EDU Research & Innovation
PPP Plasticsจับมือกับพันธมิตรยกระดับ ซาเล้ง-ร้านรับซื้อของเก่าชูศก.หมุนเวียน
กรุงเทพฯ-วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567 : โครงการความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน (PPP Plastics) ภายใต้การนำขององค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และองค์กรภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วนที่เป็นผู้นำด้านการกำหนดนโยบายและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดการพลาสติกของประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวผลงาน PPP Plastics “Building Ecosystem for Plastic Circularity” โดยมีการแถลงผลการดำเนินงานและการส่งมอบตำแหน่งประธาน PPP Plastics การเปิดตัวโครงการยกระดับมาตรฐานซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า และการเสวนาหัวข้อการเตรียมพร้อมของประเทศไทยในการเข้าร่วมข้อตกลงระหว่างประเทศด้านมลพิษจากพลาสติก

การแถลงผลงาน PPP Plastics ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ ได้แสดงออกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ PPP Plastics ในการร่วมแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกของประเทศไทย โดยนายภราดร จุลชาต ประธาน PPP Plastics กล่าวว่า PPP Plastics ได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมการจัดการขยะอย่างยั่งยืนด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องมากว่า 6 ปี ทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติเชิงพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อร่วมส่งเสริมการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายในการลดขยะพลาสติกทะเลลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายใน พ.ศ. 2570 โดยได้ดำเนินการใน 6 ด้านหลัก ได้แก่ (1) ด้านนโยบาย (2) ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (3) ด้านนวัตกรรม (4) ด้านการศึกษาและการสื่อสาร (5) จัดทำฐานข้อมูล (6) บริหารจัดการงบประมาณ ทั้งนี้งานของ PPP Plastics ประสบความสำเร็จได้เนื่องจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน จึงขอขอบคุณภาคเอกชนที่เป็นสมาชิกของ PPP Plastics ภาครัฐ ภาคประชาสังคมและองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงภาคีเครือข่ายในการดำเนินโครงการต่าง ๆ

นางภรณี กองอมรภิญโญ PPP Plastics Communication Taskforce Leader กล่าวว่า PPP Plastics มุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานที่จำเป็นสำหรับการสร้างระบบนิเวศเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของพลาสติก หรือ plastic circularity โดยมีโครงการไฮไลท์ ได้แก่ โครงการ Smart Recycling Hub และโครงการยกระดับมาตรฐานซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งการที่จะผลักดันให้เกิดองคาพยพของเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างแท้จริงนั้นจำเป็นจะต้องมีการสื่อสารที่เข้มแข็งในทุกระดับเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและสามารถขับเคลื่อนงานไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
_0.jpg)
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยและเลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวว่า จากนี้ต่อไป PPP Plastics ยังคงเดินหน้าสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของพลาสติกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งตอบสนองต่อทิศทางนโยบายทั้งระดับประเทศและระดับโลกที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน (EPR) กฎหมายเศรษฐกิจหมุนเวียน มาตรฐาน PCR และข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยในการขับเคลื่อนงานในอนาคต PPP Plastics จะจัดตั้งเป็นสมาคม PPP Plastics เพื่อให้สามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
_0.jpg)
นอกจากนี้ ภายในงานแถลงข่าวได้มีการจัดพิธีส่งมอบตำแหน่งประธาน PPP Plastics ระหว่าง นายภราดร จุลชาต ในนามกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้กับ ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ในนามองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) เพื่อสานต่อและขยายผลการดำเนินงานของ PPP Plastics ให้สำเร็จบรรลุเป้าหมายหลักทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติในการสนับสนุนการขับเคลื่อน Roadmap การจัดการขยะพลาสติก
_0.jpg)
พร้อมกันนี้ ได้มีงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการยกระดับมาตรฐานซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า โดยมีผู้บริหารจากองค์กรภาคีเครือข่ายที่ร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ ได้แก่ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย PPP Plastics กรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง สมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า และองค์กรภาคธุรกิจที่ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานโครงการฯ ได้แก่ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จํากัด บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาศักยภาพให้กับซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่าในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการจัดการขยะอย่างยั่งยืนตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูล และการลงทะเบียนซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่าที่เชื่อมโยงกันในระดับประเทศ และอบรมให้ความรู้แก่ซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่าให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อนำวัสดุรีไซเคิลคุณภาพดีกลับเข้าสู่ระบบการผลิต
นอกเหนือไปจากนี้แล้วยังมีการเสวนาหัวข้อ “การเตรียมพร้อมของประเทศไทยในการเข้าร่วมข้อตกลงระหว่างประเทศด้านมลพิษจากพลาสติก โดยมีกรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มาร่วมนำเสนอข้อมูล

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า “ทะเลและชายฝั่งเป็นแหล่งของทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญ แต่ปัจจุบันมนุษย์ได้สร้างมลพิษ โดยเฉพาะขยะทะเลชนิดขยะพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพ สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรทางทะเล เช่น แนวปะการัง แหล่งหญ้าทะเล สัตว์ทะเลชนิดต่างๆ ทั้งเต่าทะเล โลมา วาฬ และพะยูน รวมถึงสัตว์ทะเลที่เป็นอาหารของมนุษย์ ขยะพลาสติกเหล่านี้จะกลายเป็นไมโครพลาสติกซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ต่อไป ในสภาวการณ์ปัจจุบัน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่สามารถรอเวลาได้ หน่วยงานต่าง ๆ ต้องลงมือปฏิบัติและจัดการอย่างเป็นรูปธรรมแบบบูรณาการเพื่อให้การแก้ปัญหาขยะพลาสติกประสบความสำเร็จและยั่งยืน”
นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า “มลพิษจากพลาสติก เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ปัจจุบันโลกกำลังให้ความสำคัญ รองจากเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในปี พ.ศ. 2568 องค์การสหประชาชาติกำลังจะให้มีอนุสัญญามลพิษพลาสติกขึ้น และอาจจะมีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมผู้ผลิตพลาสติก ที่จะต้องมีการผลิตพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้จำหน่ายที่จะต้องเริ่มมีการจำกัดหรือควบคุมการแจกจ่ายบรรจุภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว นอกจากนี้ผู้บริโภคจะต้องมีความตระหนักในการใช้พลาสติกอย่างรู้คุณค่า และแยกประเภทขยะให้ถูกต้อง รวมทั้งผู้เก็บรวบรวมขยะที่จะต้องนำกลับคืนขยะรีไซเคิลทุกประเภทเหล่านี้เพื่อนำเข้าสู่ระบบรีไซเคิลตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อไป”

นายฐิติธัม พงศ์พนางาม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าวว่า “ภาคธุรกิจไม่สามารถมองประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมด้วยมุมมองเชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียว เราทุกคนต่างตระหนักว่าเป็นความรับผิดชอบที่จะช่วยกันดูแลและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม การพยายามแก้ปัญหาเรื่องพลาสติกโดยการใช้วัสดุอื่นมาทดแทนยังไม่นับเป็นทางออกที่ยั่งยืน แต่กระบวนการรีไซเคิลและการผลักดันให้เกิดการหมุนเวียนของพลาสติกคือคำตอบของปัญหาเหล่านี้”
และท้ายสุด PPP Plastics ได้ร่วมกับองค์กรสมาชิกและองค์กรภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม หน่วยงานระหว่างประเทศ สถาบันการศึกษา ประกาศความร่วมมือ “Building Ecosystem for Plastic Circularity” เพื่อเป็นการแสดงออกถึงพลังความร่วมมือในการเดินหน้าแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกของประเทศไทยและร่วมส่งเสริมการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
