In News
ยอดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเลตในครึ่งวัน ลงสำเร็จกว่า5ล้านรายชี้พบปัญหาจิ๊บจิ๊บ
กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาล เผยยอดวันแรกของการเปิดลงทะเบียนโครงการ Digital Wallet ครึ่งวัน 12.00 น. ลงทะเบียนสำเร็จแล้วกว่า 5 ล้านราย นายกฯ สั่งการให้ดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากที่สุดยืนยันระบบแอปฯ ไม่ล่ม ประชาชนทุกคนได้รับสิทธิตามคุณสมบัติแน่นอน ย้ำทยอยลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ถึง 45 วัน ตั้งแต่วันนี้ – 15 ก.ย. 2567
วันนี้ (1 สิงหาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดระบบ โดยล่าสุด มียอดลงทะเบียนสำเร็จกว่า 5 ล้านราย พร้อมยืนยันระบบแอปฯ ไม่ล่ม ประชาชนทุกคนตามคุณสมบัติจะได้รับสิทธิแน่นอน จึงขอให้ประชาชนทยอยลงทะเบียนได้ถึง 45 วัน ตั้งแต่วันนี้ – 15 กันยายน 2567 ซึ่งในช่วงของการเปิดระบบวันแรก อาจพบปัญหาบ้าง จากจำนวนผู้ใช้เข้างานจำนวนมากในเวลาเดียวกัน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง ส่วนกรณีผู้ที่ยังไม่สามารถเข้าใช้งานแอปฯ ได้ หรือยังใช้งานแอปฯ ในเวอร์ชันเก่า ขอให้ทำการลบแอปฯ และดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุด (Version 3.0.0) อีกครั้ง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับถึงการดูแลระบบและติดตามผลการลงทะเบียนโครงการฯ ให้อำนวยความสะดวก ให้แก่ประชาชนให้มากที่สุด ต้องพร้อมรองรับการแก้ปัญหาแบบ case by case เช่น กรณีการอัปเดตแอปฯ “ทางรัฐ” และพบปัญหาการเข้าล็อกอินใหม่ กรณีการเข้าล็อกอิน แล้ว แต่ยังเข้าใช้งานบางบริการภายในแอปฯ ไม่ได้ รวมไปถึง กรณีที่ผู้เข้าใช้งานเดิมที่ได้ตรวจสอบตัวตนผ่านแล้ว (KYC) ตั้งแต่ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2567 แต่พบปัญหาการกดรับสิทธิผ่านแอปฯ เวอร์ชันใหม่
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าเว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และสอบถาม ปรึกษาการใช้งานต่าง ๆ ได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูล โทรสายด่วน. Digital Wallet 1111 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
ล่าสุด เวลา19.30น. ภาพรวมการลงทะเบียนโครงการ Digital Wallet ในวันนี้ (1 สิงหาคม 2567) ว่า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 19.30 น. มียอดผู้ลงทะเบียนสำเร็จแล้วกว่า 16.2 ล้านราย ซึ่งหมายความว่า จะเกิดพายุหมุนลูกแรกที่เป็นกำลังซื้อสูงถึงระดับ 162,000 ล้านบาท ไหลเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในไม่ช้านี้
ทั้งนี้ ในช่วงเปิดระบบช่วงแรก อาจมีผู้ใช้บางกลุ่มเข้าระบบลงทะเบียนไม่ได้ เนื่องจากมีข้อมูลของแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เวอร์ชันเก่าค้างในระบบ จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้งานที่พบปัญหา ทำการลบแอปฯ เดิม และลงใหม่ เพื่อให้ระบบสามารถเรียกข้อมูลของแอปฯ ได้ถูกต้อง ส่วนกรณีการใช้งานระหว่างวัน อาจจะมีบางช่วงที่แอปฯ ตอบสนองช้าบ้าง แต่ระบบยังสามารถทำงานได้ตลอดทั้งวัน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ขณะเดียวกัน ระบบตรวจพบ และสามารถป้องกันธุรกรรมต้องสงสัย ที่อาจเข้ามาคุกคาม โจมตี แอปทางรัฐ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อมั่นว่าจะรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ ให้กับประชาชนผู้ลงทะเบียนได้เป็นอย่างดี