Authority & Harm
'ราชทัณฑ์'จัดนิทรรศการและการประกวด ศูนย์การเรียนรู้'โคกหนองนาแห่งน้ำใจฯ'
นนทบุรี-วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการและการประกวดศูนย์การเรียนรู้โครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมด้วยพระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร พลเอกสมบัติ ธัญญะวัน คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ณ ห้องสัมมนา ชั้น 3 อาคารกรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี และผ่านระบบออนไลน์ Webex Meeting
ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการฝึกอบรมโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว "โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังกรมราชทัณฑ์" ให้แก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยการอบรมเป็นการประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน และสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก สามารถดำเนินการปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ให้พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น โดยในระหว่างดำเนินการจะมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติ แนวความคิด ฝึกวินัย ลงมือปฏิบัติ แก้ปัญหาจริง ผ่านการฝึกอบรม จำนวน ๑๔ วัน ต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ต้องขังที่ผ่านการอบรมสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนเกิดการแลกเปลี่ยน ถ่ายทอด พัฒนา ต่อยอดภูมิปัญญาและองค์ความรู้ ให้แก่ผู้อื่น สามารถคืนคนดีสู่สังคมได้อย่างยั่งยืนต่อไป
กรมราชทัณฑ์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการดังกล่าว จึงได้มีการสืบสานต่อยอดให้มีการดำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้โครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” ในเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ เพื่อเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากการลองผิดลองถูก และแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงเทคนิคที่จำเป็นในการบริหารจัดการคน พื้นที่ น้ำ ดิน และผลผลิต อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่าย การประสานความร่วมมือภาคสังคม การเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้ที่สนใจ ตลอดจนเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์กระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยและภารกิจของกรมราชทัณฑ์ให้ประชาชนรับทราบ และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับใช้หลักสูตรโครงการพระราชทานฯ เป็นหลักสูตรภาคบังคับให้กับผู้ต้องขังทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดยกรมราชทัณฑ์ ได้จัดให้มีโครงการประกวดศูนย์การเรียนรู้โครงการพระราชทานฯ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เรือนจำ/ทัณฑสถาน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของโครงการพระราชทานฯ และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทั้งในส่วนของการบริหารจัดการพื้นที่ และการพัฒนาศักยภาพสมาชิกซึ่งเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำ/ทัณฑสถาน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เปิดโอกาสให้เรือนจำ/ทัณฑสถาน จำนวน ๑๐๗ แห่ง ที่เริ่มจัดตั้งในปี งบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ สมัครเข้าร่วมการประกวดตามความสมัครใจ ทั้งนี้ ได้จัดแบ่งประเภทการแข่งขัน ออกเป็น 2 ประเภท คือ ศูนย์การเรียนรู้โครงการพระราชทานฯ ภายในเรือนจำ และศูนย์การเรียนรู้โครงการพระราชทานฯ ภายนอกเรือนจำ มีเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่สมัครเข้าร่วม จำนวนทั้งสิ้น 65 แห่ง ในประเภทศูนย์การเรียนรู้ฯ ภายใน จำนวน 27 แห่ง และประเภท ศูนย์การเรียนรู้ฯ ภายนอก จำนวน 38 แห่ง
การดำเนินงานประกวดศูนย์การเรียนรู้ฯ ดำเนินมาถึงขั้นตอนการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมีเรือนจำ/ทัณฑสถาน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ประเภทละ 3 แห่ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 6 แห่ง คือ ประเภทศูนย์การเรียนรู้ฯ ภายในเรือนจำ ได้แก่ เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางเขาบิน และเรือนจำกลางบางขวาง ประเภทศูนย์การเรียนรู้ฯ ภายนอกเรือนจำ ได้แก่ เรือนจำจังหวัดจันทบุรี เรือนจำจังหวัดยโสธร และเรือนจำกลางกำแพงเพชร โดยพิจารณาตัดสินจากการจัดนิทรรศการและการนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการ และได้รับเกียรติอย่างสูง จากพระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นางสาวณัฐกานต์ เสมเพียร ร่วมเป็นคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ในการตัดสินการประกวดในครั้งนี้ รวมถึงได้รับเกียรติจาก พลเอกสมบัติ ธัญญะวัน วิทยากรพิเศษประจำโครงการพระราชทานฯ เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอผลงาน ตลอดจนให้คำแนะนำและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้โครงการพระราชทานฯ ของเรือนจำ/ทัณฑสถาน
สำหรับผลการประกวดศูนย์การเรียนรู้ฯ มีดังนี้
ผลการประกวด ประเภทศูนย์การเรียนรู้ภายในเรือนจำ
- รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือนจำกลางเขาบิน ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท
- รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ เรือนจำกลางนครปฐม ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท
- รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือนจำจังหวัดจันทบุรี ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท
ผลการประกวดประเภท ศูนย์การเรียนรู้ภายนอกเรือนจำ
- รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรือนจำจังหวัดยโสธร ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท
- รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ เรือนจำกลางกำแพงเพชร ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท
- รางวัลชมเชย ได้แก่ เรือนจำกลางบางขวาง ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท