Digitel Tech & Innovation
'Space Journey Bangkok' นิทรรศการ อวกาศระดับโลก16ธ.ค.67-16เม.ย.68
กรุงเทพฯ-“อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ” จับมือ “ภิรัชบุรี กรุ๊ป” เปิดโลกการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจครั้งใหญ่ให้กับเยาวชนไทยและผู้ที่สนใจด้านอวกาศ ดึงสุดยอดนิทรรศการด้านอวกาศระดับโลก มาจัดแสดงขึ้นที่ประเทศไทย นับเป็นครั้งแรกของเอเชีย ภายใต้ชื่อ “SPACE JOURNEY BANGKOK” พบกับ 10 ห้องนิทรรศการเสมือนจริงเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของการสำรวจอวกาศ ห้องรวบรวมชิ้นส่วนยานอวกาศที่ผ่านการใช้จริงและแบบจำลองที่หาชมยากกว่า 600 ชิ้น จากสหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2567 – 16 เมษายน 2568 ณ Event Space 98 ไบเทคบุรี (ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา)
นายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า อินเด็กซ์ ครีเอทีฟได้ร่วมกับ ภิรัชบุรี กรุ๊ป จัด “SPACE JOURNEY BANGKOK” สุดยอดนิทรรศการด้านอวกาศระดับโลก
งานนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน มาร่วมเปิดมุมมองพร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศของไทยในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ดร. ปกรณ์ อาภาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และนายกรทอง วิริยะเศวตกุล แฟนพันธุ์แท้ระบบสุริยะ พร้อมด้วย นายดำรง ลี้ไวโรจน์ บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด ในเครือ อมรินทร์ กรุ๊ป
ที่ผ่านมา นิทรรศการอวกาศระดับโลกนี้ มีการจัดแสดงไปแล้ว 5 ประเทศในยุโรป ภายใต้ชื่อ “Cosmos Discovery Space Exhibition” ซึ่งมีผู้เข้าชมงานรวมกว่า 1 ล้านคน โดยการจัดแสดงในประเทศไทยครั้งนี้ มีเป้าหมายผู้เข้าชมงาน 200,000 คน ในระยะเวลา 4 เดือน
“เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านอวกาศ มีความเกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันอยู่ตลอด จากที่เคยได้มีโอกาสเข้าชมงานในต่างประเทศ ทำให้ได้เปิดมุมมองใหม่และเกิดแรงบันดาลใจ ได้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์ในการออกไปสู่นอกโลก เป็นสิ่งที่เหนือขีดจำกัดและเกินกว่าจินตนาการ จึงเกิดความคิดในการจุดประกายอยากให้คนไทยได้เห็น จนนำมาซึ่งการจัดงาน Space Journey Bangkok ครั้งแรกที่ประเทศไทย และเป็นครั้งแรกในเอเชีย สมกับความตั้งใจและเป้าหมายเพื่อเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ให้กับคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ได้มาจุดประกายความคิดและสร้างแรงบันดาลใจด้านอวกาศ เพื่อนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศในอนาคต” นายเกรียงกานต์ กล่าว
นายปิติภัทร บุรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภิรัชบุรี กรุ๊ป นักจัดการ สร้างสรรค์ และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ระดับคุณภาพ อาทิเช่น ไบเทคบุรี ภิรัช ทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ กล่าวว่า การศึกษานั้น จริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องในห้องเรียน หรืออ่านหนังสือ หรือค้นคว้าผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งอีกหนึ่งในการเรียนรู้ที่ช่วยส่งเสริมเราได้ คือการได้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที่ดี (Education through Experience) เราได้มีโอกาสไปดูพิพิธภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สังเกตว่าพิพิธภัณฑ์ที่ดีต้องทันสมัย เข้าถึงได้ และมากกว่านั้นคือ สามารถนำมาสะท้อนการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้ ซึ่ง Space Journey Bangkok เป็นหัวข้อที่ตอบโจทย์นั้น
และเพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ครบถ้วน ค่าใช้จ่ายในการนำ Space Journey Bangkok เข้ามาจัดแสดงนั้นจึงค่อนข้างสูง รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ การนำอุปกรณ์เข้ามา และขนาดของพื้นที่ ที่ต้องใช้ถึง 2,000 ตารางเมตร จึงอยากให้ คนไทยและเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนได้มีโอกาสชมงาน Space Journey Bangkok ครั้งนี้ โดยได้พิจารณาให้เปิดเข้าชมถึง 4 เดือน ซึ่งคิดว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ทุกคนสามารถจัดสรรเวลาเข้ามาชมงานได้
ในส่วนของการร่วมจัดงานกับ Index Creative Village นั้น เราร่วมงานกันหลายโครงการอยู่แล้ว และได้เห็นความมุ่งมั่น ทุ่มเทของทีมงาน และศักยภาพของ Index Creative Village ในงานระดับโลก จึงเชื่อมั่นและไว้วางใจในการร่วมมือกันครั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับคนไทยต่อไป
อย่างไรก็ดี ในพื้นที่ไบเทคบุรี มีการรองรับได้มากกว่า 400 กว่างาน และปีนี้เราคาดการณ์ว่าจะมีถึง 7 ล้านคนที่เข้ามายังสถานที่ของเรา เราได้พัฒนาธุรกิจด้านความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิง Sport Service Entertainment ที่ BEAT Active และ BITEC Live ที่รองรับการจัดคอนเสิร์ตซึ่งเพิ่งเปิดตัวไป โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ People & Business, Active Lifestyle, Family, Group of friend นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการจัดงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โดยในช่วง 4 เดือนนี้ จะมีถึง 8 งานที่จัดขึ้นเพื่อกลุ่มเด็กและนักศึกษา และไบเทคบุรีเล็งเห็นความสำคัญของตลาดกลุ่ม B2C โดยเชื่อมั่นว่าความหลากหลายของกิจกรรมจะช่วยต่อยอดธุรกิจและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในระดับที่สูงขึ้น
การนำ Space Journey Bangkok มาจัดในครั้งนี้ ช่วยส่งเสริมกลุ่มการศึกษาให้มากขึ้น ซึ่งคนไทยหลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่าเรื่องที่อยู่นอกโลกมันเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้ว ประเทศไทยของเรามีศักยภาพและความสามารถในหลากหลายด้านที่น่าทึ่งกว่าที่หลายคนคาดคิด เช่น อาหารไทยที่ผ่านมาตรฐานระดับสากลจนได้รับเลือกให้เป็นอาหารสำหรับนักบินอวกาศ หรือเทคโนโลยีไมโครชิปและดาวเทียมที่ผลิตโดยคนไทย รวมถึงนักวิชาการไทยที่ร่วมงานกับองค์กรชั้นนำระดับโลกอย่างนาซ่า เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการเดินทางสู่อวกาศมิใช่เรื่องไกลตัวสำหรับคนไทยอีกต่อไป
“นิทรรศการครั้งนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสและเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศอย่างใกล้ชิด ผ่านการจัดแสดงแบบจำลองและชิ้นส่วนจริงที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจอวกาศจากทั่วโลก เราหวังว่านิทรรศการครั้งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่นำไปสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต” นายปิติภัทร กล่าวทิ้งท้าย
ภายในนิทรรศการจะแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ ที่มีการบอกเล่าตั้งแต่ประวัติศาสตร์การเริ่มต้นขึ้นไปสำรวจอวกาศตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน ห้องให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของการสำรวจอวกาศห้องรวบรวมวัตถุจริงและวัตถุหาชมยากกว่า 600 ชิ้น ทั้งจากสหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต และอื่นๆ นำมาจัดแสดงใน 10 ห้องนิทรรศการในรูปแบบเสมือนจริง, โซนโลกจักรวาลแบบ Interactive พร้อมมอบประสบการณ์ชมภาพยนตร์ 3 มิติ และกิจกรรมแห่งความสนุกสนาน ต่างๆ อาทิ คอสมอส แคมป์ (Cosmos Camp) พบกับศูนย์ฝึกอบรมนักบินอวกาศ การขับขี่ VR รวมถึงเครื่องไจโรสโคป เป็นต้น
ไฮไลต์ที่น่าสนใจสำหรับนิทรรศการในครั้งนี้ ผู้เข้าชมจะได้พบกับ
·ชิ้นส่วนประกอบดั้งเดิมของเครื่องยนต์ F1 ของกระสวยอวกาศ แซทเทิร์น V (Saturn V) ที่กอบกู้มาจากก้นมหาสมุทรแปซิฟิก โดย Jeff Besos เจ้าของ Amazon ซึ่งเป็นวัตถุที่มีคุณภาพสูง จะเห็นได้ว่าตัววัตถุนี้เองยังสามารถคงรูปร่างได้ดี แม้จะอยู่ในที่ที่อุณหภูมิต่ำในมหาสมุทร หรือผ่านจุดที่อุณหภูมิสูงใกล้จุดหลอมเหลวมาแล้วก็ตาม
·แผงควบคุมต้นฉบับจากศูนย์บัญชาการภารกิจฮูสตัน ที่วิศวกรได้ใช้สื่อสารกับนักบินอวกาศในภารกิจ Apollo และกระสวยอวกาศชุดแรกๆ และที่น่าสนใจคือกระดาษที่มีการคำนวณเส้นทางการบินต่างๆ ที่เหล่าวิศวกรได้คำนวนด้วยมือ วางไว้อยู่ด้านข้าง
·แบบจำลอง 1:1 ของโมดูลควบคุมยาน Apollo โมเดลนี้ได้ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมตามยุคสมัยตลอดระยะเวลาการบิน ซึ่งนักบินอวกาศต้องอยู่ในพื้นที่แคบที่ต้องแบ่งปันพื้นที่กับวัสดุที่เก็บมาด้วย เช่น ชิ้นส่วนหินจากดวงจันทร์
·แบบจำลองรถสำรวจดาวอังคาร หุ่นยนต์ที่ทำงานหนักที่สุดนอกโลกจากเดิมมีแผนทำงาน 90 วันแต่สุดท้ายทำงานถึง 5,498 วัน
·แบบจำลองของยานสำรวจดวงจันทร์ ช่วยนักบินอวกาศไม่ต้องเดินเท้าในภารกิจ Apollo 15, 16 และ 17
·รถสำรวจดวงจันทร์ Lunokhod ของรัสเซีย ส่งขึ้นไปแทนมนุษย์บนยาน Luna ผ่านการควบคุมจากศูนย์ควบคุมภาคพื้นดิน
·Collection ของอุกกาบาต รวมหินจากดาวอังคารของสะสมที่มีเอกลักษณ์มูลค่าต่อกรัมสูงกว่าทองคำ
สำหรับผู้สนใจเข้าชมงานสามารถติดต่อซื้อบัตรและติดตามข่าวสารได้ทาง www.icvticket.com, Facebook : SpaceJourneyBkk หรือ Line: @icvticket