Think In Truth

มหากาพย์...'กัญชา'มหาภัยหรือยาวิเศษ ชาวโลก(ตอนจบ) โดย : ฅนข่าว 2499



ตำรับยาที่ 12ยาอไภยสาลี

ที่มาของตำรับยา : เวชศึกษา แพทย์ศาสตร์สังเขป เล่ม 1, 2, 3 พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. 127

“ยาอไภยสาลี เอาลูกจัน 1 สลึง ดอกจัน 2 สลึง ลูกกระวาน 3 สลึง กานพลู 1 บาท ลูกพิลังกาสา 1 บาท 2 สลึง ว่านน้ำ 1 บาท 3 สลึง โกฐสอ 2 บาท โกฐเขมา 2 บาท 1 สลึง เทียนเข้าเปลือก 2 บาท 2 สลึง เทียนแดง 2 บาท 3 สลึง เทียนขาว 2 บาท เทียนตาตั๊กแตน 2 บาท 1 สลึง เจตมูลเพลิง 3 บาท สมอไทย 3 บาท 1 สลึง สมอเทศ 3 บาท 1 สลึง หัวบุกรอ 3 บาท 3 สลึง สหัศคุณเทศ 1 ตำลึง 2 บาท จันทน์เทศ1 ตำลึง กัญชา 3 บาท 3 สลึง พริกล่อน 1 ตำลึง กินเช้าเย็นทุกวัน แก้สารพัดลม 80 จำพวก แก้โลหิต 20 จำพวก แก้ริดสีดวง 20 จำพวก ยานี้กินได้ 3 เดือน หายโรคาพยาธิมิได้มีเลย อายุวัฒนะทั้งเกิดปัญญารู้หลักนักปราชญ์มากกว่าคนทั้งปวง ถ้าผู้ใดพบให้ทำกินวิเศษนัก ใครกินยานี้ดุจยาทิพย์นั้นแลฯ”

สูตรตำรับยาประกอบด้วย ตัวยา 20 ชนิด รวมน้ำหนัก 757.50 กรัม ดังนี้

ลำดับ

ตัวยา

น้ำหนักยา

1

ลูกจันทน์

3.75 กรัม

2

ดอกจันทน์

7.50 กรัม

3

กระวาน

11.25 กรัม

4

กานพลู

15 กรัม

5

ลูกพิลังกาสา

22.50 กรัม

6

ว่านน้ำ

26.25 กรัม

7

โกฐสอ

30 กรัม

8

โกฐเขมา

33.75 กรัม

9

เทียนข้าวเปลือก

37.50 กรัม

10

เทียนแดง

41.25 กรัม

11

เทียนขาว

30 กรัม

12

เทียนตาตั๊กแตน

33.75 กรัม

13

เจตมูลเพลิง

45 กรัม

14

สมอไทย

48.75 กรัม

15

สมอเทศ

48.75 กรัม

16

หัวบุกรอ

56.25 กรัม

17

หัสคุณเทศ

90 กรัม

18

จันทน์เทศ

60 กรัม

19

กัญชา

56.25 กรัม

20

พริกไทยล่อน

60 กรัม

ข้อบ่งใช้                - แก้อาการจุกเสียดแน่น

รูปแบบยา              - ยาผง ยาแคปซูล

ขนาดและวิธีใช้   - รับประทานครั้งละ 2 กรัม วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ก่อนอาหาร

ข้อห้ามใช้             - ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีไข้ และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ข้อควรระวัง         

-  ควรระวังการรับประทานร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)

-   ควรระวังการใช้ร่วมกับยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนื่องจากตำรับนี้มีพริกไทยเป็นส่วนประกอบ

ข้อมูลเพิ่มเติม :   ยาอไภยสาลีเป็นสูตรตำรับเดียวกันกับยาอภัยสาลี ในบัญชียาหลักแห่งชาติปี 2561 เพียงแต่ในบัญชียาหลักแห่งชาติไม่ได้ใส่กัญชาในสูตรตำรับ เนื่องจากเสนอตำรับยาก่อนที่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ประกาศใช้

เอกสารอ้างอิง :   พิศณุประสาทเวช, พระยา. เวชศึกษา แพทย์ศาสตร์สังเขป เล่ม 1. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทย สพานยศเส; ร.ศ. 127 หน้า 72.

ตำรับยาที่ 13ยาแก้โรคจิต(อยู่ระหว่างการผลิต)

ที่มาของตำรับยา : อายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ) เล่ม 2

“1483. ยาแก้โรคจิต ขนานที่ 1 เอาเปลือกกุ่มน้ำ 2 บาท เปลือกมะรุม 6 บาท แห้วหมู เปล้าน้อย เปล้าใหญ่ รางแดง จันทน์เทศ เปลือกมะตูม ก้านกัญชา บอระเพ็ด เปลือกโมกมัน หญ้าชันกาด สนเทศ สิ่งละ 1 บาท ระย่อมเท่ายาทั้งหลาย รวมตำผงละลายน้ำร้อนแทรกพิมเสน กินครั้งแรกหนัก 2 ไพ ถ้านอนไม่หลับให้ทวียาขึ้นไปถึง 1 สลึง”

สูตรตำรับยาประกอบด้วย ตัวยา 14 ชนิด รวมน้ำหนัก 570 กรัม ดังนี้

ลำดับ

ตัวยา

น้ำหนักยา

1

เปลือกกุ่มน้ำ

30 กรัม

2

เปลือกมะรุม

90 กรัม

3

แห้วหมู

15 กรัม

4

เปล้าน้อย

15 กรัม

5

เปล้าใหญ่

15 กรัม

6

รางแดง

15 กรัม

7

จันทน์เทศ

15 กรัม

8

เปลือกมะตูม

15 กรัม

9

ก้านกัญชา

15 กรัม

10

บอระเพ็ด

15 กรัม

11

เปลือกโมกมัน

15 กรัม

12

หญ้าชันกาด

15 กรัม

13

สนเทศ

15 กรัม

14

ระย่อม

285 กรัม

ข้อบ่งใช้                - แก้โรคลมที่ทำให้กังวล เครียด นอนไม่หลับ

รูปแบบยา              - ยาผง ยาแคปซูล

ขนาดและวิธีใช้  

  • รับประทานครั้งแรก ครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ก่อนอาหาร
  • ถ้านอนไม่หลับ รับประทานครั้งละ 1 กรัม วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ก่อนอาหาร

น้ำกระสายยาที่ใช้ : น้ำร้อนแทรกพิมเสนถ้าหาน้ำกระสายยาไม่ได้ ให้ใช้น้ำสุกแทน

ข้อห้ามใช้

  • ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีไข้ และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ห้ามใช้ในผู้ที่ใช้ยาลดความดันโลหิต

ข้อควรระวัง :       ควรระวังการใช้ยาตำรับที่มีระย่อมเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากสารสำคัญซึ่งมีฤทธิ์ในการลดความดัน คือ สาร reserpine และอัลคาลอยด์อื่นๆ หากได้รับในขนาดที่สูงเกินไป มีผลกดการทำงานของประสาท ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ปากแห้ง คัดจมูก ท้องร่วง มึนงง หน้ามืด ใจสั่น ซึม มือแขนสั่น

ข้อมูลเพิ่มเติม

ยาแก้โรคจิตตำรับนี้ เป็นตำรับยาตามหนังสืออายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ) เล่ม ๒ ทั้งนี้ไม่ได้หมายถึงโรคจิตในความหมายของการแพทย์แผนปัจจุบัน (โรคทางจิตเวชและไบโพล่า)

ระย่อมจะต้องฆ่าฤทธิ์ตามกรรมวิธีก่อนนำไปปรุงยา

เอกสารอ้างอิง : นิทเทส (ถมรัตน์) พุ่มชูศรี. อายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ) เล่ม 2. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พร้อมจักรการพิมพ์; 2516. หน้า 158.

ตำรับยาที่ 14ยาไพสาลี(อยู่ระหว่างการผลิต)

ที่มาของตำรับยา : อายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ) เล่ม 2

“ ยา ไพสาลี ว่า พระพุทธเจ้า ทรงให้พระอานนท์ทำแจกเป็นทาน เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ สิ่งละ 1 สลึง กระวาน 1 สลึง 1 เฟื้อง กานพลู 2 สลึง ดีปลี 2 สลึง 1 เฟื้อง ลูกพิลังกาสา 3 สลึง ว่านน้ำ 3 สลึง 1 เฟื้อง เกลือสินเธาว์ 1 บาท เทียนดำ 1 เฟื้อง เทียนเยาพาณี 6 สลึง 1 เฟื้อง การบูร 7 สลึง สมอเทศ 7 สลึง 1 เฟื้อง เทียนข้าวเปลือก 6 สลึง สมอไทย 2 บาท สมอพิเภก 2 บาท 1 เฟื้อง โกฐสอ 9 สลึง โกฐเขมา 9 สลึง 1 เฟื้อง บุกรอ 7 สลึง ขิงแห้ง 10 สลึง 1 เฟื้อง เจตมูลเพลิง 7 สลึง หัสคุณเทศ 5 บาท กัญชา 30 บาท พริกไทยร่อน 60 บาท ยาทั้งนี้ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งน้ำอ้อยแดง น้ำนมโคก็ได้ กิน หนัก 1 สลึง กิน 3 เวลา แก้สารพัดโรค ไส้เลื่อนกล่อน หืดไอ กุษฐัง เสมหะ ตามืด ตาฟาง หูหนวก หูตึง ลมสติมักหลงลืม เจ็บตะโพก จุกเสียด ลมสลักอก ขี้เรื้อน คุดทะราด เป็นฝีในเพดานและลำคอ ลมมักให้หาวเรอ ให้รากสะอึก ลมสะแกเวียน นอนไม่หลับ ให้ง่วงเหงาหาวนอน ลมปวดมวนในท้อง เป็นป้างเป็นจุกผามม้ามย้อย หงอย เพ้อ พูดมิชัด ”

สูตรตำรับยาประกอบด้วย ตัวยา 23 ชนิด รวมน้ำหนัก 1,820.63 กรัม ดังนี้

ลำดับ

ตัวยา

น้ำหนักยา

 

1

ลูกจันทน์

3.75 กรัม

 

2

ดอกจันทน์

3.75 กรัม

 

3

กระวาน

5.625 กรัม

 

4

กานพลู

7.5 กรัม

 

5

ดีปลี

9.375 กรัม

 

6

พิลังกาสา

11.25 กรัม

 

7

ว่านน้ำ

13.125 กรัม

8

เกลือสินเธาว์

15 กรัม

9

เทียนดำ

1.875 กรัม

10

เทียนเยาวพาณี

24.375 กรัม

11

การบูร

26.25 กรัม

12

สมอเทศ

28.125 กรัม

13

เทียนข้าวเปลือก

22.5 กรัม

14

สมอไทย

30 กรัม

15

สมอพิเภก

31.875 กรัม

16

โกฐสอ

33.75 กรัม

17

โกฐเขมา

35.625 กรัม

18

บุกรอ

26.25 กรัม

19

ขิงแห้ง

39.375 กรัม

20

เจตมูลเพลิง

26.25 กรัม

21

หัสคุณเทศ

75 กรัม

22

กัญชา

450 กรัม

23

พริกไทยล่อน

900 กรัม

         

ข้อบ่งใช้                - แก้โรคลม แก้หืดไอ มีเสมหะ

รูปแบบยา              - ยาผง ยาแคปซูล

ขนาดและวิธีใช้   : รับประทานครั้งละ 2 กรัม วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร

น้ำกระสายยาที่ใช้ : น้ำผึ้งรวง น้ำอ้อยแดง น้ำนมโคถ้าหาน้ำกระสายยาไม่ได้ ให้ใช้น้ำสุกแทน

ข้อห้ามใช้ - ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีไข้ และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ข้อควรระวัง

- ควรระวังการรับประทานร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)

- ควรระวังการใช้ร่วมกับยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนื่องจากตำรับนี้มีพริกไทยในปริมาณสูง

- ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคแผลเปื่อยเพปติก และโรคกรดไหลย้อน เนื่องจากเป็นตำรับยารสร้อน

- ควรระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยสูงอายุ

- ควรระวังการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของตับ ไต เนื่องจากอาจเกิดการสะสมของการบูรและเกิดพิษได้

เอกสารอ้างอิง -นิทเทส (ถมรัตน์) พุ่มชูศรี. อายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ) เล่ม 2. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พร้อมจักรการพิมพ์; 2516. หน้า 223.

ตำรับยาที่ 15ยาทาริดสีดวงทวารหนักและโรคผิวหนัง

ที่มาของตำรับยา : อายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ) เล่ม 2

“เอาขมิ้นชัน ใบกัญชา สิ่งละ 15 กรัม น้ำมันเม็ดฝ้าย พอเปียก ใส่แก้ริดสีดวงทวารหนัก ใส่แก้โรคผิวหนังต่างๆ”

สูตรตำรับยาประกอบด้วย ตัวยา 3 ชนิด รวมน้ำหนัก 60 กรัม ดังนี้

ลำดับ

ตัวยา

น้ำหนักยา

1

ขมิ้นชัน

15 กรัม

2

ใบกัญชา

15 กรัม

3

น้ำมันเมล็ดฝ้าย

30 กรัม

ข้อบ่งใช้                - ทาแก้ริดสีดวงทวารหนัก ทาแก้โรคผิวหนัง (เช่น เรื้อนกวาง เรื้อนมูลนก)

รูปแบบยา              - ยาน้ำมัน

ขนาดและวิธีใช้-  ทาวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หลังอาบน้ำ

ข้อห้ามใช้ -

ข้อควรระวัง -ควรระวังการใช้กับผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของตำรับ

ข้อมูลเพิ่มเติม-

เอกสารอ้างอิง -   นิทเทส (ถมรัตน์) พุ่มชูศรี. อายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ) เล่ม 2. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พร้อมจักรการพิมพ์; 2516. หน้า 276.

ตำรับยาที่ 16ยาทัพยาธิคุณ(อยู่ระหว่างการผลิต)

ที่มาของตำรับยา : คัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณ ขุนโสภิตบรรณลักษณ์ เล่ม 2

“ยาชื่อทัพยาธิคุณ เอาสะค้าน ผักแพวแดง ดองดึง หว้านน้ำ ยาดำ มหาหิงคุ์ โกฐสอ โกฐจุลาลำพา โกฐพุงปลา กัญชา หัวอุตพิด เนื้อฝักราชพฤกษ์ ชะเอมเทศ ดีปลี แก่นแสมทะเล เอาสิ่งละ 1 ส่วน พริกไทยล่อนเท่ายาทั้งหลาย ตำเป็นผง เอาน้ำใบกำเม็ง น้ำลูกประคำดีควาย เคล้ายาผงตากแดดให้แห้งสิ่งละ 7 ครั้ง แล้วบดด้วยน้ำผึ้งกินหนัก 1 สลึง แก้กล่อน 5 ประการ ซึ่งให้จุกเสียดแลเป็นพรรดึก แก้ลมเป็นก้อนในอุทร ให้เจ็บทั่วร่างกาย เจ็บสะเอว มือเท้าตายกระด้างแลเมื่อยขบทุกข้อทุกลำ ขัดแข้งขา เจ็บทวารหนัก เบาพิการต่างๆ เจ็บศีรษะเวียนหน้าตา เจ็บไหล่ทั้งสอง ปากเปรี้ยว เสียงแหบแห้ง ขัดสีข้าง ขัดอก ท้องขึ้น กินอาหารไม่มีรส นอนไม่ใคร่หลับ โรคทั้งนี้เป็นเพราะเสมหะแห้ง บุรุษและสตรีเป็นเหมือนกัน”

สูตรตำรับยาประกอบด้วย ตัวยา 16 ชนิด รวมน้ำหนัก 30 ส่วน ดังนี้

ลำดับ

ตัวยา

น้ำหนักยา

1

สะค้าน

1 ส่วน

2

ผักแพวแดง

1 ส่วน

3

ดองดึง

1 ส่วน

4

ว่านน้ำ

1 ส่วน

5

ยาดำ

1 ส่วน

6

มหาหิงคุ์

1 ส่วน

7

โกฐสอ

1 ส่วน

8

โกฐจุฬาลัมพา

1 ส่วน

9

โกฐพุงปลา

1 ส่วน

10

กัญชา

1 ส่วน

11

อุตพิด

1 ส่วน

12

เนื้อในฝักราชพฤกษ์

1 ส่วน

13

ชะเอมเทศ

1 ส่วน

14

ดีปลี

1 ส่วน

15

แก่นแสมทะเล

7 ส่วน

16

พริกไทยล่อน

15 ส่วน

 

ส่วนประกอบอื่นในตำรับ

 
 

ใบกะเม็ง

 
 

ลูกประคำดีควาย

 

ข้อบ่งใช้ -แก้อาการจุกเสียด ท้องผูกอุจจาระเป็นก้อนแข็งเจ็บ เมื่อยขบตามร่างกาย กินอาหารไม่รู้รส นอนไม่หลับ

รูปแบบยา - ยาผง ยาแคปซูล

ขนาดและวิธีใช้ - รับประทานครั้งละ 2 กรัม วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ก่อนอาหาร

น้ำกระสายยาที่ใช้ –น้ำผึ้งรวงถ้าหาน้ำกระสายยาไม่ได้ ให้ใช้น้ำสุกแทน

ข้อห้ามใช้- ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีไข้ และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ข้อควรระวัง

- ควรระวังการรับประทานร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)

- ควรระวังการใช้ร่วมกับยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนื่องจากตำรับนี้มีพริกไทยในปริมาณสูง

- ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคแผลเปื่อยเพปติก และโรคกรดไหลย้อน เนื่องจากเป็นตำรับยารสร้อน

- ควรระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยสูงอายุ

ข้อมูลเพิ่มเติม -กล่อน 5 ประการ ได้แก่ กล่อนดิน กล่อนน้ำ กล่อนลม และกษัยกล่อน /

ดองดึงจะต้องฆ่าฤทธิ์ตามกรรมวิธีก่อนนำมาปรุงยา

เอกสารอ้างอิง –ขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร). คัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณ เล่ม 2. กรุงเทพฯ โรงพิมพ์อุตสาหกรรมการพิมพ์; 2504. หน้า 293.