Authority & Harm
ชาวอ.นาดีเดือดร้อนหนักข้าวยืนต้นตาย เหตุได้รับผลกระทบสารเคมีจากไร่อ้อย
ปราจีนบุรี-วันที่ 21 สค.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวนาหมู่ที่ 6 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ว่าตนพร้อมเพื่อนจำนวน 4 รายได้รับผลกระทบสารเคมีไร่อ้อยที่อยู่ติดกัน ฉีดยาฆ่าหญ้า ฝนตกหนักน้ำไหลลงนาข้าวทำให้ต้นข้าวแห้งและยืนต้นตาย
นางมันทนา ทองประสงค์ กล่าวว่า ตนเองมีที่นาอยู่ จำนวน 2 ไร่เก็บข้าวในครัวเรือนทุกปี ปีนี้เมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมา ออกมาดูมาเพื่อที่จะหว่านปุ๋ยแต่ปรากฏว่าต้นข้าวที่เขียวขจียืนต้นใบแห้งตาย จึงใช้เครื่องตัดหญ้าตัดให้แตกใหม่ เพราะคิดว่าเพลียลงยาข้าวแต่พอตัดต้นตอข้าวที่อยู่ในนา ต้นข้าวยืนต้นตายไปครึ่งหนึ่ง สอบถามเพื่อนบ้านที่ทำนาด้วยกันบอกว่าเห็นเจ้าของไร่อ้อย ที่อยู่ด้านเหนือซึ่งอยู่ติดกันฉีดยาฆ่าหญ้าในไร่อ้อยโดยใช้เครื่องพ่นยาแรงดันสูง วันต่อมาเกิดฝนตกหนักน้ำจากไร่อ้อยที่อยู่ด้านเหนือติดกันไหลลงมาสู่นาข้าว ทำให้ต้นข้าวใบแห้งและยืนต้นตาย คาดว่าน่าจะเกิดจากสารเคมีที่ใช้ฉีดยาฆ่าหญ้าในไร่อ้อย
ต่อมาเจ้าของไร่อ้อยได้พูดคุยกับตนเองและพวกรวม 4 คน โดยบอกว่าจะช่วยเหลือค่าเสียหายซึ่งจะคิดเฉลี่ยเป็นสัดส่วนตามจริง ของตนเองเจ้าของไร่อ้อยจะให้ค่าเสียหาย 6,000 บาท ของเพื่อนบ้านที่เสียหายหนักประมาณ 4 ไร่ จะให้ค่าเสียหาย 40,000 บาท และที่เหลือเสียหายบางส่วนประมาณครึ่งไร่จะให้ค่าเสียหาย 3,000 บาท โดยตกลงกันจะจ่ายค่าเสียให้ในวันที่25 สค.ที่จะถึงนี้ วันต่อมาเจ้าของไร่อ้อยได้ LINE มาบอกว่าตามที่ตกลงคุยกันไว้จะจ่าย 6,000 บาทนั้น ขอต่อรองจะจ่ายให้แค่ 3,000 บาท
ตนเองไม่ยอมเพราะตกลงกันไว้ตั้งแต่แรกโดยทางเจ้าของไร่อ้อยเสนอให้เอง ตนเองพร้อมญาติก็รับได้พอรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง LINE มาบอกจะขอจ่ายแค่ 3,000 บาท เพราะ 6,000 บาทนั้นถือว่ามันมากไป ตนเองก็ยังคิดว่าที่เรียกร้อง 6,000 บาทนั้นก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันไป เพราะอยู่ใกล้ชิดติดกัน ซึ่ง 6,000 บาทนั้นถ้าคิดจริงๆแล้วค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าไถหว่านมันก็มากกว่า 6,000 บาทที่จะจ่ายให้อยู่แล้ว จึงได้มาร้องทุกข์ผ่านสื่อฯ หากไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก ยังไม่ได้ปรึกษากันว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่อยากให้เจ้าของไร่อ้อยมาพูดคุยและช่วยเหลือตามความเป็นจริงที่ตกลงกันไว้
มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์-ภาพ/ ปราจีนบุรี