In Bangkok

กทม.เข้มงวดผู้ค้านอกจุดผ่อนผัน-เน้นย้ำ ให้ความสำคัญกับประชาชนใช้ทางเท้า



กรุงเทพฯ-นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม.กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ผู้ค้านอกจุดผ่อนผันยอมเสียค่าปรับเพื่อขายต่อ เนื่องจากคุ้มค่ากว่าการเช่าที่ทำการค้าว่า กทม. ให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบพื้นที่และการทำการค้าหาบเร่แผงลอยมาอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดนโยบายการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอยจะต้องให้ความสำคัญกับประชาชนที่ใช้ทางเท้าและใช้ถนนเป็นหลัก รวมถึงความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ ส่วนการทำการค้าบนถนน หรือสถานสาธารณะ โดยเฉพาะทางเท้าต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ทางเท้า อีกทั้ง กทม. พยายามจัดหาพื้นที่เอกชน หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ เพื่อจัดทำเป็นศูนย์อาหาร (Hawker Center) ให้เป็นรูปธรรม เน้นความโปร่งใสในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งจำกัดจำนวนผู้ค้าบนถนนหรือสถานสาธารณะโดยแต่งตั้งคณะกรรมการในระดับกรุงเทพมหานครและระดับเขตเข้ามาดูแล

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม. มีจุดทำการค้าที่ประกาศอนุญาตให้ทำการค้าได้จำนวน 68 จุด รวมผู้ค้า 3,876 ราย ซึ่งได้กำชับให้สำนักงานเขตควบคุม กำกับ ดูแล และบังคับการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ส่วนการทำการค้านอกจุดได้กำชับให้สำนักงานเขตบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยระหว่างดำเนินการฯ ให้จัดระเบียบโดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการทำการค้าในจุดผ่อนผันโดยอนุโลม พร้อมจัดทำแผนการจัดระเบียบ เช่น ยกเลิก ยุบรวม จัดระเบียบให้เรียบร้อย ตลอดจนยกระดับเป็นจุดผ่อนผันในจุดที่มีศักยภาพและมีความเหมาะสม โดยในปี 65 ได้ทำบัญชีการทำการค้านอกจุด จำนวน 726 จุด ผู้ค้า 15,858 ราย ซึ่งปัจจุบันมีการทำการค้านอกจุดลดเหลือ 381 จุด ผู้ค้า 10,988 ราย โดยยกเลิกจุดทำการค้าที่ก่อให้เกิดปัญหา มีการร้องเรียน และอื่น ๆ มาตามลำดับ  

 สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนได้กำชับให้สำนักงานเขตดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองและกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย อย่างเคร่งครัด รวมถึงให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม กำกับ ดูแล อย่างใกล้ชิดอีกด้วย