หวั่นหรือไม่ โดยในรายชื่อดังกล่าวเป็นชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในรายชื่อที่จะเป็นนายกฯ สำรอง ในเวลานี้ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่” ประเทศไทยมีบุคคลากรที่มีคุณภาพหลายคน ต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยทุกอย่างยืนยันว่าต้องเป็นไปตามกฎหมาย แล้วนอมรับคำตัดสิน
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า คำตัดสินหากออกมาเป็นลบ ทางนายกฯ คิดว่าคนที่จะเป็นนายกฯ ต่อไปควรเป็นพรรคเพื่อไทยหรือเป็นร่วมรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไปไกลแล้ว ตนเองเชื่อว่ามันมีกลไกตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้ว ซึ่งตรงส่วนนี้ถ้าเกิดว่าผลออกมาเป็นไปตามดังกล่าวก็ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ว่ากันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า นับจากเหตุการณ์ที่เขาใหญ่ เหตุการณ์ที่ซอยรางน้ำ และบ้านจันทร์ส่องหล้า ได้มีการพูดคุยกับทาง นายทักษิณ ชินวัตร แล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้มีการโทรไปคุยในช่วงวันเกิด โดยอย่างที่เรียนว่าในช่วงเช้านั้น ตนเองโทรไปแต่ไม่ได้รับสาย เพราะติดทำบุญอยู่ แต่ได้มีการส่งดอกไม้เข้าไป และในช่วงบ่ายหลังจากเดินทางกลับจากต่างจังหวัดก็ได้โทรเข้าไปอวยพร ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง โดยได้มีการพูดคุยกัน แต่ทั้งนี้ ไม่ได้มีการพูดสถานการณ์ทางการเมือง เนื่องด้วยเป็นวันเกิด ส่วนในเรื่องเขาใหญ่ และสถานที่อื่น ๆ ก็เป็นการพบปะกันธรรมดา ซึ่งก็เป็นรู้จักกันมานาน รวมถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ของ นายทักษิณ ชินวัตร มาก่อน การจะไปตีกอล์ฟก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เรื่องที่จะต้องจับตาของ นายทักษิณ ชินวัตร โดยในเดือนหน้าจะพ้นการเป็นนักโทษอย่างเป็นทางการแล้ว มองกันว่าอาจจะมีการให้เข้ามาช่วยงานในส่วนของรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องแรกเลยคือในเรื่องของการผ่านกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนไหน ส่วนเรื่องที่การที่จะให้มาช่วยงานรัฐบาลยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ขอให้เป็นขั้นเป็นตอนไป
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ในความคิดของนายกฯ ยังคิดว่า อดีตนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นกระแสที่ประชาชนเป็นที่ต้องการหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คนที่เป็นนายกฯ นาน และอย่างที่ตนเองเคยกล่าวว่า คนที่เป็นอดีตนายกฯ คนนิยมสูง เป็นคนที่มีคนรัก
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า วันนี้ผ่านระยะเวลามาถึง 20 ปีที่ อดีตนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นนายกฯ ทำไมถึงยังตอบโจทย์สถานการ์ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบันได้ นายกฯ กล่าวว่า ทุก ๆ ท่านก็มีความคิดเห็น มีความหวังดี ปรารถนาดีกับประเทศชาติ ไม่ว่าปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ที่เกิดขึ้นมา เป็นที่แน่นอนว่าระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป องค์ประกอบหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นแต่ละปีแต่ละช่วงเวลาที่เปลี่ยนมีความยาก มีความซับซ้อน
นายกฯ เตรียมประชุมแก้น้ำท่วมทั้งระบบ 5 ส.ค.นี้ กำชับแก้ปัญหาพื้นที่ท่วมซ้ำซาก สั่งการเร่งบูรณาการปราบยาเสพติด เผย ครม.เห็นชอบผลิตพยาบาลเพิ่มกว่าหมื่นคน พร้อมอนุมัติงบดำเนินงานโครงการมวยไทย soft power
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนหลายพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่อง เกิดปัญหาน้ำท่วม โดยได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานความมั่นคงบูรณาการทำงาน บริหารจัดการน้ำทั้งระบบโดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ลงตรวจพื้นที่ภาคตะวันออกและรายงานว่ายังสามารถควบคุมได้อยู่ แต่จะมีการลงตรวจพื้นที่ภาคอีสานเพราะว่าน่าจะมีปัญหาที่หนักกว่า จึงอยากให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ปัญหาในพื้นที่ที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม ตนเองจะไปประชุมบูรณาการแผนการจัดการเรื่องน้ำทั้ง ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวที่กรมชลประทาน เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่ ในต่างจังหวัด โดยได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมทำงานร่วมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้ทหารเข้ามาช่วยเหลือดูแล ถ้าเกิดปัญหาเรื่องน้ำท่วม แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องมีการไปดูในพื้นที่ที่มีการท่วมแล้วท่วมอีก และมีการป้องกันได้ดีก็ต้องมาหาการแก้ไขกันภายหลัง
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยได้ตั้งคณะกรรมการมาแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำพร้อมเสนอร่างการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำทั้งหมด 7 มาตรการ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวโดยทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะแถลงต่อไป
นายกฯ ระบุ ได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะกรรมการปราบอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ สืบเนื่องมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการขอความช่วยเหลือมาว่าปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงแล้วก็ไม่ได้แค่เพียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเดียวที่มีความเกี่ยวข้องการพร้อมทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม MDES กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีปัญหาต้องติดต่อกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขอย่างบูรณาการ
นายกฯ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบูรณาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 เดือน ใน 25 จังหวัด โดยเน้นย้ำใน 25 จังหวัดเป้าหมาย เตรียมขยายผลไปในจังหวัดอื่น ๆ ตลอดจนพิจารณาการให้เรื่องของรางวัลนำจับให้แก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่สำเร็จเป้าหมายอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่มีการประชุม โดยหลาย ๆ จังหวัดทำได้เกินเป้าเลยและหลาย ๆ จังหวัด ที่ยังมีการทำได้ต่ำกว่าเป้า ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ไปช่วยกำชับดูว่าจังหวัดไหนที่ยังต่ำกว่าเป้าก็ให้ไปเร่งดำเนินการ ส่วนเรื่องของรางวัลนำจับก็เป็นหนึ่งในหลายมาตรการที่จะต้องนำมาแก้ไขและปรับปรุงเพื่อให้แรงจูงใจกับเจ้าหน้าที่ด้วย รวมไปถึงการที่ต้องให้มีงบประมาณที่เพียงพอแล้วก็ยุทโธปกรณ์ที่พร้อมเพรียงในการที่จะต้องดูแลตัวเอง ซึ่งเมื่อมีการจับมากขึ้นก็มีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอโครงการผลิตบุคลากร สาขาพยาบาลศาสตร์ ปีการศึกษา 2566 - 2570 เพื่อผลิตพยาบาลวิชาชีพในระดับปริญญาตรีให้เพียงพอรองรับการขยายศักยภาพในด้านการสาธารณสุขของประเทศในทุกภาคส่วนโดยตั้งเป้าหมายผลิตพยาบาลเพิ่ม 16,000 คน วงเงิน 7,000 ล้านบาท โดยถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญขาดแคลนบุคลากรทางด้านการพยาบาลไม่ใช่แค่ประเทศไทยอย่างเดียวทั่วโลกด้วย พยาบาลของเราที่มีศักยภาพผลิตออกมาแล้วถูกดึงตัวออกจากระบบราชการ รวมถึงพยาบาลในระบบเอกชนก็ถูกดึงตัวไปข้ามประเทศไปทำงานที่ประเทศอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันปัญหาเรื่องของสังคมสูงวัยต่าง ๆ รวมไปถึงนโยบายหลักของประเทศโดย IGNITE THAILAND Wellness เรื่องการต้องการภาคพยาบาลมีความต้องการอย่างสูงมาก ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ที่ให้ความสำคัญและเร่งด่วนในจัดการเรื่องนี้
นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามความเห็นของกระทรวงการคลังที่ กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ การดำเนินโครงการสินเชื่อ SME Green Product Activity จำนวน 15,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนขั้นต่ำและมีสภาพคล้องที่พอเพียงที่สามารถปรับปรุง กิจการขยายธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการรวมทั้งการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนึ่งในหลาย ๆ มาตรการที่ทางด้านกระทรวงการคลังได้เสนอ
นายกฯ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการมวยไทย soft power 2567 จำนวน 275 ล้านบาท เพื่อยกระดับมวยไทยจากศิลปะต่อสู้ป้องกันตัวประจำชาติ สู่ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวระดับโลกโดยจะมีการดำเนินการเช่น 1. จัดหลักสูตรมวยไทย 2. อบรมผู้ตัดสินและผู้ฝึกสอน 3. ตั้งศูนย์เข้าสอบมาตรฐานสมรรถนะครูมวยไทย 4. จัดการแข่งขันมวยไทยทั้งในและต่างประเทศ จัดแผนกิจกรรมเผยแพร่มวยไทย ตรวจรองรับค่ายมวยในต่างประเทศ ซึ่งดังกล่าว เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นเพราะว่าไม่ใช่เป็นแค่ soft power อย่างเดียว เป็นเรื่องของกีฬามวยไทยที่ชาวโลกรู้จักดี สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด มีคำว่า “ไทย” อยู่ด้วยเพราะฉะนั้น การที่จะบิดเบียนเรื่องว่ามาจากประเทศไหนอะไรอย่างไร ก็คงไม่มีการถกเถียงกันได้แต่ว่าอย่างไรก็ตามมีกีฬาที่อาจจะมีความคล้ายกับมวยไทย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราต้องระมัดระวัง เพราะฉะนั้นการที่เราเป็นเจ้าของมวยไทยอยู่แล้ว พูดได้อย่างเต็มปาก ตนเองเลยได้เสนอกับรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่าฟุตบอลก็มี FIFA เป็นองค์กรเป็นกำกับ เพราะฉะนั้นเรื่องของมวยไทยอาจจะต้องมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกับ FIFA ของมวยไทยมากำกับเพื่อให้รู้แน่นอนว่าเป็นเรื่องของกีฬาคนไทยเราเป็นผู้จัดเราเป็นผู้ที่คิดริเริ่ม โดยยกระดับจากระดับภายในประเทศของเราให้เป็นระดับสากลได้
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษีในการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทำงานในต่างประเทศให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลูกจ้าง ผู้ที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ของนายจ้างด้วยที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการคลังจะแถลงต่อ ถือเป็นการที่ดึงผู้มีความชำนาญหรือความสามารถพิเศษ จากต่างประเทศกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเฉพาะยิ่งในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรม Low Profit ไปเป็น Hight Profit เป็นอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่เราต้องการมีผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานจากเมืองนอกกลับเข้ามา